หัวเว่ย เมต20โปร กล้องไลก้าภาพคมกริบ

จันท์เกษม รุณภัย

หัวเว่ย ค่ายสมาร์ตโฟนที่สร้างความประทับใจในยุทธจักรสมาร์ตโฟน สร้างบารมีกระทบไหล่ราชาแอนดรอยด์อย่าง ซัมซุง แห่งเกาหลีใต้ และเจ้าพรีเมียม แอปเปิิ้ล แห่งสหรัฐอเมริกา

สมาร์ตโฟนตระกูลเมตของหัวเว่ย เป็นตระกูลชั้นเรือธง เน้นความไฮเทคและเทคโนโลยีล้ำตกขอบสำหรับเหล่ากีคผู้คลั่งไคล้เทคโนโลยีกลับมาตอกย้ำข้อเท็จจริงข้างต้นอีกครั้งของหัวเว่ย ด้วยการเป็นสมาร์ตโฟนของค่ายยักษ์ใหญ่แรกๆ ที่มีเทคโนโลยีสแกนลายนิ้วมือใต้จอภาพในโลก

หัวเว่ย เมต20โปร

ใช้ไร้สายทะลุเคสให้เครื่องอื่น

ทั้งยังมีฟีเจอร์ที่น่าประทับใจอย่าง รีเวิร์ส ชาร์จจิง ที่เปลี่ยนตัวเครื่องให้กลายเป็นเพาเวอร์แบงก์แล้วชาร์จไฟให้กับสมาร์ตโฟนเครื่องอื่นโดยไม่ต้องมีสาย! ผสานกล้องถ่ายภาพ 3 เลนส์หลังมาตรฐานไลก้าจากเยอรมนีอันลือลั่น ทำให้เครื่อง หัวเว่ย เมต 20 โปร ที่ออกมาในปีนี้ เป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีล่าสุดที่สุดเท่าที่ทีมข่าวสดไอทีเคยทดสอบมา น่าเสียดายที่เวลาในการทดสอบนั้นมีน้อยนิด แต่ก็เพียงพอจะมาเล่าสู่กันฟัง

ความประทับใจแรก คือการประกอบที่แน่นหนาและการออกแบบที่หรูหรามีราคาอย่างมากของเครื่อง สีที่ข่าวสดรีวิวครั้งนี้เป็นสีดำ แต่ทางหัวเว่ยนั้นออกแนวเล่นเฉดสีดำบนเครื่องหลายเฉด ด้านหลังนั้นไม่ได้ดำสนิทแต่ออก สีเทาเข้ม ประกบทับด้วยกระจกกอริลลากลาส พร้อมขอบอะลูมิเนียมคุณภาพสูงสีเมทัลลิกซิลเวอร์รมดำ

ขอบทั้งสองข้างของเครื่องนั้นโค้งมนคล้ายกันกับเครื่องตระกูลกาแล็กซีของซัมซุง ทำให้หยิบจับได้ถนัดมือ

เอกลักษณ์สำคัญอยู่ที่การจัดวางกล้องถ่ายภาพหลัง 3 เลนส์ ที่เมื่อรวมกับแฟลชแอลอีดีแล้วนำมาวางเรียงกันไว้ภายในกรอบสีเหลี่ยมจัตุรัสที่ขอบโค้งมนด้านหลัง ไม่หนาเผยอออกมาจากตัวเครื่อง พร้อมอักษรสลัก LEICA น่าชื่นชมการออกแบบตรงจุดนี้เพราะเท่สะดุดตาจริงๆ

เทคโนโลยีจอภาพดีสุด

หัวเว่ย เมต 20 โปร ใช้เทคโนโลยีจอภาพที่ดีที่สุดในปัจจุบัน คือ จอภาพความละเอียดที่ 3,120×1,440 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 538 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) แบบ AMOLED ที่ให้สีสันฉูดฉาดสวยงาม คอนทราสต์สูง และสีดำมืดสนิท เพราะไม่ต้องมีแบ๊กไลต์ ทั้งยังมีความสว่างที่เพียงพอในการใช้งานกลางแจ้งและประหยัดพลังงานกว่าจอ LCD ทั่วไป

หัวเว่ย เมต20โปร

สแกนลายนิ้วมือบนจอได้

จอภาพขนาด 6.39 นิ้วของเมต 20 โปร นั้นมีอัตราส่วนภาพที่ 19.5 ต่อ 9 และอัตราส่วนจอต่อเครื่องถึงร้อยละ 87.9 นั่นหมายความว่า เป็นสมาร์ตโฟนไร้ขอบที่มากกว่าเครื่องแฟ็บเล็ต รุ่นล่าสุดของค่ายซัมซุง กาแล็กซี โน้ต 9 เสียอีก (ร้อยละ 83.4)

ขณะที่ด้านบนนั้นทางหัวเว่ยยังคงดีไซน์การออกแบบติ่ง” (notch) ไว้ หลังไอโฟนเท็น ของแอปเปิ้ล จุดระเบิดเทรนด์การออกแบบดังกล่าวและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

เรื่องนี้น่าจะเป็นความชอบส่วนบุคคลมากกว่า และทางหัวเว่ยให้ผู้ใช้ปรับติ่งที่ว่านี้ได้ว่าจะให้มีหรือไม่มี ดังนั้นมองว่าดีเสียอีก เพราะผู้ใช้เหมือนได้กำไรไปเปล่าๆ ที่ได้การออกแบบไปทั้งสองชนิด

สแกนลายนิ้วมือน่าฮือฮา

ที่ฮือฮาที่สุดตรงจอภาพ คือสแกนลายนิ้วมือ หัวเว่ยนำออกไปจากตัวเครื่องแล้วและนำไปไว้ใต้หน้าจอ นั่นหมายความว่า ผู้ใช้เพียงนำนิ้วแตะไปที่บริเวณที่กำหนดไว้บนจอเครื่องก็จะสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกได้ทันที

จากการทดสอบพบว่า เซ็นเซอร์ดังกล่าวมีความไวและแม่นยำอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แม้จะเป็นเซ็นเซอร์ใต้หน้าจอรุ่นแรกก็ตาม แต่ถือว่าทางหัวเว่ยเอาชนะค่ายตัวเต็งอย่างซัมซุงและแอปเปิ้ล ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนมองว่าน่าจะเป็นค่ายแรกนำเทคโนโลยีนี้ออกมาให้ผู้ใช้ได้ใช้กันจริงๆ

หลักการของเซ็นเซอร์ที่ว่านี้เป็นการใช้แสงจากจอภาพเพื่อฉายไปยังลายนิ้วมือของผู้ใช้ เซ็นเซอร์ใต้จอภาพจะคำนวณตรวจสอบความถูกต้องโดยใช้แสงที่สะท้อนกลับออกมาจากนิ้วผู้ใช้ ขณะที่เซ็นเซอร์ที่ทางค่ายอื่นกำลังซุ่มพัฒนานั้นจะใช้หลักการอื่น เช่น คลื่นอัลตราโซนิก (ที่อ้างว่ามีความไวและแม่นยำกว่า)

แต่ต้องขอทำความเข้าใจก่อนว่า เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในจอภาพของเครื่อง เมต 20 โปรนั้นผู้ใช้จะต้องแตะเฉพาะในจุดที่มีเซ็นเซอร์อยู่ ไม่ใช่จุดไหนบนจอภาพก็ได้ โดยจอภาพจะแสดงรูปนิ้วมือไว้ให้อยู่ตรงประมาณกึ่งกลางจอค่อนลงมาด้านล่าง

อย่างไรก็ตาม หัวเว่ย เมต 20 โปร นั้นไม่มีพอร์ตสำหรับเสียบสายหูฟังมินิแจ๊กขนาด 3.5 มิลลิเมตร มีเพียงพอร์ต USB-C ที่ด้านล่างของเครื่องสำหรับชาร์จไฟ เชื่อมต่อข้อมูล และเสียบสายแปลงหูฟังที่ทางหัวเว่ยแถมมาให้ ถือเป็นจุดที่ผู้ใช้ต้องพิจารณาเอาเองตามลักษณะการใช้งานของแต่ละคน นอกจากนี้ เครื่องเมต 20 โปรนั้นรองรับ SIM card แบบนาโนได้ 2 ซิมก็จริง แต่ลักษณะการใส่นั้นจะเป็นถาดแบบสองด้านแต่เมื่อใส่ แล้วจะมีกิ๊บล็อก ตัวเล็กๆ ป้อง กันไม่ให้ SIM หลุดออกมาได้เวลาพลิกไปมา ตรงนี้ถือว่าใส่ใจรายละเอียดกว่าบางค่ายที่ทำถาด 2 ด้านมา แต่กลับไม่ มีตัวล็อก

หัวเว่ย เมต20โปร

ถาดใส่นาโนซิมและนาโนเอสดีการ์ด

ที่ต้องเน้นย้ำที่สุดจุดนี้ คือ เมต 20 โปร ใช้การ์ดหน่วยความจำเสริมขนาดใหม่ล่าสุด เรียกว่า Nano SD-Card ซึ่งจะมีขนาดเล็กกว่า Micro SD card รองรับสูงสุด 256 กิกะไบต์ (GB)

ความน่าประทับใจถัดมาของหัวเว่ย เมต 20 โปร คือ ขุมพลังประมวลผลจากชิพ HiSilicon Kirin 980 ซึ่งเป็นชิพที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมขนาด 7 นาโนเมตรตัวแรกจากทางหัวเว่ย ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่การออกแบบภายในมีส่วนสำหรับประมวลผลของปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอโดยเฉพาะ ทำให้ระบบเอไอในเครื่องของหัวเว่ยนั้นทำงานได้รวดเร็วกว่าของรุ่นอื่นๆ ที่ไม่มีชิพลักษณะนี้ เรียกว่า ดูอัลเอ็นพียู ครั้งแรกของโลก

การออกแบบนี้ทางหัวเว่ยจะใช้เป็นมาตรฐานใหม่สำหรับเครื่องเรือธงของค่ายเท่านั้น ส่วนเครื่องที่ได้มาทดสอบนั้นมีหน่วยความจำแรม 6 GB และรอม 128GB

หัวเว่ย เมต20โปร

มีติ่งปรับออกได้ แถมสายแปลงหูฟังมาให้ ซูเปอร์ชาร์จ

ฟีเจอร์ที่น่าหวือหวาของเมต 20 โปร ถัดมาเป็นแบตเตอรี่ ขนาดถึง 4,200 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) ในตัวเครื่องที่บางเพียง 8.6 .. ถือว่าแบตฯ ใหญ่กว่าและบางกว่าเครื่องกาแล็กซีโน้ต 9 (4,000 mAh บาง 8.8 ..) แบตฯ มาใหญ่ยักษ์ขนาดนี้นอกจากจะส่งผลให้เครื่องใช้งานได้นานด้วยสเป๊กที่สูง ผู้ทดสอบสามารถใช้งานอย่างหนักได้ตั้งแต่ 08.00 . และยังเหลือแบตฯ อีกราวร้อยละ 30 ที่เวลาประมาณ 22.00 . แม้จะถือว่าอึดน้อยกว่าที่คาดไว้ (P20 Pro อึดกว่านี้) แต่เมต 20 โปร มีอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ถือเป็นครั้งแรกในหัวเว่ยและของโลก เรียกว่า รีเวิร์ส ชาร์จจิง (Reverse Charging)

เมื่อผู้ใช้เข้าไปเปิดระบบดังกล่าวแล้ว จะส่งผลให้เครื่องเมต 20 โปร ทำตัวเป็นเหมือนเพาเวอร์แบงก์ชาร์จไฟแบบไร้สายให้กับเครื่องสมาร์ตโฟนอื่นที่รองรับการชาร์จไฟไร้สายเพียงนำมาประกบที่ด้านหลังเท่านั้น

นับว่าทางฝ่ายออกแบบของหัวเว่ยนั้นมีไอเดียที่แหวกกรอบอย่างมาก แม้ในสถานการณ์จริงจะไม่ค่อยได้งานก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่น่าชื่นชม

ยังไม่พอเท่านั้นผู้ทดสอบยังพบว่า เมต 20 โปรนั้นเป็นสมาร์ตโฟนที่มีระบบถ่ายภาพที่ให้ภาพได้สวยคมชัดอย่างน่าประทับใจด้วยระบบ Leica Matrix Camera ซึ่งทางหัวเว่ยใส่เลนส์ Ultra wide ขนาด 16 .. ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล (MP) f/2.2 มาให้ผสมผสานกับเลนส์หลัก 40MP f/1.8 และเลนส์ซูม 8MP f/2.4 ผสานกับเทคโนโลยี AI camera ที่จะคอยรีทัชปรับคุณภาพของภาพ ทำให้ภาพที่ออกมาได้นั้นคมชัดอย่างยิ่งในเวลา แสงพอ ขณะที่ในเวลากลางคืนนั้นภาพที่ได้ออกมาพบว่าอยู่ในเกณฑ์ดีแต่รายละเอียดยังสู้กล้องของไอโฟน เท็นเอส และพิกเซล 3 เอ็กซ์แอลไม่ได้ ทว่าข้อได้เปรียบของเมต 20 โปร อยู่ที่การถ่ายภาพแบบมุมกว้าง และการซูม ให้คุณภาพออกมาดีที่สุดเท่าที่ผู้ทดสอบเคยทดลองใช้มาหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นซัมซุง กาแล็กซี โน้ต 9 หรือแอลจี จี 7

หัวเว่ย เมต20โปร

หน้าชัดหลังละลายเป๊ะ ภาพซูมเห็นรายละเอียดยิบ แม้ขอบกล่อง

ส่วนการถ่ายวิดีโอนั้นถ่ายได้สูงสุดที่ 4K@30fps มีระบบกันการสั่นสะเทือนที่ทำงานได้ดีเยี่ยม กล้องหน้านั้นเป็นเลนส์กว้างความละเอียด 20 MP รูรับแสง f/2.0

สิ่งที่น่าผิดหวังสำหรับเครื่อง เมต 20 โปรนั้นเป็นลำโพงของเครื่อง แม้มีเสียงที่คุณภาพสูง แต่เสียงที่ออกมานั้นค่อนข้างเบากว่าเรือธงรุ่นอื่นๆ อาจเป็นเพราะเมต 20 โปร นั้นใช้ช่องเสียงเป็น USB-C แทนช่องลำโพงส่วนหนึ่ง แต่เมื่อพิจารณากับองค์ประกอบอื่น อาทิ มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68 จอภาพ HDR10 สเป๊กสูงสุดลิ่มทิ่มประตูที่รองรับการใช้งานทุกแบบ การใช้ชาร์จไฟแบบ Super Charge ที่เร็วยิ่งกว่า Quick Charge และ Qi Wireless Charging (ใช้ได้กับทุกแท่นชาร์จซัมซุงได้) และเทคโนโลยีการเชื่อมต่อล่าสุดอย่าง Bluetooth 5.0 พร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 9.0 จากกูเกิ้ล ผู้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนเรือธงที่ท่วมทะลักไปด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้าและคุ้มค่ากับราคา หัวเว่ย เมต 20 โปร จะไม่ทำให้ผิดหวัง!

มีจำหน่ายแล้วในประเทศไทย สนนราคาที่ 31,990 บาท มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ และสีเขียวมรกต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน