เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา นางมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ระบุว่า Siriwanna Jill – New รายงานว่า หลักฐานชัดเจน ว่าพยาบาลกมลเกด และเพื่อน ไม่ได้ตายพราะทหาร

แต่ตายเพราะพวกเสื้อแดงด้วยกัน ฆ่าเอาศพ มีหลักฐาน โดย 6 ศพเสียชีวิต อยู่ในช่วงตะวันตกดิน ศพทั้งหมดมีการชันสูตรแล้วพบว่า ถูกยิงจากวิถีกระสุน ในระนาบเดียวกัน มิใช่มุมสูงจากสกายวอล์ค หรือบริเวณรางรถไฟฟ้าBTS..เรื่องนี้มีการยืนยัน ด้วยคำรับสารภาพจาก นส ณัฎฐธิดา หรือ แหวน พยาบาลอาสาในทีม น.ส.กมนเกด โดยรับสารภาพว่า ได้เป็นพยานเท็จให้เสื้อแดงมาตลอด 4 ปี เพราะได้รับผลประโยชน์จ้างวาน ในคดีการเสียชีวิต 6 ศพ ภายในวัดปทุมวนาราม เมื่อถูกจับกุมข้อหาจ้างวานวางระเบิด และหมิ่นเบื้องสูง เมื่อ มี.ค 58 จึงสารภาพหมดเปลือก 6 ศพวัดปทุม ชายชุดดำ นปช.ได้ยิงแนวราบใส่น้องเกด และเสื้อแดงตาย

ผลการตรวจ DNA จากกองเลือดภายในวัดของคุณหญิง หมอพรทิพย์ ซึ่งพยานระบุว่า เป็นจุดที่ น.ส.กมนเกด เสียชีวิต บพบว่านอกจาก DNA จะไม่ตรงกับของ น.ส.กมนเกด แล้ว ยังไม่ตรงกับศพใด ๆ ใน 6 ศพ และคุณหญิงหมอ ยืนยันว่าคนยิงมาจากข้างล่าง คือ โจรก่อการร้ายชุดดำ นปช. ไม่ใช่ทหาร

 

ทั้งนี้จากการตรวจสอบจากคลิปวิดีโอ ที่ถูกถ่ายขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 พ.ค. 2553 ดังจะเห็นว่ามีควันไฟพวยพุ่งขึ้นมา ปรากฎภาพเจ้าหน้าที่ทหารอยู่บนรางรถไฟฟ้า มีลักษณะเล็งปืนเข้าไปในวัด จากนั้นก็มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะๆ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2556 ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอ่านคำสั่งไต่สวนชันสูตรพลิกศพคดีหมายเลขดำที่ ช.5/2555 ที่พนักงานอัยการ สำนักอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องให้ศาลไต่สวนชันสูตรพลิกศพการตายของนายสุวัน ศรีรักษา อายุ 30 ปี อาชีพเกษตรกร ผู้ตายที่ 1 นายอัฐชัย ชุมจันทร์ อายุ 28 ปี บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้ตายที่ 2 นายมงคล เข็มทอง อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ผู้ตายที่ 3 นายรพ สุขสถิต อายุ 66 ปี อาชีพพนักงานขับรถรับจ้างในสนามบิน ผู้ตายที่ 4 น.ส.กมนเกด อัคฮาด อายุ 25 ปี อาชีพพยาบาลอาสา ผู้ตายที่ 5 และนายอัครเดช ขันแก้ว อายุ 22 ปี อาชีพรับจ้าง ผู้ตายที่ 6 ทั้งหมดถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 น่าเชื่อว่าเป็นการตายที่เกิดขึ้นโดยการกระทำของเจ้าพนักงาน ซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ ขอให้ศาลทำการไต่สวนและมีคำสั่งแสดงว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน ตายเมื่อใด เหตุและพฤติการณ์ที่ตายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของผู้ร้องและญาติผู้ตายทั้ง 6 อันประกอบด้วยประจักษ์พยาน พยานแวดล้อมกรณี และผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ตายที่ 1 และที่ 3 ถึงที่ 6 ถึงแก่ความตายเพราะถูกยิงด้วยกระสุนปืนความเร็วสูง ขนาด .223 หรือ 5.56 มม. จากเจ้าพนักงานซึ่งเป็นทหารสังกัดกองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 ค่ายเอราวัณ ที่ประจำการอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส และผู้ตายที่ 2 ถึงแก่ความตายเพราะถูกยิงด้วยกระสุนปืนความเร็วสูง ขนาด .223 หรือ 5.56 มม. จากเจ้าพนักงานซึ่งเป็นทหารสังกัดกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ ที่ประจำการอยู่บนถนนพระรามที่ 1

จึงมีคำสั่งว่า ผู้ตายที่ 1 คือนายสุวัน ศรีรักษา ผู้ตายที่ 2 คือนายอัฐชัย ชุมจันทร์ ผู้ตายที่ 3 คือนายมงคล เข็มทอง ผู้ตายที่ 4 คือนายรพ สุขสถิต ผู้ตายที่ 5 คือ น.ส.กมนเกด อัคฮาด ผู้ตายที่ 6 คือนายอัครเดช ขันแก้ว ถึงแก่ความตายในวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 เวลากลางวัน เหตุและพฤติการณ์ที่ตาย สืบเนื่องมาจากถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .223 หรือ 5.56 มม. ซึ่งวิถีกระสุนปืนยิงมาจากเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยอยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส หน้าวัดปทุมวนารามราชวรวิหารและบริเวณถนนพระรามที่ 1 ซึ่งเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. เป็นเหตุให้ผู้ตายที่ 1 มีบาดแผลกระสุนปืนทะลุปอดและหัวใจ เสียโลหิตปริมาณมาก ผู้ตายที่ 2 มีบาดแผลกระสุนปืนทำลายปอด ผู้ตายที่ 3 มีบาดแผลกระสุนปืนทำลายปอด หัวใจ ตับ ผู้ตายที่ 4 มีบาดแผลกระสุนปืนทำลายปอด ตับ ผู้ตายที่ 5 มีบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง ผู้ตายที่ 6 มีบาดแผลกระสุนปืนทะเข้าใจช่องปาก โดยยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ลงมือกระทำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการอ่านคำสั่ง ศาลกล่าวสรุปประเด็นให้ผู้ที่เข้าร่วมฟังด้วยว่า 1.เกิดจากการกระทำของเจ้าพนักงานทหาร 2.ผู้ตายทั้ง 6 ไม่มีคราบเขม่าดินปืนที่มือทั้งสองข้าง แสดงว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธปืนมาก่อน 3.การตรวจยึดอาวุธในวัดปทุมวนาราม ไม่น่าเชื่อว่ามีการตรวจยึดจริง และ 4.กรณีชายชุดดำ ไม่ปรากฏว่ามีชายชุดดำอยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยศาลมีคำสั่งให้นำคำสั่งนี้ส่งต่อให้พนักงานอัยการ เพื่อดำเนินการต่อไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน