เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Exclusive Featured ข่าววันนี้

ซอฟต์พาวเวอร์ รุ่นบุกเบิก “มณีไทย” ร้านอาหารสร้างชื่อไกลถึง USA

ซอฟต์พาวเวอร์ รุ่นบุกเบิก “มณีไทย” ร้านอาหารสร้างชื่อไกลถึง USA

“มณีไทย-Marnee Thai” เป็นชื่อของร้านอาหารไทย ตั้งอยู่ในซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เป็นกิจการขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก รับลูกค้าได้ประมาณ 50 ที่นั่ง สาขาแรกเปิดให้บริการเมื่อประมาณ 38 ปีที่แล้ว มี คุณหมู-ชัยวัฒน์ ศิริญาณ และภรรยา ร่วมกันบุกเบิกก่อตั้ง

“ใช้เวลาไม่นานเราก็ประสบความสำเร็จ อาจเพราะร้านอาหารไทยมีไม่มากเหมือนทุกวันนี้ คือเปิดได้ 3 เดือน มีหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ในซานฟรานฯ มาทำข่าว มีนักชิม มายกย่องว่าอาหารอร่อย บริการดี กระทั่งมีลูกค้ารอคิวกันนาน ไม่ถึงเวลาเปิดร้านมารอกันแล้ว”

คุณหมู เจ้าของกิจการ “มณีไทย” ในวัยใกล้ 70 ปี เริ่มต้นบทสนทนากับ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” อย่างนั้น

ก่อนย้อนความเป็นมาให้รู้จักกันมากขึ้น เกิดในครอบครัวขายอาหาร คุณยาย คุณแม่ พื้นเพเป็นคนอยุธยา ทำอาชีพขายข้าวแกงเลี้ยงลูกมาตลอด วิชาด้านการทำอาหารของเขา จึงได้รับตกทอดมาเป็นรุ่นที่ 3

สำหรับประวัติส่วนตัว เรียนจบปริญญาตรี จากคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) เมื่อปี พ.ศ. 2519 จากนั้นได้ไปทำงานแผนกบุคคลบริษัทใหญ่ อยู่ได้ 3 ปีครึ่ง ก่อนลาออกไปเรียนต่อปริญญาโท ด้านบริหารธุรกิจ ที่แอลเอ สหรัฐอเมริกา

คุณหมู-ชัยวัฒน์ ศิริญาณ เจ้าของ “มณีไทย-Marnee Thai” ร้านอาหารไทยในซานฟรานฯ

40 ปีก่อน ต้องพ่วงคำว่า ไทย แอนด์ ไชนีส ฟู้ด

ช่วง 9 ปีแรก ไม่ได้กลับเมืองไทย ทำงาน เรียนหนังสือ เก็บเงิน แต่งงานมีครอบครัว แล้วก็เปิดร้านอาหาร “มณีไทย” สาขาแรก เมื่อปี ค.ศ. 1986

“ตอนเรียนปริญญาโท ได้ทำงานในร้านอาหารไทยที่แอลเอ เวลานั้น คนส่วนใหญ่ไม่รู้จักอาหารไทย บรรดาร้านอาหารไทย จึงต้องพ่วงคำว่า ไทย แอนด์ ไชนีส ฟู้ด ไว้หลังชื่อร้าน แต่ตอนที่ผมมาเปิดร้านมณีไทย ไม่ต้องพ่วง คำว่า ไชนีส เพราะคนเริ่มรู้จักอาหารไทย มากขึ้นแล้ว” คุณหมู ย้อนความทรงจำให้ฟังอย่างนั้น

อย่างที่เกริ่นไว้ช่วงต้น ใช้เวลาเพียง 3 เดือน “มณีไทย” ก็กลายเป็น “ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์” มีลูกค้ามาคอยคิวยาวตั้งแต่ร้านยังไม่เปิด เหตุเพราะมีสื่อดังมารีวิว ทำให้หลายคนอยากมาลิ้มลองรสชาติ

สำหรับเมนูไฮไลต์ สร้างชื่อเวลานั้น มีอยู่หลากหลาย แต่ที่เด่นๆ เห็นจะเป็นจานเด็ดอย่าง ปีกไก่ทอดกรอบคลุกซอสผัดเผ็ดปลาดุก เส้นจันท์ผัดเนื้อปู ฯลฯ

คุณหมู เล่าให้ฟังต่อว่า หลังจากที่เปิดร้านมณีไทย ได้ประมาณ 13 ปี ราวปี ค.ศ. 2000 มีโรงเรียนสอนทำอาหารใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ชื่อ The Culinary Institute of America หรือ  CIA สาขาแคลิฟอร์เนีย เชิญไปเป็นวิทยากรรับเชิญ สอนทำอาหารไทยในงานประจำปี ซึ่งเป็นงานที่มีเชฟจากทั่วประเทศ และจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง มาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก

ถ่ายทอด

จากจุดเริ่มดังกล่าว ทำให้หลังจากนั้นไม่นาน เขามีโอกาสได้รับเชิญไปทำอาหารไทยให้กับนักศึกษามหาวิทยาลัยดังระดับโลก อย่าง มหาวิทยาลัยแมสซาชูเซตส์ มหาวิทยาลัยคอร์แนล มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งน่าจะทำให้ฝรั่งรู้จักอาหารไทยได้นับหมื่นคน

นอกจากนี้ เขายังมีรางวัลการันตีความสามารถด้านการทำอาหารจากหลายเวทีด้วย

“รับเชิญไปสอนการทำอาหารไทยมา 17 ปีต่อเนื่อง สอนปีละ 3-4 เมนู รวมๆ หลายสิบเมนูแล้ว มีตั้งแต่ ผัดกะเพรา ผัดไทย ผัดซีอิ๊ว คั่วกลิ้ง ลาบเหนือ แกงเหลือง ขนมครก เมี่ยงคำ การได้ไปสอนการทำอาหารให้ชาวต่างชาติ อาจเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเหมือนกัน เพราะเมื่อก่อนผมหวงสูตรมาก จะไม่ให้ใครทำ ทำเองหมดทุกอย่าง ทำงานในครัวถึงตี 2 ตี 3 ลูกชิ้นปลายังปั้นเอง แต่ถ้าไม่สอนคนไว้ คงออกจากร้านไปไหนไม่ได้ เลยต้องปล่อยวิชาบ้าง” คุณหมู บอกยิ้มๆ

ข้าวยำ

ผลตอบแทนดี เปิดร้านปีเดียว ซื้อบ้านหลังแรกได้

พูดคุยมาถึงตรงนี้ จึงขออนุญาตสอบถาม นอกจากประสบความสำเร็จด้านชื่อเสียงแล้ว “มณีไทย” เป็นธุรกิจที่ทำกำไรได้มากน้อยแค่ไหน คุณหมู เผยให้ฟังด้วยความเต็มใจ

“ทำมา 30 กว่าปี ผลตอบแทนด้านธุรกิจดีมาก เปิดร้านปีเดียว ซื้อบ้านหลังแรกได้แล้ว จนทุกวันนี้ มีบ้าน 6-7 หลังในอเมริกา พอให้ลูกชายคนโตมารับช่วงกิจการร้านอาหาร ผมกับภรรยาก็ยังมีรายได้จากค่าเช่าบ้านที่ซื้อไว้”

ไปเป็นวิทยากรรับเชิญ

กระทั่งปี ค.ศ. 2003 “มณีไทย” สาขา 2 ก็เกิดขึ้น ด้วยเหตุสบจังหวะ มีร้านว่างห่างจากร้านแรกไม่ไกลนัก ซึ่งปัจจุบัน มีลูกชายคนโตของคุณหมู เข้ามาบริหารกิจการทั้ง 2 สาขาแล้ว

“มณีไทย ประสบความสำเร็จมาก เปิดมาเกือบ 40 ปี ร้านอื่นที่เคยเปิดพร้อมกันปิดกันหมด แต่เรายังอยู่ได้ ซึ่งถ้าทำอาหารเองไม่เป็น คงต้องปิดไปนานแล้วเหมือนกัน เพราะต้องอาศัยจมูกคนอื่น การเปิดร้านอาหารไทยในอเมริกา เจ้าของร้านต้องทำเป็นเองทุกอย่าง ถ้าทำไม่ได้ เแม่ครัวเดินออก ต้องปิดร้าน พอแม่ครัวใหม่มา ฝีมือ รสชาติ ไม่คงเส้นคงวา ลูกค้าหนีหมด” คุณหมู บอกอย่างนั้น

ถามถึงการแข่งขันทางธุรกิจ เจ้าของร้านอาหารชื่อดังใน USA บอก ยุคก่อนอาจมีร้านอาหารไทยไม่มาก การแข่งขันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ทุกวันนี้ ต้องแข่งกับหลายเจนที่มาเปิดใหม่ มีคลื่นลูกใหม่จำนวนไม่น้อย

รางวัลการันตี

“สอนลูกน้องตลอดเวลา ให้มองอาหารทุกจาน เป็นเหมือนอาหารที่เรากิน เรามองแล้วอยากกินไหม ถ้าเราอยากกิน ลูกค้าก็อยากกิน ถ้าทำแบบลวกๆ เราเองยังไม่อยากกิน แล้วลูกค้าเขาจะอยากกินได้ยังไง” คุณหมู บอกถึงหลักในการบริหารร้าน

เมื่อถามถึง กุญแจความสำเร็จ คุณหมู คิดครู่หนึ่ง ก่อนบอกสั้นๆ อาหารอร่อย บริการดี กระทั่งมีคนบอกต่อ

งานที่รัก

“ใครอยากมีร้านอาหารสักร้านในต่างแดน คิดว่าต้องมีใจรักก่อนเป็นทุนตั้งต้น เพราะ 13 ปีแรก ที่ทำร้าน ผมทำงาน 15 ชั่วโมง ซื้อของเอง ลงครัวเอง ถ้าไม่มีใจรักทำไม่ได้หรอก และต้องใช้ความอดทนมากทั้งปัญหาคนงานเข้า-ออก หาคนมาแทนก็ไม่ใช่หาง่าย คนล้างจานออก เจ้าของร้านต้องไปล้างจานเอง ทุกตำแหน่งมีความสำคัญหมด” เจ้าของร้านอาหาร “มณีไทย” บอกส่งท้าย

สนใจเรื่องราวเพิ่มเติมของร้านอาหาร “มณีไทย” เข้าไปดูได้ที่ เว็บไซต์ : marneethaisf.com

Related Posts

เปิดจักรวาล Karun! ปั้นแบรนด์น้องใหม่ เจริญสังขยา, Summer Bowl และ Avery Wong ปี 66 รายได้รวม 100 ล้านบาท  
เปิดเทรนด์ผู้บริโภคยุคนี้ ไม่เน้นถูกสุด แต่ต้อง ‘คุ้มสุด’