ร้อง “บิ๊กตู่” คัดค้านตัดสักกว่า 4 พันต้น สร้างอาคาร รัฐสภาแห่งใหม่ เผยเสี่ยงได้ไม้ผิดกฎหมาย หรือไม้สวมตอ เสนอให้ใช้วัสดุอื่นทดแทน หากไม่ดำเนินการจะยื่นฟ้องศาลให้สั่งระงับ ขณะที่เลขาฯ สภาฯ ชี้แจงบริษัทผู้รับเหมาซื้อไม้สักถูกต้อง ยันเปลี่ยนวัสดุไม่ได้ ต้องทำตามแบบ เพื่อแสดงถึงความเป็นไทย วัฒนธรรม เอกลักษณ์ของชาติ

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกแถลงการณ์เรื่องอายชาวโลก ตัดต้นสัก 10,000 ต้น เพื่อมาสร้างรัฐสภาที่ออกกฎหมายห้ามตัดต้นไม้ โดยระบุว่าตามที่รัฐสภามีโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่บริเวณเกียกกาย ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยรัฐสภาว่าจ้างบริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบแปลนที่กลุ่มกิจการร่วมค้า สงบ 1051 เป็นผู้ชนะการออกแบบ

โดยต้องจัดให้มีเสาไม้ประดับอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ทั้งภายในและภายนอกอาคารตามแบบสัญญาจ้าง และตามแบบสถาปัตยกรรมที่กำหนดว่าต้องใช้ไม้สักเหลากลม ไม่คดงอ ไม่มีกระพี้ ไม่มีตาไม้ที่ทำให้เสียความแข็งแรงและสวยงาม เส้นผ่าศูนย์กลาง 8 นิ้ว ยาว 5 เมตร จำนวน 4,534 ต้น จะต้องใช้ไม้สักที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 30-40 ปีขึ้นไป ความดังทราบแล้วนั้น

แถลงการณ์ระบุว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าการได้มาซึ่งไม้สักขนาดดังกล่าว จะต้องตัดต้นสักขนาดใหญ่ที่มีอายุ 30-40 ปีขึ้นไปมาเหลาให้ได้ขนาดตามต้องการ และการให้ได้มาซึ่งไม้สักที่มีขนาดและคุณลักษณะดังกล่าวต้องตัดต้นสักไปกว่า 10,000 ต้นจากหลายๆ แหล่ง เพื่อเลือกสรรให้ได้ตามสเป๊กจำนวน 4,534 ต้น เพราะบางต้นที่ตัดมาแล้วจะมีสภาพไม่สมบูรณ์ มีตา มีโพรง มีรูเจาะ คดงอ ก็จะถูกคัดทิ้งไปอย่างน่าเสียดาย

“การตัดต้นสักขนาดใหญ่ที่มีอายุหลายปี ในพื้นที่ป่าและเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก ตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ย่อมไม่กระทบแต่เฉพาะต้นไม้ที่ตัดโค่น แต่จะเป็นการทำลายต้นไม้เล็กๆ อื่นที่ขึ้นอยู่เคียงข้างต้นสักเหล่านั้นด้วย ที่สำคัญสังคมไทยจะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าไม้สักที่นำมาเหลาทำโครงเสาไม้ประดับรัฐสภาเป็นไม้ที่ผ่านการตีตราอนุญาตแล้วทุกต้น ไม่มีการสวมตอ” แถลงการณ์ระบุ

แถลงการณ์ ระบุต่อว่า ทั้งนี้ รัฐสภา เป็นสถานที่ที่ใช้ในการบัญญัติกฎหมาย เพื่อป้องกันการบุกรุกทำลายป่า ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แต่ทว่ารัฐสภาแห่งใหม่นี้กลับยอมรับ หรือส่งเสริมให้ตัดไม้ ทำลายป่า เพื่อมาสร้างอาคารที่หรูหราให้กับผู้ทรงเกียรติได้ใช้เป็นสถานที่ทำงาน ช่างเป็นการย้อนแย้ง จนไม่อาจจะทราบได้ว่าสมาชิกผู้ทรงเกียรติในอนาคตแต่ละท่านจะยืนอภิปรายเพื่อออกกฎหมายท่ามกลางเสาไม้สักที่ถูกฆาตกรรมมาจากป่า 4,534 ต้น ได้สง่างามอย่างไร

สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนขอเรียกร้องให้หัวหน้า คสช.ใช้อำนาจพิเศษในการปกป้องต้นสักที่กำลังถูกโค่นล้มจากป่าของอ.อ.ป. และป่าอื่นๆ ทั่วประเทศ เพื่อเหลาให้กลมตามแบบ และลำเลียงมาก่อสร้างรัฐสภาเสียโดยพลัน เพื่อใช้อำนาจในทางที่ชอบและควรสรรเสริญในการมีส่วนร่วมในการปกป้องป่า และไม้สักไม่ให้ถูกฆาตกรรมที่อ้างว่าชอบด้วยกฎหมายเสีย โดยการสั่งให้มีการเปลี่ยนแบบ โดยใช้วัสดุอื่นมาทดแทนไม้สัก เช่น โพลีเอททีลีน เรซิ่น พลาสติกหุ้มเหล็ก ฯลฯ

แถลงการณ์ ระบุว่า เทคโนโลยีและนวัตกรรมวัสดุศาสตร์ ณ วันนี้สามารถสร้างและเลียนแบบเนื้อไม้สักได้แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องไปตัดไม้สักจากป่าได้อีกต่อไป ถ้าหัวหน้า คสช.สั่งการได้ก็เป็นการยืนยันว่าท่านรักป่า รักต้นไม้ รักษ์สิ่งแวดล้อม แต่ถ้าทำไม่ได้นโยบายทวงคืนผืนป่าควรจะถูกยกเลิกไปเสีย อายเด็กและชาวโลกเขา เพราะการปฏิบัติสองมาตรฐาน ไม่มีใครในโลกเขายอมรับกัน และหากยังนิ่งเฉยสมาคมจะนำความขึ้นฟ้องศาล เพื่อระงับการตัดไม้ทำลายป่าดังกล่าวภายใน 15 วันนี้ต่อไป

ด้าน นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการคัดค้านนำไม้สักมาก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ว่า เข้าใจว่าบริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ได้ซื้อไม้สักไว้หมดแล้ว โดยซื้อจากองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) และต้องนำมาผ่านกระบวนการ ทั้งเอามาแช่น้ำ ตากแดด ซึ่งไม้สักบางอย่างก็ต้องเหลา ทราบว่าเอามาไว้ที่ที่รัฐสภาใหม่ ย่านเกียกกายแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ร้องเรียนระบุว่าเป็นการทำลายป่าไม้ และต้องการให้ใช้วัสดุอื่นแทน นายสรศักดิ์ กล่าวว่า อ.อ.ป.มีหน้าที่ปลูกต้นไม้และจำหน่าย ซึ่งเป็นไม้เศรษฐกิจของประเทศ และไม้สักดังกล่าวบริษัทชิโน-ไทยฯ ก็ซื้อมาอย่างถูกต้อง โดยราคารวมอยู่ในค่าก่อสร้างหมดแล้ว และถ้าบอกว่าให้ใช้วัสดุอื่นแทนไม้สักคงไม่ได้ เพราะแบบก่อสร้างออกมา เพื่อให้เห็นและบ่งบอกถึงความเป็นไทย และเห็นถึงวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของชาติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน