เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Featured ข่าววันนี้

ก.อุตฯ ถกด่วน! ชงครม. อนุมัติดึงสินเชื่ออุทกภัยภาคใต้ มาช่วยเอสเอ็มอี/โอท็อป ซับน้ำท่วมอีสาน

นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมกำลังเร่งหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อแก้ไขหลักเกณฑ์การขยายสินเชื่ออุทกภัยภาคใต้ที่มีวงเงินเหลืออยู่ 2,000 ล้านบาท จากวงเงินโครงการทั้งสิ้น 5,000 ล้านบาท เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 1 ส.ค. 2560 พิจารณาเห็นชอบให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในพื้นที่ประสบอุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และครอบคลุมพื้นที่อื่นทั่วประเทศ รายละไม่เกิน 15 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระ 7 ปี

นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) พักชำระหนี้ลูกค้าสินเชื่อโครงการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทยเป็นเวลา 4 เดือน หลังจากนั้นให้คิดอัตราดอกเบี้ยลดลงเหลือ 1% เป็นเวลาไม่เกิน 1 ปี เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชน (โอท็อป) ให้มีเงินทุนหมุนเวียนสำหรับพัฒนาปรับปรุงระบบบริหารจัดการการผลิต

ขณะเดียวกันยังยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปี ค่าธรรมเนียมตรวจควบคุมคุณภาพ ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ค่าธรรมเนียมติดตามทั้งร้านจำหน่ายและผู้ทำแก่โรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่จังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในระยะเวลาที่พิจารณาตามความเหมาะสม ทั้งยังประสานไปยังผู้ประกอบการที่มีศักยภาพในพื้นที่จังหวัดที่ไม่ได้รับผลกระทบ อย่างร้านค้าส่งสมัยใหม่ (โมเดิร์น เทรด) ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดและอุตสาหกรรมจังหวัดต่างๆ นำสินค้า มอก. โดยเฉพาะข้าวของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมาจำหน่ายในราคาพิเศษ

“ขณะนี้ได้รับรายงานความเสียหายที่ประเมินเบื้องต้นรวม 19 จังหวัด โดยเฉพาะ จ.สกลนคร ถือเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด มีสถานประกอบการและโรงงานอุตสาหกรรมของเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบแล้วประมาณ 100 โรงงาน จากจำนวนโรงงานจำพวก 2 และ 3 รวมกว่า 600 โรงงาน คิดเป็น 16.42% ของโรงงานทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงงานหีบน้ำมันปาล์ม โรงสีข้าว โรงงานผลิตยางเครป โรงงานผลิตเสื้อผ้า โรงกลึง โรงงานซ่อมและเคาะพ่นสี”ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว

 

ที่มา ข่าวสดออนไลน์ 

Related Posts

เปิดจักรวาล Karun! ปั้นแบรนด์น้องใหม่ เจริญสังขยา, Summer Bowl และ Avery Wong ปี 66 รายได้รวม 100 ล้านบาท  
เปิดเทรนด์ผู้บริโภคยุคนี้ ไม่เน้นถูกสุด แต่ต้อง ‘คุ้มสุด’