ส่อคดีพลิก! สาวโวย โดนแกร็บฟู้ด ปากระจกรถพัง พยานโผล่แฉ เก๋งก็ไม่เบา หาเรื่องก่อน

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Aomamm Rawisada โพสต์ภาพพร้อมข้อความขอความช่วยเหลือ ในการติดตามหาตัวผู้ต้องสงสัยที่เป็นคนขับแกร็บฟู้ด ก่อเหตุใช้ของแข็งที่น่าจะเป็นก้อนหินขว้างปาใส่กระจกด้านหลังของรถยนต์ได้รับความเสียหายแล้วหลบหนีไป เหตุเกิดย่านตลาดสันป่าข่อย จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงเย็นวันที่ 12 ม.ค. ที่ผ่านมา ต่อมาพบว่า แกร็บฟู้ดที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ต้องสงสัย ออกมาชี้แจงยืนยันว่า ไม่ได้ขี่รถปาดหน้าและเป็นฝ่ายถูกหาเรื่องก่อน ซึ่งขณะนี้ ตำรวจ สภ.แม่ปิง อยู่ระหว่างสอบสวน ตามที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 15 ม.ค. นายบรรจง (นามสมมติ) พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนเห็นข่าวแล้วรู้สึกตกใจ โดยตัวเองอยู่ร่วมในเหตุการณ์ด้วยในช่วงที่มีการกล่าวอ้างและกล่าวหา คนขี่แกร็บฟู้ด ปาดหน้ารถยนต์ ซึ่งวันและเวลาช่วงเกิดเหตุุนั้น ตนขี่รถจยย.บิ๊กไบก์ มาตามถนนช่วงจากแยกแสงตะวันไปทางถ.เจริญประเทศ พร้อมๆกับคนขี่แกร็บฟู้ดที่ถูกกล่าวหา

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดยขี่ตามหลังรถเก๋งคันที่เกิดเรื่อง ซึ่งสังเกตดูแล้วเหมือนคนขับรถเก๋ง มีท่าทีไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับคนขี่จยย.ทั่วไปเท่าใดนัก สังเกตได้จากการที่มีรถจยย.คันหนึ่ง พยายามจะขี่แซงในช่วงที่อยู่หน้าโรงแรมเชียงใหม่พลาซ่า แต่รถยนต์ไม่ยอมให้แซงด้วยการเร่งความเร็ว จนจยย.คันนั้นต้องยอมไม่แซง

จากนั้นเมื่อมาถึงจุดบรรจบกับถ.เจริญประเทศ ตนเลี้ยวซ้ายไปทางสะพานนวรัฐ เช่นเดียวกับแกร็บฟู้ด โดยแซงรถเก๋งคันที่เกิดเรื่องเหมือนกัน ตนขี่แซงนำหน้าไปก่อนประมาณอึดใจหนึ่งถึงทางเข้าตลาดอนุสาร ก็ได้ยินเสียงรถยนต์บีบแตรค้างเสียงดังต่อเนื่อง จึงหันไปดูควบคู่กับดูกระจกส่องหลังพบว่าเป็นเสียงมาจากรถเก๋งที่ขับไล่บี้แกร็บฟู้ดมา

กระทั่งทั้งคู่เลี้ยวขึ้นสะพานเหล็กไป ซึ่งหลังจากนั้นตัวเองไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นอีก แต่เท่าที่ตัวเองอยู่ในเหตุการณ์ไม่พบว่าคนขี่แกร็บฟู้ดขี่รถปาดหน้าหรือเป็นฝ่ายหาเรื่องรถเก๋ง โดยหากไปตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของเอกชนที่ติดตั้งอยู่ตามเส้นทางนั้น น่าจะช่วยยืนยันได้

ส่วนเรื่องที่รถเก๋งถูกปาหินใส่กระจกเสียหายนั้น ตนไม่เห็นและไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ จึงไม่สามารถบอกอะไรได้ อย่างไรก็ตามในประเด็นเรื่องของการขับขี่ใช้รถใช้ถนนร่วมกันนั้น มองว่าอยากให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ว่า ขับขี่รถบนถนนควรมีน้ำใจให้กันบ้าง หนักนิดเบาหน่อยควรใจเย็นและอภัยให้กัน อย่าใช้อารมณ์มากเกินไปกว่าสติ เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งที่อาจนำไปสู่เหตุการณ์บานปลายและเกิดความเสียหายกันทุกฝ่ายได้

อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าว พนักงานสอบสวน สภ.แม่ปิง เตรียมเรียกตัวคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาให้การกับเจ้าหน้าที่ ในวันที่ 20 ม.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน