เตือน 10 พื้นที่ กทม.-ปริมณฑล ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน แนะเด็กเล็ก-คนท้อง ควรหลีกเลี่ยง
วันที่ 22 ต.ค. กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล พบฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 32 – 84 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เกินมาตรฐานที่บริเวณเขตดินแดง, ริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด, ริมถนนพระราม 2 เขตบางขุนเทียน,
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ริมถนนจามจุรีสแควร์ เขตปทุมวัน, ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ, แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ, ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง สมุทรปราการ, ต.ปากน้ำ อ.เมือง สมุทรปราการ, ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร, ต.มหาชัย อ.เมือง สมุทรสาคร คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ คุณภาพดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ตรวจพบค่าระหว่าง 52 – 130 มคก./ลบ.ม. เกินมาตรฐานที่บริเวณต.ปากน้ำ อ.เมือง สมุทรปราการ
นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า สาเหตุที่ฝุ่นละอองเริ่มมีค่าสูงขึ้น เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมทำให้มีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิเริ่มลดลง เกิดภาวะลมสงบซึ่งทำให้มีการสะสมตัวของฝุ่นละออง จนเป็นสาเหตุให้ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มสูงขึ้น จากสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 สูงเกินมาตรฐานดังกล่าว
กระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งเตือน ให้ประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงทางสุขภาพที่จะได้รับผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ได้แก่ เด็กเล็ก, หญิงตั้งครรภ์, ผู้สูงอายุ, และผู้มีโรคประจำตัว ในพื้นที่ที่ฝุ่นละอองเกินมาตรฐานควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรม หรือออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านเป็นเวลานาน ควรสวมหน้ากากอนามัย เพื่อเป็นการป้องกันฝุ่นละออง รวมถึงป้องกันโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นไปตามหลักการป้องกันไว้ก่อน
นายประลอง กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน คพ. ได้ประสาน จ.สมุทรปราการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินมาตรการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” แล้วรวมทั้งให้หน่วยงานที่ร่วมดำเนินงานได้ขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาในที่โล่งทุกชนิด บำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ ใช้ระบบขนส่งสาธารณะทดแทนการใช้รถส่วนบุคคลในการเดินทาง และขอความร่วมมือสถานที่ก่อสร้างและโรงงานอุตสาหกรรมควบคุมและลดการระบายฝุ่นและมลพิษทางอากาศ
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนได้ติดตามข้อมูลสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่ผ่านทางเว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th และแอพพลิเคชั่น Air4Thai และของกทม. ซึ่งเป็นข้อมูลที่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริงต่อไป
