วันที่ 19 ก.ค. ที่ สตูดิโอกรุงเทพ ถ.แจ้งวัฒนะ มีการบันทึกเทปรายการ “ก่อนบ่ายคลายเครียด” ซึ่งมี ตั๊ก-ศิริพร อยู่ยอด ร่วมแสดง และมี นุ้ย เชิญยิ้ม เป็นผู้กำกับ ระหว่างพักอัดรายการ ทั้งคู่ได้ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องลูกชาย “น้องภู-ภูสิษฐ์ เอี่ยมสุข” ที่มีหลายคนจับตาว่าไม่ใช้ผู้ชายแท้ๆ

โดยตั๊ก เผยว่า “เราเป็นพ่อเป็นแม่ เขาเป็นลูก แต่ชีวิตเป็นของเขานะ เราไม่ได้เป็นเจ้าชีวิตของเขา เราเป็นเจ้าชีวิตเขาเกิดจนเขาเรียนจบ แต่พอเขาเรียนจบแล้วนั้นคือของเขา เราไปยุ่งอะไรของเขาไม่ได้แล้ว ตั๊กจะไม่เคยไปบังคับอะไรเขาเลย บางคนสงสัยว่าเราสองคนเลี้ยงลูกประคบประหงมมาเกินไปหรือเปล่า ตั๊กบอกได้เลยว่า ถ้าคุณไม่เคยเป็นแม่ คุณจะไม่รู้เลยว่าความรักของคนเป็นแม่ที่มีต่อลูกมันขนาดไหน คุณอาจจะมาด่าตั๊กว่าเลี้ยงลูกประคบประหงมเกินไป เอาเถอะคุณยังไม่เคยเป็นแม่ แน่นอนว่าคนเป็นแม่มีการลองผิดลองถูกบ้าง เพราะว่าเราไม่เคยมีลูก แล้วมีแค่คนเดียว อันไหนที่ลองแล้วมันผิดเราก็จำไว้เป็นบทเรียน เราก็ไปขอแนะนำจากผู้ใหญ่หลายๆท่านในเรื่องการเลี้ยงลูก อย่างน้องภูมิ ตั้งแต่เขาเกิดมาเขาไม่เคยทำเรื่องอะไรให้ตั๊กกับพี่นุ้ยต้องลำบากใจเลย เป็นเด็กที่เลี้ยงงาน ก็ไม่คือว่าเขาจะดัง เราสองคนไม่เคยพาลูกไปกอง หรือว่ามาสอนเรื่องการแสดง เขาทำด้วยตัวของเขาเลย”

นุ้ย เสริมว่า “ผมว่าน้องภูเป็นคนที่กล้า เขามีอะไรเขาจะเดินมาบอก มาพูดกันตรงๆ ปรึกษาโน้นนี้นั้น คนเป็นพ่อเป็นแม่ยุคใหม่ควรจะเปิดใจให้ ฟังลูกบ้าง ไม่ใช่เอะอ่ะอะไรบอกไม่มีเวลาให้ ลูกปรึกษาอะไรจะขึ้นเสียง ต่อไปถ้าลูกผิดพลาดอะไรไป แล้วจะมานั่งเสียใจภายหลัง เพราะฉะนั้นมีโอกาสในช่วงนี้ เขาอยากที่จะคุยอะไรกับเรา ผมว่าช่วงนี้เขาอายุ 13-14 ปี เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เขาอยากให้พ่อแม่ชี้ทางให้เขาว่าเขาควรที่จะเป็นอะไร เขาจะทำอะไร เขาจะอย่างนั้นอย่างนี้ดีไหม ลูกผมจะเป็นอะไรผมก็ภูมิใจในตัวเขา และผมเชื่อว่าเขาเป็นเด็กที่ดี ไม่ใช่ในสายตาของผมอย่างเดียว ผมบอกเขาว่าต้องเป็นคนที่ดีในสายตาคนอื่นด้วย รวมทั้งเรื่องการเรียน การทำตัวให้อยู่ได้ในสังคมทั้งในและนอกบ้าน ลูกผมจะเป็นอะไรก็ได้ ผมยอมรับเปิดใจเต็มที่”

เรียกว่าตอนนี้ให้เวลาและให้คำปรึกษากับลูกอย่างใกล้ชิด ตั๊ก ตอบว่า “เห็นเราสองคนงานเยอะแบบนี้ แต่ในหนึ่งวันตั๊กต้องคุยกับเขา จะคุยนานหรือแค่แป๊ะเดียวก็ต้องคุย อย่างน้อยๆ กอดกัน หอมกันก็ยังดี ตั๊กทำอย่างนี้ทุกวัน และตั๊กจะบอกลูกว่า ภูเราเป็นครอบครัวกัน ภูต้องไม่มีความลับกับพ่อแม่ อะไรก็ตามถ้ามันแข็งแกร็งมันก็ไม่มีอะไรแล้ว เพราะฉะนั้นภูบอกพ่อกับแม่ได้ทุกเรื่อง แม่จะคุยกับภูด้วยเหตุผล ของอย่างเดียวห้ามมีความลับ เราก็คิดไม่ถึงว่าวันนึรงเขาจะมาคุยกับเราในเรื่องนี้ เราอยู่กับลูก”

นุ้ย เสริมว่า “จริงๆ เราก็ยังไม่รู้ว่าน้องเขาจะเป็นอะไร จะสายไหน เพราะเขามาพูดเหมือนมาปรึกษา เขาก็ยังไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน ด้วยความที่เราไม่อยากที่จะไปโกหก แล้วเราอยู่ตรงนี้คนก็อยากรู้เรื่องครอบครัวของเรา”

เหมือนตัวน้องไม่สบายใจใช่ไหมกับข่าวที่ออกไ
นุ้ยบอกว่า “พอข่าวออกไปเพื่อนเขาจะส่งข่าวมาให้ดู เขาเห็นข่าว เราพ่อแม่ ปู่ย่าก็เริ่มไม่สบายใจ เราเลยโทรไปถามว่าซีเรียตไหมป้าป๋าให้สัมภาษณ์แบบนี้ไป ตามที่หนูมาปรึกษาพ่อ เขาก็อ่านข่าวแล้วก็ตอบมาว่าไม่เห็นมีอะไร ไม่ซีเรียตอะไร เรารู้เลยว่าเขาแยกออก”

ตั๊ก เสริมว่า “ตอนนี้เขาเพิ่งอายุ 14 ปี เขายังต้องเผชิญอะไรอีกเยอะ มันยังไม่แน่นอนหรอก วันข้างหน้าเขาอาจจะค้นพบตัวเองว่าเขาเป็นแบบนี้นี้หว่า หรือเขาจะเป็นอย่างนี้ก็ได้ ตั๊กบอกลูกว่าภูจะเป็นอะไรก็ได้ แต่แม่ขอภู 3 อย่าง 1.ขอให้ภูเรียนสูงที่สุดเท่าที่ภูจะทำได้ 2.ภูต้องมีหน้าที่การงานที่ดี ต้องเป็นคนเก่ง อันที่ 3 อันนี้สำคัญที่สุดภูต้องเป็นคนดี ห้ามเป็นภาระต่อแม่ และสังคม 3 ข้อนี้ภูให้แม่ได้ไหม นอกจากนั้นภูอยากทำอะไรภูทำเลย ภูอยากจะเป็นอะไรภูเป็นเลย ล่าสุดเขาเอาผลการเรียนมาให้ดูได้ เอ ทุกวิชา แค่นี้แม่ก็แฮปปี้แล้ว”

นุ้ย กล่าวต่อว่า “เขียวมาตลอด มันจะไปแดงตรงวิชาพละ เพราะเขาไม่ชอบความรุนแรง ไม่ชอบเตะฟุตบอล เขาไม่กล้าเอามาให้ดู ผมก็บอกว่าเอามาดูลูก เขาก็บอกว่าพ่ออย่างว่านะ พอเราเห็นว่าแดงวิชาพละ เราก็บอกว่าไม่เป็นไร เราออกกำลังกายอยู่ที่บ้านก็ได้ แล้วผมก็เปิดอกคุยกับลูกว่าตอนนี้เราไม่รู้ว่าลูกจะเป็นอะไรกันแน่ ถ้าเป็นผู้ชายก็ทำตัวให้ดีต่อสังคม แต่ถ้าหนูจะเป็นอีกเพศนึง เพศที่ 3 ก็ไม่เป็นไรพ่อไม่ว่า แต่ตอนนี้มันยังไม่ถึงวัย ทาแป้งบางๆทาปากเบาๆก็พอ อย่าเยอะ อย่างเพิ่งออกเต็ม เพราะเราแฟร์ไง ลูกถึงกล้าเข้ามา”

ตั๊กว่าไง พี่นุ้ยให้คำปรึกษาลูกแบบนี้ ตั๊ก ตอบว่า “เราเป็นคนบอกพี่นุ้ยเองตั้งแต่แรกว่า ลูกเราจะเป็นอะไรก็ได้นะ ขอให้ลูกเราเป็นคนดีก็พอ ในยุคสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นดีเจ.นุ้ย ,ป๋อมแป๋ม, เอกกี้ เก่งๆทั้งนั้น รวยๆทั้งนั้น จะเป็นอะไรก็ได้ ขอให้เป็นคนเก่ง เป็นคนดี”

นุ้ย กล่าวต่อว่า “ผมเขาไปว่าจะยังไงก็แล้วแต่ ผมรับได้ทุกอย่าง เด็กเป็นคนดีแล้ว ทุกคนก็เปิดรับด้วย”
เรียกว่าตอนนี้ทั้งสองคนแฮปปี้กับการที่ลูกเป็นอยู่ตอนนี้ นุ้ย “มีความสุขมาก”

ตั๊ก ยืนยันว่า “ใช่ เพราะตั้งแต่น้องภูเกิดมาจนถึงวันนี้เขาไม่เคยทำให้พ่อแม่ลำบากใจเลย เรียนก็เรียนดี ตั๊กโอเค คนอื่นจะว่าเราเลี้ยงลูกยังไงไม่รู้ แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าเราเลี้ยงลูกยังไงก็ตามของให้ลูกเป็นคนดี ไม่ไปเป็นภาระของสังคม เป็นคนดีของพ่อแม่ แค่นี้ก็น่าพอใจแล้ว”

“ขอขอบคุณทุกๆที่ติดตามครอบครัวเรามาตลอด ตั้งแต่น้องภูเล็กๆ จนน้องภูอายุ 14 ปี จะทำให้ครอบครัวเล็กๆ เขาเรา เป็นตัวอย่างที่ดี เพราะเราอยู่จุดนี้ เหมือนเป็นกระจกของสังคม เราจะไม่ทำเรื่องไม่ดีต่อสังคม แหม่แต่ตัวน้องภูเอง ต้องขอโทษด้วยถ้าน้องจะเป็นโน้นเป็นนี้ หรือเป็นอะไรก็แล้วแต่ อย่าไปว่าน้องเลย เหมือนทุกท่านทุกครอบครัว ต้องเปิดใจ ลูกมีอะไรเราต้องพร้อมให้คำปรึกษา ดีที่สุดคือเปิดใจรับฟังสุข เหมือนผมกับตั๊ก จะเป็นอะไรก็แล้วแต่รับให้ได้ในสิ่งที่มาถึง หรือยังมาไม่ถึงครับ” นุ้ย เชิญยิ้ม กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน