วันที่ 17 พ.ค. ที่ด่านตรวจจรินหลวง ต.เมืองนะ อ เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้มีการจัดงานรำลึกนายชัยภูมิ ป่าแส ที่ถูกวิสามัญโดยทหาร ข้อหามียาเสพติดและได้ต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่ ชื่อพิธี “60 วัน ชัยภูมิ-สานฝันจะอุ๊ คืนความจรีง คืนความเป็นธรรม” ผู้เข้าร่วมมีทั้งตัวแทนจากชนเผ่าลาหู่ กลุ่มสตรีชนเผ่าลาหู่ คณะอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เครือข่ายประชาชนจับตามองคดีชัยภูมิ ตัวแทนชุมชนบ้านกองผักปิ้ง นายศักดา แสนมี่ ตัวแทนเครือข่ายชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย นางนาปอย ป่าแส แม่ของชัยภูมิ กลุ่มรักลาหู่ และชาวบ้านร่วมทั้งญาติพี่น้องของนายชัยภูมิ ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง
ในพิธีได้มีการ จัดพิธีซอเชยอ่อจำปี้เว หรือ ทำบุญเลี้ยงข้าวให้คนตาย จากนั้น เป็นพิธีชอเชยแปห่อตู๊ปาปี้เว จุดเทียนอธิฐานให้คนตาย เพื่อให้ความจริงและความเป็นธรรมปรากฏโดยเร็ว จากนั้น คณะอาจารย์ เครือข่ายประชาชนจับตามองคดีชัยภูมิ ได้ชวนผู้มาร่วมพิธีปักหมุดชัยภูมิ โดยแม่ของชัยภูมิ กล่าวว่า “มีความอบอุ่นและรักแผ่นดินนี้ แต่หลังจากลูกชายจากไป ความอบอุ่นได้หายไป แต่ก็ยังคงรักแผ่นดินแห่งนี้” จากนั้นแม่นายชัยภูมิ ได้ร้องเพลงเป็นภาษาลาหู่ ความหมาย รักแผ่นดินประเทศไทยและอาลัยหาลูก ก่อนนำผู้ร่วมพิธีวาง “พู่ดอก” หรือดอกเสื้อลาหู่ วางไว้ที่จุดที่นายชัยภูมิ เสียชีวิต
พิธีสุดท้ายคือการเต้นแจโก่รำลึก ชัยภูมิ ป่าแส โดยมีการให้นักเรียนหญิงตีกล้องและเต้นรำรอบชื่อนายชัยภูมิ แต่ระหวางนั้นเชือกกลองได้เกิดขาด ผู้ร่วมพิธีต่างเงียบกริบ และมีบางคนบอกว่า วิญญาณนายชัยภูมิได้มาเรียกร้องขอความเป็นธรรม ทำให้เชือกกลองขาด บางคนบอกว่านายชัยภูมิมาแสดงการรับรู้ว่ามีคนจัดพิธีให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังมี แม่ของผู้เสียชีวิตจากการถูกวิสามัญในลักษณะแบบเดียวกับชายภูมิ ได้นำภาพลูกชายถูกวิสามัญ มาแสดงมีทั้งภาพที่เกิดเหตุที่ทหารอ้างว่าลูกชายถูกระเบิดในมือ และอีกมือถือยาเสพติด ชื่อนาย อาเบ แซ่หมู่ อายุ 32 ปี มาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกชายของตนเองเช่นกัน
นายไมตรี จำเริญสุขสกุล ประธานุกลุ่มรักษ์ลาหู่ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุที่ชัยภูมิถูกวิสามัญ นั้น ตนได้รับแจ้ง จึงได้ลงไปดู ก็พบทหารที่วิสามัญชัยภูมิ ตอนนั้นตนทำอะไรไม่ถูก และได้ถามทหารไปว่า พี่ทำไมไม่ยิงที่ขา ทางทหารก็ตอบว่า หากยิงที่ขาต้องเล็ง ก่อน ไหนๆ ก็เกิดแล้ว ขอให้ตนใจเย็นและกลับไปก่อน ขอเบอร์โทรศัพท์ตนไว้ หลังจากที่ตนกลับไปแล้วทหารก็ไม่ได้โทรศัพท์หาตนเลย ต่อมาก็ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร ขึ้นมาในหมู่บ้าน มาเยี่ยมแม่ของชายภูมิ ทหารมาบอกตนว่าทหารที่ขอเบอร์โทรศัพท์ตนไว้ฝากบอกว่า ให้ดำเนินการร้องหรือฟ้องร้องไปเลย แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ตนต้องการให้ความจริงปรากฏชัด ที่สำคัญคือเรื่องกล้องวงจรปิด กลับมีปัญหายากเย็นอย่างมากในการเปิดเผย แม้ผลจะออกมาอย่างไร ตนและครอบครัว แม่ของชัยภูมิ จะยอมรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการจัดทำอนุสาวรีย์ หรือ หมุด เพื่อรำลึกถึงโศกนาฏกรรม และได้มีการใช้ชื่อนายชัยภูมิ มาจารึกที่อนุสาวรีย์ที่ประกอบจากแผ่นหินอ่อนรูปสามเหลี่ยม สีดำ มีข้อความว่า “เพื่อสัจจะและความยุติธรรม ณ ที่แห่งนี้ ชัยภูมิ ป่าแส ถูกสังหารอย่างมีเงื่อนงำ” และข้อความ “แด่สามัญชนที่ถูกสังเวย ด้วยความอยุติธรรม ให้ปวงชนได้พ้นจากชะตา ไม่ตายก็ติดคุก สามัญชนจะต่อสู้เพื่อยุติธรรมอันเสมอภาพ”
