“บ้านตาเกลือ” รักบ้านเกิด ผลักดัน “อาหารตราด” ขึ้นเป็นเมนูบนแผนที่โลก
เรื่องราวนับจากนี้ เป็นเรื่องราวของผู้หญิงตราดคนหนึ่ง ที่รักบ้านเกิด รักอาหารท้องถิ่น และอยากให้ทุกคนบนโลก ได้รู้จักทุกอย่างที่หล่อหลอมรวมเป็นตัวเธอ
“พื้นเพของคุณแม่ เป็นคนจังหวัดตราด ท่านแต่งงานกับคุณพ่อ พล.ต.ต. สมชัย ศรีภิญโญ คุณพ่อเริ่มต้นเงินเดือนเดือนแรก 900 บาท ซึ่งคุณแม่ดูแล้ว บ้านเราไม่พอกินแน่ จึงขยันทำงานทำธุรกิจค้าขาย คุณแม่ บอกลูกหลานเสมอว่า ฉันมีธุรกิจเป็นของตัวเองตั้งแต่อายุ 15 แล้ว” คุณโรส อุนนิ เริ่มต้นด้วยการเอ่ยถึง คุณศรีรัตน์ ศรีภิญโญ คุณแม่ของเธอ ด้วยแววตาชื่นชม
ก่อนเล่าต่อ คุณแม่ของเธอเป็นคนสวย ช่างสังเกต ท่านนั่งดูเตี๊ย (คำเรียกคุณตาของคนตราด) เอาเรือมาดไม้ออกทะเลและได้ของทะเลสดๆ มาจากทะเลทุกวัน เตี๊ยจะทำอาหารตามวิถีชาวประมงสมัยโน้นให้แม่และทุกคนในครอบครัวกินกันอาหารในแบบชาวประมงของเตี๊ยคือ การใช้ของทะเลสดๆ ใช้เกลือ น้ำตาลอ้อย พริกสดสมุนไพร และ ผักพื้นถิ่นเป็นหลัก ไม่มีน้ำมันหอย ไม่มีผงชูรส ไม่มีน้ำตาลทรายขาว
แม้แต่น้ำปลา ก็เป็นของแพงหายากในสมัยนั้น อาหารที่เตี๊ยทำให้ทานบ่อยๆ ที่คุณแม่ของเธอจำได้สมัยนั้น เช่น ข้าวคลุกพริกเกลือทะเล ก้านโกงกางจิ้มน้ำพริกกะปิหอม ต้มแซ่บกระวาน ทะเลผัดกระวาน ต้มส้มระกำปลาดี
และการที่คุณแม่ของเธอ เป็นพี่สาวคนโตของบ้าน ต้องดูแลน้องๆ ทำอาหารให้ทานเวลาที่เตี๊ยไม่อยู่ จึงมีโอกาสฝึกฝีมือ ในแบบฉบับของตัวเองทุกวันตั้งแต่เด็ก บวกกับความเป็นคนช่างคิดประดิษฐ์สิ่งใหม่ๆ จึงมีอาหารสูตรใหม่ที่แตกต่างไปจากสูตรเตี๊ย มาให้น้องได้ชิมเสมอ
กระทั่งคุณแม่ของเธออายุได้ 19 ปี ผู้ว่าฯ ตราด มาขออนุญาตจากครอบครัว ให้คุณแม่ของเธอ ไปเป็นตัวแทนคนตราด ขึ้นเวทีประกวดนางสาวไทยที่กรุงเทพฯ นั่นเป็นครั้งแรกที่ท่านได้เข้ากรุงเทพฯ และมีภรรยาท่านผู้ว่าฯ เป็นพี่เลี้ยง ท่านพาคุณแม่ของเธอเข้าเก็บตัว ฝึกเตรียมตัวเพื่อเข้าประกวดในเวทีระดับประเทศเป็นเวลาหลายเดือน
ช่วงเวลานั้นคุณแม่ของเธอ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่มากมาย ทั้งผู้คน อาหารในเมืองกรุง การเข้าสังคม ในขณะที่ซึมซับสิ่งใหม่ในเมืองกรุง
ปัจจุบัน คุณแม่ของเธอ ได้มีโอกาสนำความเป็นคนตราด อาหารตราดที่ท่านรัก มาปรุงให้คนกรุงได้ชิม เป็นครั้งแรกด้วย ในนามร้านอาหาร “ศรีตราด” ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 33 ซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อราว 6 ปีก่อน
ร้านอาหารศรีตราด จึงเป็นคล้ายตัวแทนเรื่องราวที่เล่าถึงชีวิตคุณศรีรัตน์ ช่วงอายุ 19 ปี สาวสวยที่นำอัตลักษณ์ของคนตราดมาให้ชาวกรุงได้รู้จัก ว่าตราด มีดีอะไรบ้าง จึงเป็นที่มาของสโลแกน “จากโกงกาง สู่กลางกรุง”
“คุณแม่ อยากให้คนกรุง ได้ชิมรสชาติตราดในแบบฉบับสาวตราด ท่านเลือกที่จะสั่งวัตถุดิบตรงมาจากตราด เกาะช้าง เกาะกูด เพื่อให้ชาวกรุงได้เข้าถึงรสชาติตราดดั้งเดิมที่คุ้นเคยและจำได้ ไม่มีผงชูรส ไม่มีน้ำมันหอย มีแต่น้ำปลาแท้ กะปิหอม อาหารทะเลสด และผักสมุนไพรจากตราด” คุณโรส เล่า
บ้านปู รีสอร์ต – หมู่บ้านอาน่า กิจการที่ภาคภูมิใจ
อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่า คุณศรีรัตน์ คุณแม่ของคุณโรสนั้น เป็นคนขยันทำมาหากิน ผ่านการทำธุรกิจน้อยใหญ่มาตลอด โดยเมื่อราว 30 ปีก่อน มีคนมาขายที่ดินติดทะเลบนเกาะช้างให้ เธอจึงตัดสินใจซื้อทันทีด้วยเงินเก็บทั้งชีวิต แม้เกาะช้าง ช่วงเวลานั้น ถนนจะเป็นลูกรัง มีแต่บังกะโลเล็กๆ ส่วนใหญ่ใช้ตะเกียงกันตอนกลางคืน
“บ้านปู คือ รีสอร์ตแห่งแรกของคุณแม่ และเป็นรีสอร์ตแรกบนเกาะช้างที่มีสระว่ายน้ำมาตรฐานสากล หลังสร้างเสร็จ ตัวเราเองกำลังทำงานทางด้านโฆษณา หลังเรียนจบจากต่างประเทศได้ไม่นาน ท่านบอกให้ช่วยกันทำต่อ จึงลาออกจากงานทันที เพราะใจต้องการกลับมาช่วยอยู่แล้ว เพราะลืมตามาก็เห็นท่านทำงานเหนื่อยเพื่อครอบครัวมาตลอด” คุณโรส เล่าอย่างนั้น
ถัดจากนั้นไม่นาน คุณแม่ของเธอได้ที่ดินบนเกาะช้างมาอีกผืน มีภูเขาอยู่กลางที่ดิน ทิวทัศน์โดยรอบสวยงามมาก จึงตัดสินใจสร้างรีสอร์ตแห่งที่ 2 ให้ชื่อว่า “อาน่า วิลล่า เกาะช้าง” โดยตั้งใจอยากให้เป็น “หมู่บ้านอาน่า” ที่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนเกาะช้าง มีร้านกาแฟเล็กๆ มีร้านอาหารถิ่น ให้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ที่มาเยี่ยม ได้รับรู้ถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ของคนพื้นถิ่นที่นี่
“ปีแรกที่เปิดอาน่า พระองค์โสมฯ เสด็จเยือนเป็นการส่วนพระองค์ ท่านได้ข่าวว่ามีรีสอร์ตสวย แปลกกว่าที่อื่น เพิ่งสร้างเสร็จบนเกาะช้าง ท่านได้นั่งรับประทานอาหาร และนั่งเรือเข้าไปชมป่าโกงกางและชมหิ่งห้อย นั่งร้องเพลงไปบนเรืออย่างมีความสุข ท่านบอกกับเราว่า ท่านชอบที่นี่มาก” คุณโรส เล่าปลาบปลื้ม
หลังจากธุรกิจรีสอร์ตทั้ง 2 แห่ง ประสบความสำเร็จ รวมทั้งร้านอาหาร “ศรีตราด” ได้การตอบรับอย่างดี ล่าสุด คุณศรีรัตน์ อยากกลับไปทำประโยชน์ให้กับบ้านเกิด อยากให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเยี่ยมเกาะช้าง ได้กลับไปพร้อมความสุขและประสบการณ์ที่รู้จักคนตราดมากขึ้น เข้าใจวัฒนธรรมและวิถีแบบตราดมากขึ้น ผ่านทางรสชาติอาหารถิ่นตราดที่ตั้งใจและใส่ใจในทุกรายละเอียดมาตลอดชีวิต
ร้านอาหาร “บ้านตาเกลือ” บนเกาะช้าง จึงเป็นอีกหนึ่งกิจการที่เจ้าของเรื่องราวครั้งนี้ ภูมิใจ
“ที่ บ้านตาเกลือ คุณแม่ท่านซื้อเรือมาดไม้เก่าโบราณไว้ 3 ลำ ท่านชอบย้อนคิดถึงสมัยเด็กที่เตี๊ยใช้เรือแบบนี้ไว้ไปหาอาหารทะเลและพานั่งเรือเที่ยว คุณแม่จึงนำเรือมาด นี้มาแต่งให้สวยงาม เพื่อให้เพื่อนที่มาเยี่ยมเรา ได้นั่งเรือไปชมพระอาทิตย์ตก กินอาหารจิบไวน์บนเรือ ชมป่าโกงกาง และชมหิ่งห้อย เหมือนตอนเด็กที่ท่านมีความสุขมากทุกครั้ง ที่ได้นั่งออกไปเที่ยวกับเตี๊ย” คุณโรส เล่า
และว่า ที่ร้านอาหาร บ้านตาเกลือ นั้น มีอาหารพื้นบ้านเมืองตราด ที่คุณแม่ของเธอ แบ่งเป็นชุด อาทิ
เมนูชุดที่ 1 เป็นอาหารแบบของเตี๊ย ที่คุณแม่ของเธอจำได้และคุ้นเคยตั้งแต่สมัยเด็ก อาหารแบบเตี๊ย เป็นอาหาร เรียบง่าย อร่อยแบบชาวบ้าน สดๆ จากชาวประมง กินได้บ่อยไม่รู้เบื่อ เช่น ข้าวคลุกพริกเกลือทะเล น้ำพริกกะปิเคยสดจิ้มยอดอ่อนโกงกาง ต้มแซ่บกระวาน ต้มส้มระกำปลาดี ผัดเผ็ดกระวานทะเล ลูกจากเชื่อมน้ำกะทิ ขนมจ้างลูกสำรอง เป็นต้น
เมนูชุดที่ 2 เป็นอาหารตราดในแบบที่คุณแม่ของเธอเก็บเกี่ยวสะสมประสบการณ์ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงปัจจุบัน เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน ใช้แหล่งวัตถุดิบจากชุมชน จากชาวประมง ชาวบ้าน ตามฤดูกาล มาร้อยเรียงในแบบฉบับคนตราด เช่น ใบโกงกางสอดไส้ทอด ผัดเผ็ดกระวานสะตอ หลนปูใบไม้ ปลาย่ำสวาทนึ่งมะนาว ปลาน้ำดอกไม้พล่า แกงชะมวง วุ้นเส้นปลาหมึกกะปิ หมูสับปลาเค็มตราด ก๋วยเตี๋ยวผัดปู ขนมบันดุ๊ก ขนมควยตาอุ้ย เป็นต้น
เมนูชุดที่ 3 เป็นอาหารไทยในแบบผู้หญิงตราดอย่างคุณแม่ของเธอทำ เพราะที่ผ่านมา เพื่อนๆ ที่ไปเยี่ยมเยียนเกาะช้าง มีชาวต่างชาติหลากหลาย อาจรู้จักอาหารไทยไม่กี่อย่าง เช่น แกงมัสมั่น ไก่ผัดกระเพราะ แกงเขียวหวาน ต้มยำทะเล เป็นต้น คุณแม่ของเธอ ก็จะทำเมนูเหล่านี้ไว้ให้เพื่อนกลุ่มนี้ทานด้วย
“ถึงวันนี้ คุณแม่ มีความหวัง อาหารตราดที่ท่านรัก วิถีตราด วัฒนธรรมตราด ที่ท่านรัก จะสามารถเก็บรักษาไว้ได้ และส่งต่อให้คนบนโลกได้รู้จัก เมื่อพวกเขามาเยี่ยมเยียนบ้านเกิดของคุณแม่ ท่านจะส่งผ่านเมนูอาหาร ผ่านประสบการณ์การล่องเรือมาดที่อุตส่าห์เก็บรักษาไว้ด้วยความรัก”
“ท่านหวังว่าสักวัน อาหารตราด จะได้เป็นอาหารหนึ่งที่อยู่บนแผนที่โลก เหมือนที่ต้องไปกินครัวซองต์ที่เมืองเวียนนา กินพิซซ่า ที่เมืองนาโปลี กินโดซ่าที่เคราล่า และ กินข้าวคลุกพริกเกลือทะเล ต้องที่ตราด” คุณโรส ทิ้งท้ายหนักแน่น
อยากสัมผัสประสบการณ์ ที่ “บ้านตาเกลือ” “Baan Ta-Klua” เกาะช้าง จังหวัดตราด ติดต่อสอบถาม-จองโต๊ะ : โทร. 098-484-2111 Line : @BaanTaKlua FB Inbox : บ้านตาเกลือ Baan Ta Klua IG : www.instagram.com/Baan Ta Klua/ TikTok : baantaklua
ส่วน “อาน่า วิลล่า เกาะช้าง” จอง/สอบถาม Reservation Call : 081-702-2455, 061-593-2232 FB Inbox : m.me/AANAVilla IG : www.instagram.com/aana.villa_kohchang/ Line : @aanaresort
https://lin.ee/1KmtILp Book via web : www.aanaresort.com
และสิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีที่ AANA Villas Koh Chang รับส่วนลด 20% ห้องพัก Villas with Plunge Pool ทุกประเภท จากราคาพิเศษ Green Season Rate เมื่อจองตรงกับโรงแรม ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 67 – 31 ต.ค. 67 รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.ktc.co.th/promotion/hotel-resort/domestic-hotel/aana-resort-and-spa-koh-chang
เคทีซี เผยหมวดประกันมีการใช้จ่ายสูงสุดในพอร์ตตลาดบัตรเครดิตอย่างต่อเนื่อง ด้วยความร่วมมือกับพาร์ตเนอร์บริษัทประกันชั้นนำ เปิดตัวแคมเปญที่หลากหลายสิทธิประโยชน์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิกบัตรเคทีซีทุกเจเนอเรชัน ไม่ว่าจะเป็นการชำระเบี้ยประกันปีแรกหรือปีต่ออายุ นายสุวัฒน์ เทพปรีชาสกุล ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีในหมวดประกันในปี 2567 เติบโตขึ้น มากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปี 2566 ซึ่งในปี 2568 นี้ เคทีซีจะนำเสนอสิทธิประโยชน์ให้แก่สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซี ที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ทุกความต้องการในหลากหลายรูปแบบทั้งประกันชีวิต ประกันสุขภาพ รวมถึงประกันภัย กว่า 50 บริษัท เมื่อซื้อพร้อมชำระเบี้ยประกันปีแรกและปีต่ออายุ ทั้งชำระเต็มจำนวนและผ่อนชำระ” ซึ่งในหมวดประกันชีวิตและประกันสุขภาพ การชำระเต็มจำนวนเบี้ยประกันปีแรก และปีต่ออายุกับ พันธมิตรบริษัทประกันชั้นนำที่ร่วมรายการ ได้แก่ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต เอไอเอ เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต และกรุงเทพประกันชีวิต ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 – 30 มิถุนา
โก โฮลเซลล์ ลุยเคาะรั้วมหาวิทยาลัย ชี้ช่องตำแหน่งงาน นำร่อง ม.มหาสารคาม เจาะนิสิตเฉพาะทาง เพิ่มผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ ตอกย้ำ Brand Core Value โก โฮลเซลล์ (GO WHOLSALE) ศูนย์ค้าส่งวัตถุดิบอาหาร ที่มีความสดใหม่ตลอดเวลาเพื่อผู้ประกอบการ ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เร่งค้นหาโอกาสที่สดใหม่ ด้านการเฟ้นหาทรัพยากรบุคคล ลุยชี้แนะนักศึกษาถึงรั้วมหาวิทยาลัย เน้นทำงานตรงสายเสริมแกร่งผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจ นำร่องที่แรก ‘มหาวิทยาลัยมหาสารคาม’! นางสาวยิ่งลักษณ์ นิพนธ์ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด โฮลเซลล์ จำกัด กล่าวว่า โก โฮลเซลล์ มีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอทางเลือกที่สดใหม่ในทุกมิติ รวมถึงในมิติของการเฟ้นหาบุคลากรที่ธุรกิจค้าส่งวัตถุดิบอาหารมีความต้องการสูง โดยเฉพาะผู้จบการศึกษาในสาขาเฉพาะทางที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจที่กำลังอยู่ในช่วงขยายงาน ล่าสุดได้เปิดตัวกิจกรรม University Road Show ครั้งที่ 1/2568 เพื่อจับคู่ตำแหน่งงานที่ตรงกับสาขาการเรียนของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย โดยเริ่มที่มหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นแห่งแรก ซึ่งในธ
เข้าสู่หน้าร้อนอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่าประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องอากาศร้อนและร้อนมาก เราต้องเผชิญและปรับไลฟ์สไตล์ที่มาพร้อมสภาพอากาศที่ร้อนและมีความชื้นสูง จะดีกว่าไหม…หากเราเตรียมพร้อมและป้องกัน เพราะร่างกายอาจสูญเสียน้ำได้ง่าย ผิวพรรณของเราก็สูญเสียความชุ่มชื้นและต้องสัมผัสกับรังสียูวีจากแดดที่ร้อนแรง และที่สำคัญ ร่างกายก็ยังเกิดกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ได้ นำไปสู่การสะสมของแบคทีเรียและก่อให้เกิดการระคายเคืองบริเวณผิวหนังได้อีกด้วย การศึกษาจากสถาบันวิจัยชั้นนำ ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบของผิวพรรณในหน้าร้อนอย่างน่าสนใจ โดยวิเคราะห์ภาพรวมฤดูร้อนของประเทศไทยในปัจจุบัน มีอุณหภูมิสูงเฉลี่ย 37-43 °C มาพร้อมค่าดัชนีรังสียูวี หรือ UV Index สูงถึง 11-13 ที่มีส่วนสร้างผลเสียสู่ผิวพรรณและอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย ผลสำรวจชี้ให้เห็นว่า เมื่อผู้คนอยู่ในสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งจัด จะทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้ง่าย หากดื่มน้ำไม่เพียงพอ ก็ยิ่งส่งผลให้ผิวแห้งและระคายเคือง โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา ก็จะทำให้เกิดอาการขาดน้ำอีกด้วย แม้กระทั่งในกลุ่มวัยรุ่นยังพบว่ามีปัญหาสิวและผิวมันมากขึ้น เนื่องจากความร
ห้างเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล คิกออฟความสนุกครั้งใหญ่ เดินเครื่องสาดสีสันรับสงกรานต์-ซัมเมอร์ จัดอีเวนต์ที่แซ่บที่สุดแห่งปี เนรมิตโมเมนต์แห่งความประทับใจในมิติใหม่ด้วยอีเวนต์ปาร์ตี้ ชุดนอนสุดชิกในงาน “Central Midnight Sale – The Late Night Club Music Experience” สร้างปรากฏการณ์ใหม่ชวนลูกค้า สวมชุดนอนมาช้อปปิ้ง กิมมิกเก๋ๆ จากแคมเปญเซลระดับตำนาน “Central Midnight Sale” (เซ็นทรัลมิดไนต์เซล) สานต่อจุดแข็งแบรนด์ดี ดีลปัง เป็นงานเซลที่ครองใจสายช้อปมาอย่างยาวนานให้ช้อปอย่างคุ้มค่า โดยครั้งนี้นำเสนอผ่านคอนเซ็ปต์ #ดีลดีไม่ได้อยู่ในฝัน เพราะเกิดขึ้นจริงแล้วที่งานนี้!! รังสรรค์ทุกพื้นที่เพื่อยกระดับประสบการณ์เหนือความคาดหมายในรูปแบบปาร์ตี้มิวสิกในห้าง! ปลุกทุกเอเนอร์จี้ของพลังนักช้อปให้เอนจอยไปกับกิจกรรมไฮไลต์ งานนี้ลูกค้าที่สวมชุดนอนมาร่วมงานยังได้รับสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟ พร้อมร่วมสนุก กับเหล่าดารา อินฟลูเอนเซอร์ที่มาร่วมทำคอนเทนต์และกิจกรรมในงานต่างๆ มากมาย ภายในงาน “Central Midnight Sale The Late Night Club Music Experience” จัดขึ้นบริเวณโซนเอเทรียม ชั้น G ห้างเซ็นทรัลชิดลม ด้วยกิจ
ในยุคที่ไม่ว่าใครก็สามารถขายของได้บนโลกออนไลน์ ทำให้การมี “สินค้าที่ดี” อาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะเกิดการแข่งขันสูง ลูกค้ามีตัวเลือกมากมาย และสามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่ายกว่ายุคก่อน ทำให้สิ่งที่กลายเป็นหัวใจสำคัญของการขายของออนไลน์ในตอนนี้ คือ การสร้างตัวตน หรือ Personal Branding นั่นเอง เพราะเมื่อแบรนด์มีเอกลักษณ์ ลูกค้าจดจำได้ ก็จะยิ่งขายได้ง่ายมากขึ้น วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะพาไปไขเคล็ดลับ “เทคนิคการปั้นแบรนด์โดยการสร้าง Personal Branding” ที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าไม่ได้ซื้อของแค่จากร้านค้า แต่ซื้อจากเพื่อนที่รู้จักและไว้ใจ และยิ่งตัวตนชัดเจน แตกต่างจากคู่แข่ง จะสามารถเพิ่มยอดขายได้ในระยะยาว ทำไมต้องมี Personal Branding? อย่างแรกการสร้างตัวตนให้ชัดเจน จะเกิดความ “แตกต่างจากคู่แข่ง” ซึ่งไม่ต้องแข่งขันกันที่ราคาอย่างเดียวเท่านั้น ต่อมาเป็นการ “สร้างความน่าเชื่อถือ” ให้กับแบรนด์ ทำให้ลูกค้ากล้าซื้อเพราะรู้จักกับเรามากขึ้น และสุดท้ายก็จะกลับมาที่เรื่องของ “ยอดขาย” เมื่อผู้ติดตามเพิ่มขึ้น จะทำให้เกิดการซื้อขายกันต่อได้ในระยะยาว เทคนิคสร้างคาแร็กเตอร์ให้แตกต่าง 1. กำหนดบุคลิก เป็นกา
