ทร. เผยความพร้อมพระราชพิธีเสด็จฯ ถวายผ้าพระกฐิน
โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ห้องรับรอง ชั้น 2 อาคารส่วนบัญชาการกองทัพเรือ พื้นที่วังนันทอุทยาน พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. พล.ร.ท.จงกล มีสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี และคณะร่วมกันแถลงข่าวการประชุมคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ครั้งที่ 2/2562 เพื่อเตรียมความพร้อมขบวนเรือพระราชพิธี ในพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินไปถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562พล.ร.อ.ลือชัย กล่าวว่า การเสด็จเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในช่วงการพระราชพิธีทรงบําเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ปลายปี พ.ศ.2562 ถือเป็นพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเบื้องปลาย และการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลมอบภารกิจให้กองทัพเรือเป็นหน่วยงานหลัก เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สง่างาม และสมพระเกียรติ การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคจัดเตรียมเรือพระราชพิธีรวมทั้งสิ้นจํานวน 52 ลํา

โดยมีเรือที่สําคัญเป็นเรือพระที่นั่ง ได้แก่ เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์รือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ นอกจากนี้ยังมีเรือพระราชพิธีอื่นด้วยเช่น เรือรูปสัตว์ เรือดั้ง เรือแซง โดยนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2555 มาจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 7 ปี ที่ว่างเว้นการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือร่วมกับกรมศิลปากรสำรวจสภาพเรือพระราชพิธีแล้วมีสภาพชำรุดทรุดโทรมมาก เช่น เรือมีรอยแตก ตัวเรือบิด ปัจจุบันดำเนินการซ่อมบูรณะเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว เรือพระราชพิธีทั้ง 52 ลำ อยู่ในสภาพพร้อมเข้าร่วมพระราชพิธีฯ โดยในวันที่ 11 ก.ค.นี้ จะดำเนินการประกอบพิธีบวงสรวงเรือพระที่นั่งและเรือรูปสัตว์ จำนวน 14 ลำ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี และโรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี จากนั้นวันที่ 12-23 ก.ค. จะเชิญเรือพระที่นั่งและเรือรูปสัตว์ลงน้ำและลากจูงเรือเข้าเก็บที่อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ เพื่อเตรียมงานพระราชพิธี โดยจัดรูปขบวนเรือพระราชพิธีตามรูปแบบโบราณราชประเพณีทุกประการ รูปขบวนเรือแบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย ประกอบด้วยริ้วสายกลาง ซึ่งเป็นเรือพระราชพิธีสายสำคัญ ประกอบด้วยเรือพระที่นั่ง 4 ลำ มีเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ นอกจากนี้ยังมีเรืออีเหลือง เป็นเรือกลองนอก เรือแตงโม เป็นเรือกลองใน โดยเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือพระราชพิธี พร้อมด้วยเรือตำรวจนอก และเรือตำรวจใน

ริ้วสายในขนาบข้างทั้งสองข้างของริ้วสายกลาง โดยมีเรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่นเป็นเรือประตูหน้า เรือเสือทยานชลและเรือเสือคำรณสินธุ์เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์จำนวน 8 ลำ ปิดท้ายริ้วสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาวและเรือเอกไชยหลาวทอง เป็นเรือคู่ชัก ริ้วสายนอกประกอบด้วยเรือดั้งและเรือแซงสายละ 14 ลำ รวมขบวนเรือพระราชพิธีทั้งสิ้น 52 ลำ
ด้านกําลังพลประจําเรือพระราชพิธีคัดเลือกกําลังพลจากหน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ จํานวน 2,200 นาย ที่ไม่เคยเป็นกําลังพลประจําเรือพระราชพิธีมาก่อน และฝึกซ้อมมาอย่างต่อเนื่อง โดยฝึกความคุ้นเคยกับเรือภายในหน่วยเสร็จสิ้นแล้ว

ต่อไปจะฝึกซ้อมในแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.เป็นต้นไป เป็นการฝึกซ้อมการเข้ารูปขบวนและการเดินทางเป็นรูปขบวนเดินทางเพื่อความพร้อมเพรียง มีกําหนดการซักซ้อมในแม่น้ำเจ้าพระยาตามแผนการซ้อมจํานวน 10 ครั้ง แบ่งเป็นการซ้อมย่อย จํานวน 8 ครั้ง และซ้อมใหญ่ จํานวน 2 ครั้ง เป็นการซ้อมเสมือนวันพระราชพิธีฯ เพื่อให้มีความพร้อมที่จะปฏิบัติงานในวันพระราชพิธีที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 ต.ค.นี้สำหรับเส้นทางเสด็จพระราชดําเนินที่เตรียมไว้เป็นเส้นทางเดียวกับที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนิน คือเส้นทางจากท่าวาสุกรีถึงวัดอรุณราชวราราม

“อยากเชิญชวนประชาชนมาร่วมกันชื่นชมพระบารมี ชื่นชมความสวยงาม ชื่นชมอารยธรรมอันเก่าแก่ของประเทศไทย ขอย้ำว่าไม่มีชาติใดในโลกเหมือนเราอีกแล้ว และขอเชิญชวนเยาวชนรุ่นใหม่มาศึกษาหาความรู้และภาคภูมิใจในความเป็นชาติไทย มาดูรากเหง้าอารยธรรมที่สืบทอดมากว่า 700 ปี ไม่ได้สร้างมาเพียงแค่ข้ามวัน” พล.ร.อ.ลือชัย กล่าว


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน