เคลียร์จบแล้ว! กระบะเฉี่ยวจยย.ล้ม หญิงนามสกุล ชัยจินดา ซี่โครงหักทิ่มม้าม-เลือดออกในสมอง คู่กรณียกมือขอโทษพร้อมชดใช้ เผยไม่รู้ว่าขับรถชน

จากกรณี น.ส.วรัชยา ชัยจินดา เจ้าหน้าที่ธุรการโรงพยาบาลภูมิพล ถูกรถกระบะเฉี่ยวชนบนถนนวิภาวดีรังสิต ใกล้สำนักงานเขตจตุจักร ขณะขับรถจักรยานยนต์ไปส่งอาหารให้กับผู้ป่วย จนรถล้มและได้รับบาดเจ็บต้องเข้ารับการรักษาผ่าตัดเนื่องจากซี่โครงหักทิ่มม้ามและมีเลือดออกในสมอง ส่วนรถคู่กรณีได้ขับรถหลบหนีมุ่งหน้าไปทางห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ต่อมา นายชัยพฤกษ์ ปัญญาสิทธิ์ อายุ 38 ปี ได้เข้าแจ้งความที่สน.วิภาวดี แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 ก.ย. ที่สน.วิภาวดี นายชัยพฤกษ์ ปัญญาสิทธิ์ อายุ 38 ปี สามีของ น.ส.วรัชยา ชัยจินดา ผู้บาดเจ็บ ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ผดุงเกียรติ พันศิลป รองผกก.สน.วิภาวดี โดยก่อนเข้าพบ นายชัยพฤกษ์ กล่าวว่า สามารถติดต่อกับคู่กรณีได้แล้วเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ได้นัดเจรจากับคู่กรณีเพื่อให้มารับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นกับ น.ส.วรัชยา โดยตั้งแต่เริ่มไม่เห็นเหตุการณ์อะไรเลย ตนจึงเดินทางไปหากล้องวงจรปิดเองทั้งจากทางกทม. และที่ทางด่วน แต่ก็เห็นภาพไม่ชัดเจน

รถกระบะที่ขับเฉี่ยวชนน.ส.วรัชยา  จนบาดเจ็บ

รถกระบะที่ขับเฉี่ยวชนน.ส.วรัชยา จนบาดเจ็บ

นายชัยพฤกษ์ กล่าวต่อว่า กระทั่งมีคนขับรถคันหนึ่งและเห็นเหตุการณ์ได้นำภาพที่บันทึกไว้ได้มามอบให้กับตน ขณะเดียวกันวันนี้ น.ส.วรัชยา แฟนที่ได้รับบาดเจ็บได้เดินทางมาด้วย โดยยังมีอาการชาทางด้านซ้ายและต้องทำกายภาพบำบัด นอกจากนี้ มีร่องรอยเย็บแผลด้านในขอบตาซ้าย และเจ็บที่หน้าอกเนื่องมาจากที่ซี่โครงทิ่มม้าม รวมถึงยังเดินไม่สะดวกด้วย และจำเป็นต้องหาหมอทุก 2 สัปดาห์ ซึ่งขณะนี้ยังค้างชำระเงินค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเปาโลเกษตร เป็นจำนวนเงิน 39,000 บาท

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ร่องรอยการเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์

ร่องรอยการเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์

“วันนี้ได้นัดคู่กรณีมาตกลงค่าเสียหาย คือเงินที่จะเรียกร้องเป็นเงินที่ติดค้างค่ารักษาพยาบาล เงินซ่อมรถจักรยานยนต์และค่ารักษาพยาบาลที่จะต้องไปหาหมออีก เพราะตอนนี้รายจ่ายทั้งหมดมาตกอยู่ที่ผมคนเดียว ถ้าแฟนปกติยังมีรายได้มาเสริมให้ครอบครัว อีกทั้งเราต้องดูแลลูกอีก 2 คนที่ยังเรียนอยู่” นายชัยพฤกษ์ กล่าว

ผู้เสียหายและสามีเข้าเคลียร์กับคู่กรณี

ผู้เสียหายและสามีเข้าเคลียร์กับคู่กรณี

ต่อมา น.ส.ทิพย์สุคนธ์ แก้วบุญแป็ง อายุ 50 ปี อาชีพรับจ้างเลี้ยงเด็กย่านประชาชื่น คู่กรณี ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน และเข้าขอโทษ น.ส.วรัชยา พร้อมเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถยนต์ ฟอร์ด สีขาว ทะเบียน 6กญ197 กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรถยกสูงเพื่อที่จะไปส่งลูกที่คลองเตย เมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้ยินเสียงสะดุด แต่ก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติ กระทั่งลูกชายมาบอกหลังเกิดเหตุอีก 3 วัน ว่ามีการนำคลิปไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย จึงได้เข้าพบพนักงานสอบสวน ทั้งนี้ ตนไม่รู้จริง ๆ ว่าไปเฉี่ยวชน และยอมรับผิดและชดใช้ทุกอย่าง

คู่กรณียกมือไหว้ขอโทษและพร้อมชดใช้ผู้เสียหาย

คู่กรณียกมือไหว้ขอโทษและพร้อมชดใช้ผู้เสียหาย

ด้าน พ.ต.ท.ผดุงเกียรติ กล่าวว่า จากนี้ก็คงให้คู่กรณีตกลงเรื่องค่าเสียหายกัน ส่วนเรื่องคดีพนักงานสอบสวนได้มีการแจ้งข้อหา น.ส.ทิพย์สุคนธ์ ในข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้เฉี่ยวชน รถอื่นเสียหาย และมีผู้ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส แล้วหลบหนีไปไม่หยุดให้การช่วยเหลือตามสมควรและไม่แจ้งเหตุให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้เคียงทราบทันทีและไม่แจ้งชื่อตัวชื่อสกุลและที่อยู่ของตนและหมายเลขทะเบียนรถแก่ผู้ได้รับความเสียหาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน