เจาะกูเกิ้ล‘พิกเซล 3เอ’ ถ่ายภาพพรีเมียม-ราคาเข้าถึง

เจาะกูเกิ้ล‘พิกเซล 3เอ’ ถ่ายภาพพรีเมียม-ราคาเข้าถึง

เจาะกูเกิ้ล‘พิกเซล 3เอ’ – สงครามการค้าระหว่าง สหรัฐอเมริกา-จีน คุกรุ่น ทำให้ หัวเว่ย ถูกเล็งเป้า โดน กูเกิ้ล ผู้พัฒนาแอนดรอยด์ และยักษ์ใหญ่ในวงการออนไลน์ของสหรัฐอเมริกา ตัดสัมพันธ์ทางธุรกิจเนื่องจากต้องปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลสหรัฐ แม้หัวเว่ยยังมีเวลาให้ตั้งตัว 90 วัน แต่อาการแตกตื่นก็เกิดขึ้นแล้ว

พิกเซล 3เอ และ 3เอ เอ็กซ์แอล

ซัมซุง เจ้าแห่งวงการสมาร์ตโฟน สัญชาติเกาหลี ได้รับอานิสงส์จากสภาพการณ์นี้ไปเต็มๆ และเจ้าอื่นๆ ที่ไม่อยู่ในบัญชีดำของสหรัฐด้วย

หนึ่งนั้นน่าจะมี “พิกเซล” สมาร์ตโฟนในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์พันธุ์แท้จากกูเกิ้ลรวมอยู่ด้วย

ปีนี้พิกเซลสร้างความฮือฮาเป็นพิเศษโดยเฉพาะรุ่น พิกเซล 3 เอ และ 3 เอ เอ็กซ์แอล เพราะเป็นครั้งแรกที่พิกเซลซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนในตลาดพรีเมียมลงมาเล่นตลาดระดับกลางและล่าง

จอภาพ OLED

ด้วยจุดเด่นการรวมฟีเจอร์ระดับพรีเมียมมาคู่กับราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

แอนดรอยด์อูธอริตีระบุว่า พิกเซล 3 เอ และพิกเซล 3 เป็นระดับเรือธงนั้นมีรูปลักษณ์ภายนอกที่มองเผินๆ แล้วแทบไม่แตกต่างกัน

ส่วนคุณสมบัตินั้นทางกูเกิ้ลนำเรื่องมาตรฐาน IPx กันน้ำกันฝุ่นออกไป และใช้วัสดุเป็นพลาสติกมาแทนกระจก ไม่สนับสนุนการชาร์จไร้สาย และเปลี่ยนชิพประมวลภายในเป็นรุ่นระดับกลางๆ แทนที่จะเป็นระดับไฮเอนด์เหมือนพิกเซล 3

ปุ่มเพาเวอร์สีสดใส

นอกนั้นทางกูเกิ้ลยังรวมฟีเจอร์ของสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมไว้ทั้งหมด เช่น กล้องถ่ายภาพแบบเดียวกับพิกเซล 3 ซึ่งกล้องถ่ายภาพของพิกเซลที่ผ่านมานั้นได้รับขนานนามจากแวดวงไอทีว่าเป็นกล้องถ่ายภาพที่ดีที่สุดในบรรดาสมาร์ตโฟน โอเอสแอนดรอยด์

จุดนี้สร้างความฮือฮามาก เพราะฟีเจอร์อย่างนี้มีแต่ในสมาร์ตโฟนราคา 3 หมื่นบาทขึ้นไป

สําหรับพิกเซล 3 เอ เอ็กซ์แอล ซึ่งเป็นรุ่นที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมากกว่าเดิม ข้อแตกต่างใหญ่ที่สุดเป็นขนาดจอภาพ 6 นิ้ว และแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมเป็น 3,700 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) จากรุ่น 3เอ ที่มีจอขนาด 5.6 นิ้ว และแบตฯ ขนาด 3,000 mAh ซึ่งหากเป็นผู้ที่ใช้งานสมาร์ตโฟนหนักหน่วงแนะนำให้มองไปที่รุ่น 3เอ เอ็กซ์แอลจะเหมาะสมกว่า

อุปกรณ์ที่แถมมาในกล่องทางกูเกิ้ล ไม่ได้เปลี่ยนไปจากรุ่นเรือธงมากนัก ได้แก่ สายเคเบิลยาว 1 เมตร แบบ USB-C to USB-C ชาร์จเจอร์ขนาด 18 วัตต์ (W) แบบ USB-C อะแด็ปเตอร์แปลง USB-C เป็น USB-A หมุดเจาะถาดซิม และคู่มือ จะสังเกตว่าไม่มีอะแด็ปเตอร์แปลง USB-C เป็นมินิแจ๊กขนาด 3.5 มิลลิเมตรสำหรับหูฟัง

สาเหตุเพราะว่า พิกเซล 3 เอ นั้นมาพร้อมกับช่องมินิแจ๊กอยู่แล้วที่ขอบด้านบนของเครื่อง อย่างไรก็ดี ทางกูเกิ้ลไม่ได้แถมหูฟังมาให้เหมือนกับพิกเซล 3

มีรูหูฟัง

พิกเซล 3 เอ ตัวเครื่องกว้าง 70.1 ยาว 151.3 และหนา 8.2 ม.ม. น้ำหนัก 147 กรัม ถือว่าค่อนข้างเบา กล้องหลัง 1 เลนส์ ความละเอียด 12.2 ล้านพิกเซล (MP) มีขนาดจอ 5.6 นิ้ว ไม่มีติ่ง (notch) เรโซลูชั่น 1,080×2,220 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 441 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) อัตราส่วนภาพ 18.5:9 อัตราส่วนจอภาพต่อตัวเครื่องร้อยละ 75

เทคโนโลยีจอภาพเป็น OLED มีลำโพงแบบสเตอริโอและระบบการรักษาความปลอดภัยปลดล็อกเครื่องด้วยลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง

ด้านหลัง

วัสดุภายนอกเป็นพลาสติก โดยทำขึ้นจากพลาสติกขึ้นรูปชิ้นเดียวใช้ดีไซน์การออกแบบแบบเดียวกับเรือธงมีพื้นที่หนึ่งในสามซีกบนเป็นพลาสติกพื้นผิวมันที่เหลืออีกสองในสามเป็นพื้นผิวด้านทำให้การหยิบจับเครื่องนั้นเหมาะมือ

มีทั้งหมด 3 สี ให้เลือก ได้แก่ ดำล้วน (Just Black) ขาวชัดๆ (Clearly White) และสีใหม่เป็นสีม่วงๆ (Purple-ish) นอกนั้นเหมือนกันกับพิกเซล 3 ไม่ว่าจะเป็นปุ่มเพาเวอร์และระดับเสียงที่ขอบด้านขวา เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือด้านหลัง และกล้องหลังที่ขอบซ้ายบน

มีให้เลือก 3 สี (ม่วง ขาว ดำ)

จัสติน ดุลโน จากแอนดรอยด์อูธอริตี กล่าวว่า จอภาพของพิกเซล 3เอ ให้ภาพที่ยอดเยี่ยมมากจนไม่น่าเชื่อว่า สมาร์ตโฟนเครื่องนี้จะสนนราคาที่ 399 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 12,000 บาทเท่านั้น มีเพียงความสว่างที่อาจต้องเพิ่มขึ้นหากใช้งานนอกตัวอาคาร และความหนาแน่นพิกเซลที่ต่ำกว่ารุ่นเรือธงอย่างพิกเซล 3 เล็กน้อย

พิกเซล 3เอ ใช้ขุมพลังจากชิพประมวลผล Snapdragon 670 จากค่ายควอลคอมม์ ประเทศสหรัฐ ใช้สถาปัตยกรรมการผลิตขนาด 10 นาโนเมตร ภายในประกอบด้วยหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) แบบ 8 หัว (Octa-core) คอร์หลัก 2 คอร์ มีความเร็วสัญญาณนาฬิกา 2.0 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz) และที่คอร์เหลือ 1.7 GHz มีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) รุ่น Adreno 615 หน่วยความจำแรม (RAM) 4 กิกะไบต์ (GB) พื้นที่เก็บข้อมูลภายใน (ROM) ขนาด 64 GB ไม่สนับสนุนการ์ดเก็บข้อมูล microSD

ของในกล่อง

ผลการทดสอบของแอนดรอยด์อูธอริตี พบว่า มีคะแนนเฉลี่ยประสิทธิภาพการประมวลผลคอร์เดียวอยู่ที่ 1,625 แต้ม และคะแนนเฉลี่ยประสิทธิภาพการประมวลผลแบบหลายคอร์อยู่ที่ 5,159 แต้ม ถือว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป แต่พบว่ามีการบริหารจัดการแรมที่ไม่ค่อยดีนัก เป็นข้อเสียหนึ่งของสมาร์ตโฟนตระกูลพิกเซล เพราะแรมมักถูกใช้เกือบเต็มอยู่ตลอดเวลา ขณะที่รอมซึ่งมีพื้นที่ 64 GB นั้นอาจไม่เพียงพอสำหรับผู้ที่ใช้สมาร์ตโฟนหนักๆ มองว่าอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนน่าจะเปลี่ยนความจุต่ำสุดเป็น 128 GB ได้แล้ว

ด้านระยะเวลาการใช้งาน พิกเซล 3 เอ มาพร้อมกับแบตฯ ขนาด 3,000 mAh ถือว่าแทบจะเป็นขนาดแบตฯ ของสมาร์ตโฟนทั่วไปแล้วในยุคนี้

ภาพทดสอบ

จากการทดสอบใช้งานทั่วไป พบว่าใช้งานได้ตลอดทั้งวัน แต่หากใช้ชม YouTube และเล่นแอพฯ ประเภทเครือข่ายสังคมออนไลน์มากก็อาจจะอยู่ไม่ถึง เพราะโดยเฉลี่ยแล้วพิกเซล 3เอ ใช้งานแบบเปิดจอต่อเนื่องได้ราว 5-6 ชั่วโมงเท่านั้น

แต่อย่าเพิ่งตกใจไปเพราะว่าทางกูเกิ้ลแถมชาร์จเจอร์ขนาด 18W มาให้ ซึ่งสนับสนุนการชาร์จไฟเร็ว เต็มได้ภายในเวลา ไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง

ถ่ายในอาคาร

สำหรับผู้ที่ต้องการระยะเวลาการใช้งานที่มากกว่านี้ แนะนำให้หันไปมองพิกเซล 3เอ เอ็กซ์แอล ที่มาพร้อมกับแบตฯ ขนาด 3,700 mAh จากการทดสอบพบว่าใช้งานแบบเปิดจอต่อเนื่องได้ราว 8 ช.ม.

ดุลโนกล่าวว่า จุดที่น่าผิดหวังที่สุดในการทดสอบพิกเซล 3เอ คือ การที่ทางกูเกิ้ลนำฟีเจอร์ชาร์จไร้สายออกไป เนื่องจากการชาร์จไร้สายนั้นถือเป็นอนาคตของชาร์จอุปกรณ์สื่อสาร และหากผู้ใดยังไม่เคยใช้ แนะนำให้ลองใช้ดู แล้วจะพบว่าสะดวกสบายขึ้นมากจนกลับไปชาร์จแบบสายแทบไม่ได้อีก

มาถึงไฮไลต์สุดยอดของพิกเซล 3เอ คือ กล้องถ่ายภาพเลนส์เดียวความละเอียด 12.2MP ขนาดรูรับแสง f/1.8 เป็นเลนส์มุมกว้าง 76 องศา พร้อมระบบต่อต้านภาพสั่น ขณะที่กล้องหน้า มีความละเอียด 8MP ขนาดรูรับแสง f/2.0 เลนส์มุมกว้าง 84 องศา ถือเป็นเหตุผลหลักในการเลือกพิกเซล 3เอ จาก สมาร์ตโฟนในตลาดกลางทั่วไป

แต่แม้สเป๊กบนกระดาษที่ระบุมาจะเหมือนกันกับกล้องของพิกเซล 3 ผลการทดสอบที่ออกมาพบว่า กล้องถ่ายภาพของพิกเซล 3เอ ให้ภาพที่มีคุณภาพต่ำกว่ากล้องของพิกเซล 3 เล็กน้อย

ชัดเจนแม้แสงน้อย

อย่างไรก็ตาม ด้วยประสิทธิภาพของกล้องพิกเซล 3เอ นั้นโดยรวมยังมีคุณภาพสูงกว่ากล้องในสมาร์ตโฟนตลาดกลางส่วนใหญ่มาก โดยยังคงโหมดการถ่ายภาพที่มีอยู่ในสมาร์ตโฟน เรือธงไว้ครบถ้วน อาทิ โหมดถ่ายกลางคืน (ไนต์ไซต์) โฟโต้บูธ สโลว์โมชั่น และไทม์แลปส์

ผลการทดสอบโหมดถ่ายกลางคืนพบว่า ดึงแสงออกมาให้จากวัตถุต่างๆ ได้ดี โดยไม่ทำให้เสียรายละเอียดของวัตถุอื่นๆ ในภาพมากเกินไป ขณะที่การเพิ่ม exposure นั้นทำได้อย่างแนบเนียน ส่งผลให้ภาพสว่างขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

หมดการถ่ายภาพโบเก้ (bokeh) ก็สามารถทำออกมาได้ดีเยี่ยมด้วยประสิทธิภาพของปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ สามารถเบลอภาพหลังวัตถุที่โฟกัสได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยกูเกิ้ลยังให้ ผู้ใช้สามารถปรับระดับความเบลอของภาพได้ด้วย อย่างไรก็ดี กล้องหน้าของพิกเซล 3เอ นั้นแม้มีคุณภาพของความคมชัดอยู่ในระดับที่ดี แต่มีข้อเสียเรื่องมิติของภาพที่ค่อนข้างย่อหย่อนไป

ภาพโบเก้

ด้านซอฟต์แวร์พิกเซล 3เอ ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ พาย (เวอร์ชั่น 9) แบบวานิลลา ซึ่งเป็นประสบการณ์ แอนดรอยด์แบบแท้ๆ ไม่มีการปรุงแต่งใดๆ พร้อมความมั่นใจว่าจะได้รับการอัพเดตเวอร์ชั่นโอเอสไปอย่างน้อยเป็นเวลาไม่ต่ำกว่า 2 ปี และการอัพเดตแพตช์ความปลอดภัยไม่ต่ำกว่า 3 ปี หมายความว่า พิกเซล 3เอ จะได้รับการอัพเดตแอนดรอยด์ คิว (เวอร์ชั่น 10) แน่นอน

ดุลโนมองว่า พิกเซล 3เอ และ 3เอ เอ็กซ์แอล เป็น สมาร์ตโฟนที่เหมาะสำหรับทุกคน ในฐานะสมาร์ตโฟนที่ให้ประสบการณ์แอนดรอยด์ที่สมบูรณ์แบบที่สุด

เพราะเป็นครั้งแรกที่กูเกิ้ลกระโดดลงมาเล่นในตลาดระดับกลางด้วยการมีตัวเลือกในราคาที่เข้าถึงตลาดได้ง่ายขึ้นด้วยราคา 12,000 บาท ด้วยจุดเด่นอย่างกล้องถ่ายภาพที่ไม่มีสมาร์ตโฟนรุ่นใดของค่ายไหนในราคาระดับนี้จะเทียบเท่าได้ การได้รับอัพเดตแอนดรอยด์ที่รวดเร็วก่อนค่ายอื่น และจอภาพ OLED ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล่าสุดของแวดวงจอภาพสมาร์ตโฟน

พิกเซล 3เอ ถือเป็นความสำเร็จของกูเกิ้ลในการสร้าง สมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมในราคาย่อมเยา ผู้ที่กำลังมองหา สมาร์ตโฟนคุณภาพระดับเรือธงแบบราคาสบายๆ ชั่วโมงนี้ไม่มีรุ่นไหนคุ้มกว่านี้อีกแล้ว

โดย จันท์เกษม รุณภัย