เสี่ยเบนซ์อ้างเบรกรถกะทันหัน จนเมียที่ขับฟอร์จูนเนอร์ตามหลังมาหยุดไม่ทัน จนเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนบนถนนรังสิต-นครนายก รถชาวบ้านพังเสียหายไปด้วยรวม 5 คัน บาดเจ็บอีก 6 ราย ส่วนเมียก็รับสารภาพ พร้อมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด ตำรวจตั้ง 2 ข้อหา ขับรถประมาทและไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ผกก.ธัญบุรีเผยพนักงานสอบสวนเร่งตรวจกล้องวงจรปิดว่าเกิดจากการจงใจหรือไม่ พร้อมสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ขณะที่น้องผู้ก่อเหตุรุดเยี่ยมขอโทษเหยื่อแทนพี่สาว

จากกรณีเหตุระทึกกลางถนนรังสิต-นครนายก ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา สาวซิ่งโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ พุ่งชนท้ายรถเบนซ์สีขาวของสามี จนทำให้ผู้ใช้ถนนรายอื่นรับเคราะห์ตามไปด้วยรวม 5 คัน มีผู้บาดเจ็บ 6 ราย โดย 2 รายยังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยน.ศ.ปริญญาเอกหนึ่งในเหยื่อระบุคู่กรณียังไม่ออกมาแสดงความรับผิดชอบอะไรสักอย่าง ล่าสุดผู้ก่อเหตุดอดเข้ามอบตัวเมื่อกลางดึกวันที่ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 16 พ.ค. พ.ต.อ.ธีรวัจน์ ขจรเกียรติภาศ ผกก.สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำหญิงสาวผู้ก่อเหตุ รวมถึงสามีที่ขับรถเบนซ์ สีขาว และผู้เสียหายแล้วทั้งหมดรวม 9 ปาก เหลือเพียงผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ที่ยังนอนพักรักษาตัวที่ร.พ.บางปะกอก รังสิต 2

พ.ต.อ.ธีรวัจน์กล่าวว่า คนขับรถเบนซ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถมาพร้อมกับเพื่อนร่วมงานบริษัทเดียวกัน โดยภรรยาขับรถโตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ตามหลังมาติดๆ กัน เพื่อมุ่งหน้าไปย่านรังสิต เมื่อถึงที่เกิดเหตุรถเบนซ์เกิดเบรกกะทันหัน ทำให้ภรรยาที่ขับตามหลังเบรกไม่ทันจึงเกิดอุบัติเหคุดังกล่าวขึ้น โดยผู้ก่อเหตุรับสารภาพ และพร้อมรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งในส่วนของรถยนต์คู่กรณี ทรัพย์สินที่เสียหาย และค่ารักษาพยาบาลของผู้บาดเจ็บทั้งหมด ซึ่งตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่ร.พ.บางปะกอก 2 ทั้งหมด 3 คน และบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 2 คน รวมทั้งหมด 5 คน

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหากับสาวผู้ก่อเหตุ 2 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2.ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น นอกจากนั้นยังต้องรอใบรับรองจากแพทย์ว่าผู้บาดเจ็บต้องพักรักษาตัวนานเท่าไหร่ หากเกิน 20 วัน จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดเกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมว่ามีเจตนาหรือไม่เจตนา รวมถึงสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ รวมทั้งการตรวจสถานที่เกิดเหตุร่องรอยการเฉี่ยวชน รวมทั้งการส่งรถไปตรวจที่กองพิสูจน์หลักฐาน หากมีพยานหลักฐานอะไรเพิ่มเติมจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีก พร้อมยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

ส่วนอาการนายพีรพงศ์ บุญช่วย อายุ 39 ปี นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และเป็นนักวิจัยของอุทยานแห่งชาติวิทยาศาสตร์ (สวทช.) หนึ่งในผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลบางปะกอก-รังสิต 2 เพราะมีบาดแผลที่ใบหน้าแพทย์ต้องเย็บถึง 18 เข็ม ล่าสุดใบหน้ายังบวมเป่ง และแผลยังไม่แห้งสนิท รวมถึงมีอาการปวดแผลเป็นระยะ แพทย์ยังต้องฉีดยาบรรเทาปวดให้อย่างต่อเนื่อง

นายพีรพงศ์เผยว่า เมื่อคืนวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา มีน้องสาวผู้ก่อเหตุมาเยี่ยมพร้อมขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแสดงความรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ยังไม่ได้มีการตกลงรายละเอียดอะไรกัน ก่อนที่หญิง ดังกล่าวจะเดินทางกลับ ส่วนการรักษาที่ผ่านมาใช้สิทธิ์ตาม พ.ร.บ.ของรถยนต์โตโยต้า อแวนซ่า สีขาว ซึ่งเป็นของเพื่อนที่ตนนั่งมาแล้ประสบอุบัติเหตุ โดยแพทย์ยังต้องนัดศัลยกรรมบาดแผลที่ใบหน้าอีกอย่างต่อเนื่อง ส่วนรถยนต์ที่ประสบเหตุก็ยังไม่ได้มีการซ่อมแซมเพราะต้องรอสำนวนคดีของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนบริษัทประกันของคู่กรณีจึงจะพิจารณาซ่อมแซมให้ตอนนี้รถยนต์ก็ทำได้แค่เพียงจอดไว้ในอู่ซ่อมรถ

“ผมไม่ได้โกรธแค้นอะไรกับคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ที่เป็นคู่กรณี แต่อยากให้มารับผิดชอบและมาซ่อมแซมรถยนต์ เพื่อจะได้กลับไปทำงาน ทั้งนี้ยังมีนายเทียนทอง ยวงแก้ว อายุ 28 ปี น.ศ.มหาลัยขอนแก่น เพื่อนที่นั่งรถมาด้วยกันซึ่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่นี้ด้วย เพราะมีอาการข้อเท้าซ้ายร้าวมีอาการปวด” นายพีรพงศ์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน