เว็บไซต์นี้ใช้คุ้กกี้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีมีประสิทธิภาพยิ่งขี้น อ่านเพิ่มเติมคลิก (Privacy Policy) และ (Cookies Policy)
Featured ข่าววันนี้

หนุ่มบราซิลอยากลอง ขอท้าแข่งกินส้มตำถาดยักษ์ ในงานเทศกาลองุ่นหวาน ของดีดำเนินสะดวก

วันที่ 19 มี.ค. ที่ศาลาอเนกประสงค์ วัดราษฏร์เจริญธรรม (วัดสุน) ต.ดำเนินสะดวก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี จัดงาน “เทศกาลองุ่นหวานและของดีดำเนินสะดวก ครั้งที่ 32” โดยมี นายพงษ์พันธ์ แสงสุวรรณ นายอำเภอดำเนินสะดวก เป็นประธานเปิดการแข่งขัน กินส้มตำถาด ศึกวันสะท้านคลองดำเนินสะดวก ครั้งที่ 1 เพื่อหาผู้กินจุประจำอำเภอดำเนินสะดวก ภายในส้มตำถาดจะประกอบไปด้วย ส้มตำไทย เส้นขนมจีน ข้าวเหนียว ไข่ต้ม หมูยอ น่องไก่ทอด แคบหมู แตงกวา ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี และน้ำเปล่า 1 ขวด ส่วนกติกา ผู้เข้าแข่งขันใช้มือในการกินเท่านั้น ผู้ที่ทานหมดทั้งถาดเป็นผู้ชนะลำดับที่ 1–3 แบ่งเป็นฝ่ายชายและฝ่ายหญิง และไม่จำกัดอายุ

ส่วนการแข่งขันเริ่มที่ฝ่ายชายเป็นไฮไลต์มีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด 15 คน ซึ่งหนึ่งในผู้แข่งขันมีนักท่องเที่ยวชาวบราซิลที่เดินทางมาเที่ยวตลาดน้ำดำเนินสะดวกและเข้ามาเที่ยวภายงานกับเพื่อน 3 คน เข้ามาร่วมสมัครเพื่อแข่งขันด้วย ทราบชื่อคือ นายเฟโดร นักท่องเที่ยวชาวบราซิล โดยก่อนลงแข่งขันนายเฟโดร ประกาศว่า “ส้มตำของชอบสบายๆ” สร้างความฮือฮาให้กับผู้ที่มาร่วมแข่งขันและร่วมเชียร์ที่ต่างปรบมือกันสนั่นงาน ก่อนแข่งขันผู้แข่งขันต่างฟิตซ้อมร่างกาย มีการขยับมือ ขับเอว บางคนถึงกลับต้องปลดตะขอกางเกงเพื่อไม่ให้อึดอัดท้อง เป็นเทคนิคในการแข่งขัน

เมื่อกรรมการนับถอยหลังให้สัญญาณ ผู้เข้าแข่งขันทีมชายทั้ง 15 คน ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร ทั้งจ้วง ทั้งจก บางคนถึงขนาดคลุกรวมกันทั้งหมดแล้วใช้มือเปิบใส่ปากอยากรวดเร็ว ในขณะที่นายเฟโดร นั่งกินอย่างสบายใจ ใช้มือหยิบเส้นขนมจีนขึ้นมาวนบนฝ่ามือแล้วค่อยกิน ทำเอากองเชียร์ที่ทั้งลุ้น ทั้งส่งเสียงเชียร์กันสุดมัน ซึ่งเวลาผ่านไปประมาณ 7 นาที ผลปรากฏว่าผู้แข่งขันหมายเลข 6 ได้ลุกขึ้นยืนพร้อมทั้งชูถาดว่าตนเองรับประทานหมด เป็นลำดับแรกทำเอากองเชียร์และคณะกรรมการถึงกับต้องอึ้งเพราะสามารถทำเวลาในการรับประทานได้รวดเร็ว ไม่ถึง 10 นาทีสามารถรับประทานส้มตำถาดยักษ์หมดเป็นอันดับแรก

สำหรับผลการแข่งขันฝ่ายชาย รางวัลที่ 1 ตกเป็นของนายไพรัตน์ พัฒนวิบูลย์ อายุ 59 ปี ชาวจ.ฉะเชิงเทรา เป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวงานสามารถทำเวลาในการรับประทานส้มตำถาดยักษ์ด้วยเวลา 07.02 นาที ส่วนนายเฟโดร ผู้แข่งขันหมายเลข 15 ชาวบราซิล ถึงกับลุกขึ้นยืนและเดินมาแสดงความยินดีกับนายไพรัตน์ด้วย จากนั้นนายเฟโดรได้กล่าวแสดงความยินดีและบอก “เป็นกีฬาที่สนุกมาก ชอบกินส้มตำ แต่ไม่ชอบกินเผ็ด ยอมแพ้” จากนั้นก็ขอบคุณและเดินทางไปท่องเที่ยวที่ตลาดน้ำดำเนินสะดวกต่อ ส่วนการแข่งขันก็ดำเนินต่อไปอย่างที่ไม่มีใครยอมใคร และเหลือผู้เข้าร่วมแข่งขันเพียง 13 คน ต่างฝ่ายต่างที่จะชิงอันดับ 2 และ 3 ผลปรากฏตกเป็นของนายนัฐพล ตั้งดำเนินสวัสดิ์ อายุ 37 ปี ชาวตำบลดอนกรวย อำเภอดำเนินสะดวก และ นายดำรง เวชยา อายุ 57 ชาว กทม.

สำหรับการแข่งขันกินส้มตำถาดยักษ์ทีมหญิง มีผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด 19 คน เป็นชาวอำเภอดำเนินสะดวกทั้งหมด หลังจากกรรมการให้เสียงสัญญาณนับถอยหลังเริ่มการแข่งขัน ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ต่างงัดลีลา กลยุทธ์ในการกินเร็ว กินจุ บางคนกินผักหมดก่อน บางคนกินส้มตำ และบางคนนำมาคลุกเคล้าให้รวมกันทั้งหมดก่อนรับประทาน งานนี้ทำเอากองเชียร์ต่างลุ้นกันอย่างสนุกสนาน ทั้งนำยาดมมาให้ผู้แข่งขันดม หรือจะเป็นพัดเพื่อระบายอากาศที่ร้อนอบอ้าว โดยผู้ที่ได้รับรางวัลที่ 1 คือนางชนพร อัตวัฒนา อายุ 53 ปี ชาวตำบลดอนกรวย อันดับ 2 ตกเป็นของ นางกิตติกา วิวัฒน์สกุลไทย วัย 54 ปี ชาวตำบลดอนกรวย และยังเป็นผู้ที่กินก๋วยเตี๋ยวจุและมากที่สุดในอำเภอดำเนินสะดวก ส่วนอันดับ 3 ตกเป็นของ น.ส.ปราณี ประณิธินันท์ อายุ 47 ปี ชาวตำบลสี่หมื่น

นางชนพร อัตวัฒนา อายุ 53 ปี ชาวตำบลดอนกรวย ผู้ชนะการกินส้มตำถาด อันดับที่ 1 กล่าวว่า หลายคนสอบถามว่าใช้เทคนิคอะไรในการรับประทานส้มตำถาด ซึ่งมันเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัว โดยเริ่มจากเราจะใช้ความสามารถเฉพาะตัว เวลากินข้าวเหนียวก่อนและจะใช้น้ำดื่มช่วย ปกติแล้วเป็นคนที่กินไม่เก่ง พอลงมาแข่งแล้วต้องเอาให้ชนะ และยังกังวลใจว่าเพื่อนจะไม่ชวนไปกินงานเลี้ยงแล้วเพราะกลัวกินไม่ทัน เพื่อนๆบอกไม่เอาไปไหนด้วยแล้ว

ภายหลังจบการแข่งขัน นายพงษ์พันธ์ มอบเงินรางวัลจำนวน 2,000 บาท 1,500 บาท และ 1,000 บาท พร้อมด้วย ส้มตำถาดยักษ์กลับไปกินต่อที่บ้านกันอย่างจุใจ และยังได้รับตำแหน่ง ผู้กินจุประจำอำเภอดำเนินสะดวก ประจำปี 2561 ในงานเทศกาลองุ่นหวาน ของดีดำเนินสะดวก ครั้งที่ 32

Related Posts

‘หาเงินแต่งเมีย’ ร้านเค้กตักที่เริ่มต้นจากความรัก สู่ไวรัลคนแห่ต่อคิว ขายหมด 180 ชิ้น ใน 1 ชั่วโมง
นันยาง
จากวัตถุดิบพื้นถิ่นสู่ร้านมิชลิน ‘เชฟหนุ่ม’ เจ้าของ Samuay & Sons ผู้ปลุกเสน่ห์อาหารอีสานแนวใหม่