สิ้นลูกทุ่งชั้นครู ชินกรไกรลาศ ตายสงบ พิษมะเร็ง แฟนเพลง อาลัยล้น

สิ้นนักร้องเพลงพื้นบ้านลูกทุ่งประยุกต์ “ชินกร ไกรลาศ” เจ้าของเสียงลูกคอ 9 ชั้นจากเพลงดีเด่น “ยอยศพระลอ” เสียชีวิตกะทันหันหลังเข้ารักษาตัวที่ร.พ.ศิริราชได้ 2 วัน แพทย์สุดความสามารถยื้อลมหายใจต่อได้ หลังมะเร็งลำไส้ใหญ่ลุกลามจนติดเชื้อในกระแสเลือด ญาติคนสนิทเผยก่อนสิ้นใจยังละเมอขอบคุณแฟนเพลงที่มาตามไปขึ้นเวทีร้องเพลง กระทรวงวัฒนธรรมเผยเกียรติคุณสามารถประยุกต์เพลงพื้นบ้านภาคกลางมาใช้ร่วมเพลงลูกทุ่งอย่างกลมกลืน จัดพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พร้อมตั้งศพในพระบรมราชานุเคราะห์ที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน

เมื่อเวลา 10.41 น. วันที่ 18 พ.ค. ที่โรงพยาบาลศิริราช ชินกร ไกรลาศ ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) ประจำปีพุทธศักราช 2542 วัย 71 ปี ได้เสียชีวิต เนื่องจากติดเชื้อในกระแสเลือดจากมะเร็งลำไส้ลุกลาม

นายประมณ หรือโอ๊ค วิลยางกูร ญาติของศิลปินเพลงแหล่ชื่อดัง เปิดเผยว่า อาจารย์ ชินกรติดเชื้อในกระแสเลือดมาตลอด คือมะเร็งที่เป็นยังไม่ได้หายขาด พอรักษาดีขึ้นก็ออกไปทำงานต่อปกติ ก็ไปติดเชื้อมาอีกและมาเข้าโรงพยาบาลอีก คือห่วงงาน ไม่ยอมหยุด รับปากไว้แล้วก็ไม่อยากให้เสียงาน จำเป็นต้องไป แต่ที่เริ่มมีอาการชัดเจนคือเช้าวันอังคารที่ 16 พ.ค. ตอน 6 โมงเช้า คือตัวแข็งขยับไม่ได้ เลยเรียกรถพยาบาลไปรับที่บ้านเพื่อมารักษายังร.พ.ศิริราช ตอนนั้นยังคุยได้รู้เรื่อง เมื่อเช้าก่อนสิ้นใจก็ยังคุยกันอยู่ รับรู้ทุกอย่าง ยังเรียกตนอยู่เลย แต่พอเขาเจ็บก็จะเรียกให้ช่วย แต่ยังไม่ได้ไปเลยนะ เหมือนเขาคอยใครไม่รู้ ปวดเรื่อยๆ จน 10 โมงกว่าก็เริ่มสงบลง ไม่เรียกแล้ว แพทย์ก็ทำสุดความสามารถแล้วเพราะเชื้อกระจายไปหมดแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงก่อนหน้านี้ที่เป็นมะเร็ง ได้รักษามาตลอดใช่ไหม นายประมณกล่าวว่า รักษาตลอดครับ ตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว มันไม่หายสนิทแต่ทุเลาขึ้น ก็ยังมาให้คีโมครั้งที่ 2 ตอนครั้งแรกที่มาให้คีโมไปแล้วก็เว้น สักพัก พอมาตรวจใหม่เชื้อยังไม่หาย ก็ต้องมาให้ใหม่ พอเริ่มให้ครั้งที่ 2 ผมก็เริ่มร่วง

นายประมณเผยอีกว่า สำหรับภรรยาเขาทำใจแล้ว แต่มันเป็นธรรมดาที่รับไม่ได้ เกิดขึ้นมาทีก็ทำใจลำบาก แต่ไม่ร้องไห้ฟูมฟายเพราะตอนนี้ทุกคนทำใจได้ ก่อนที่จะสิ้น ก็คิดถึงแฟนเพลงทุกคน มีละเมอว่า “ขอขอบคุณแฟนเพลงทุกคนที่ให้กำลังใจ ชินกร ไกรลาศ อ้าวเขาเรียกขึ้นเวทีแล้ว ไปเร็วๆ เนี่ยเขาประกาศชื่อพี่ จะขึ้นเวทีร้องเพลงแล้ว คือเขาละเมอออกมาแบบนี้เพราะยังห่วงงานอยู่จนวินาทีสุดท้าย”

ทางด้านนางสุชาดา หรือแดง ฝ้ายเทศ ภรรยาของชินกร กล่าวว่า เราอยู่ดูแลใกล้ชิดตลอด ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่มีอะไรมาก เดินได้ปกติ แต่ทีนี้มีวันนึง 15 พ.ค. ไปหาหมอที่ศิริราช พอกลับก็ขึ้นบ้านอาเจียน รุ่งขึ้นเช้าเขาก็ลุกไม่ไหว เจ็บไปทั้งตัว จนไปเรียกรถพยาบาล ก็อยู่โรงพยาบาล 3 วันก็เสีย

ด้านชัยชนะ บุญนะโชติ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) ปี พ.ศ.2541 อายุ 75 ปี รุ่นพี่คนสนิทของ ชินกร เปิดเผยถึงการสูญเสียครั้งนี้ว่า ตนทราบข่าวการเสียชีวิตของชินกรเมื่อช่วงเช้า จริงๆ กำลังจะไปที่โรงพยาบาลกันแต่ทางครอบครัวโทรศัพท์มาบอกว่าไม่ทันแล้ว ตอนที่ได้ยินตกใจและร้องไห้ออกมาเลย เนื่องจากตนและชินกรมีความผูกพันกันมาก รู้จักกันมาตั้งแต่ชินกรเข้าวงการเพราะตนเป็นคนนำ ชินกรเข้ามา เคยมีโอกาสไปแสดงที่จ.พิษณุ โลกด้วยกัน แล้วเพื่อนของชินกรชื่อ ทิว สุโขทัย อยู่ในวงของอาจารย์พยงค์ มุกดา วันนั้นชินกรไปหาเพื่อนชื่อทิวและสมัครเข้ามาอยู่ในวง ซึ่งตนก็รับชินกรทันทีเพราะ วันนั้นอาจารย์พยงค์ไม่ได้ไป แต่ตนเป็นคนคุมวงไป ถือว่าตนกับชินกรเป็นลูกศิษย์อาจารย์เดียวกัน อยู่ในวงของ อ.พยงค์เหมือนกัน ในระยะหนึ่งที่ชินกรตั้งวง ตนกับภรรยาก็ได้ไปอยู่ในวงของชินกรด้วย

“ตอนที่ผมคุมวงของอาจารย์พยงค์ไปแสดงที่พิษณุโลก ชินกรมาหาทิวเพื่อนของเขาที่โรงแรมหอฟ้าและได้เจอกับผมด้วย พอมาอยู่ในวงของอาจารย์พยงค์ด้วยกัน ตอนแรกไม่ค่อยได้อัดเสียง ผมฟังเสียงเขาแล้วก็ชอบ เลยลงทุนกับคุณฉลอง การะเกด เพลงแรกที่ชินกรร้องคือ สั่งน้อง ผลงานการแต่งของคุณฉลอง จากนั้นผมแต่งเพลง ทุ่งร้างนางลืม ให้ชินกรและเป็นชุดแรกที่เขาอัดแผ่นเสียง” ศิลปินแห่งชาติรุ่นพี่กล่าว

ชัยชนะกล่าวต่อว่า ตนทราบมาตลอดว่าชินกรป่วยเป็นมะเร็งลำไส้มานานแล้ว รักษามาหลายรอบ จนมารอบล่าสุดซึ่งเรียกว่า ชินกรเสียชีวิตในหน้าที่ก็ได้ ด้วยความที่ ชินกรเป็นคนรักและห่วงงานมาก ทางครอบครัวเล่าให้ฟังว่าเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ ผ่านมา ชินกรไปทำขวัญนาค พอกลับมาถึงบ้านก็นอนหลับตามปกติ แต่ช่วงเช้ามืดของวันที่ 14 พ.ค. เกิดอาการฉับพลันขึ้น คนในบ้านเรียกรถโรงพยาบาลมารับ แล้วก็มาเสียชีวิต ตนกับครอบครัวของชินกรมีการพูดคุยกันตลอด เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ยังให้กำลังใจลูกของเขาอยู่ ไปมาหาสู่เยี่ยมเยือนกันตลอด ไม่ได้ไปแต่โรงพยาบาลแต่ไปเยี่ยมที่บ้านด้วย ครั้งนี้ถือเป็นการสูญเสียปูชนียบุคคลที่ยิ่งใหญ่และสำคัญอีกครั้งหนึ่งของวงการเพลงไทย สูญเสียบุคลากรที่ดีของประเทศ สูญเสียศิลปินกึ่งศตวรรษผู้มากด้วยผลงานและความสามารถ

เมื่อถามถึงความประทับใจที่มีต่อชินกร ชัยชนะกล่าวว่า ชินกรเป็นคนรักงาน รักเพื่อนฝูง ปรนนิบัติตัวเองดี ไม่สำมะเลเทเมา มีความมัธยัสถ์ เคยมีโอกาสไปเที่ยวบ้านของเขาที่จ.สุโขทัย ได้รับการต้อนรับจากครอบครัวอย่างดี ชินกรเป็นน้องชายที่ดีและน่ารักของตนและเพื่อนฝูงในวงการ ผมขอให้ดวงวิญญาณของน้องชินกรจงไปสู่ที่สุคติ อยู่ในที่ที่ดีงามสู่สรวงสวรรค์ พักผ่อนให้สบายให้เต็มที่เพราะเหน็ดเหนื่อยมานานแล้ว” ชัยชนะกล่าว

ทางด้านไวพจน์ เพชรสุพรรณ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) ปี พ.ศ.2540 ราชาเพลงแหล่ วัย 75 ปี เปิดเผยถึงความรู้สึกว่า พอทราบข่าวตนถึงกับน้ำตาไหล เราผูกพันกันเหมือนพี่เหมือนน้องกันมานานแล้ว เสียใจมากที่เขาไปไวจัง เมื่อเดือนที่แล้วยังนั่งสังสรรค์ไปเป็นกรรมการตัดสินรายการชุมทางดาวทอง ที่สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สีด้วยกันอยู่เลย ได้คุยถึงเรื่องสุขภาพกันเขาบอกยังไหวยังแข็งแรงดี บางครั้งก็จะเหนื่อยๆ ตนก็อวยพรให้บุญรักษานะน้อง กินอยู่ต้องระวังและได้พูดเป็นภาษาชาวบ้านกับเขาว่า โรคนี้มันไม่ให้เกียรติใครหรอก เขาก็ยังหัวเราะคุยกันสนุกสนาน ชินกรพอรู้ว่าตัวเองเป็นโรคนี้เขาก็ไม่ท้อนะ ก็เป็นไปตามวิถีชีวิตอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด คนเรามันตายทั้งนั้นจะตายด้วยโรคอะไร ตายช้าตายไวก็ตายหมด เขาก็ปลงแล้วเพราะอายุเขา 71 ปีแล้ว ตอนที่เจอเขาเมื่อเดือนที่แล้วผมก็ไปผ่าหลังมายังเดินไม่ค่อยได้ เขายังมาช่วยบอกให้เกาะบ่าผมก็ได้ ถือเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอชินกร หลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย เพราะเขาป่วยรักษาตัวอยู่ที่บ้าน

ราชาเพลงแหล่เปิดเผยอีกว่า “ถ้าให้พูดถึงชินกรเรื่องน้ำใจเขาไม่มีขาด เขาไม่ขาดคำว่าเพื่อน ไม่ขาดคำว่าพี่น้อง เขาเป็นคนละเอียดอ่อนไม่ก้าวร้าวไม่อิจฉาริษยาใครทั้งนั้น เขาเป็นคนดีมากๆ และเขาเป็นผู้ใหญ่ที่ศิลปินน้องๆ ควรแก่การนับถือ และเขายังเป็นคนชอบช่วยเหลือคน เป็นผู้ให้คนนึงเลยแหละ แต่เขาก็จะให้เท่าที่เขาให้ได้ เรามีโอกาสได้ร่วมงานกันบ่อย ไปร้องขวัญนาคหรือไปร้องเพลงก็ไปด้วยกันบ่อย”

สำหรับประวัติ ชินกร ไกรลาศ เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2489 ที่จ.สุโขทัย เป็นนักร้องลูกทุ่งที่ประยุกต์เพลงพื้นบ้านมาผสมผสานกับการแสดงดนตรีลูกทุ่งในหลายลักษณะ ทั้งลำตัด เพลงฉ่อย เพลงเกี่ยวข้าว เพลงเรือ เพลงอีแซว และเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) ประจำปีพุทธศักราช 2542 จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดคุ้งยาง อ.กงไกร ลาศ จ.สุโขทัย

เข้าสู่วงการเพลงโดยอยู่ในวงของพยงค์ มุกดา ผลงานเพลงแรกที่ร้องคือ สั่งน้อง มีผลงานเพลงสร้างชื่อได้แก่ เพลงยอยศพระลอ, เพชฌฆาตใจ, เพชรร่วงในสลัม แต่ผลงานที่ผู้คนจดจำได้ดีคือแนวการแหล่ กิ้งก่ากิ้งกือ อันเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังเป็นนักร้องลูกทุ่งที่ประยุกต์เพลงพื้นบ้านมาผสมผสานกับการแสดงดนตรีลูกทุ่งในหลายลักษณะ ทั้งลำตัด เพลงฉ่อย เพลงเกี่ยวข้าว เพลงเรือ เพลงอีแซว รวมทั้งทำขวัญนาคด้วย

ได้รับรางวัลเกียรติยศมากมาย อาทิ แผ่นเสียงทองคำพระราชทาน จากเพลง “ยอยศพระลอ” ชนะเลิศการประกวดดนตรีลูกทุ่งในงานวชิราวุธานุสรณ์ นักร้องลูกทุ่งดีเด่น ในงานกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่ง ไทย ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 นักร้องเพลงไทยผู้ออกเสียงภาษาไทยถูกต้อง จากมหาวิทยาลัยมหิดล ปริญญาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาศิลปศาสตร์ สถาบันราชภัฏธนบุรี ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง รางวัลครอบครัวประชาธิปไตยตัวอย่าง พ.ศ.2544 ฯลฯ

ด้านนางพิมพ์รวี วัฒนวรางกูร อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กล่าวว่า ชินกรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นผู้มีผลงานดีเด่นทางด้านวัฒนธรรม สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกทุ่ง) ของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ประจำปีพุทธศักราช 2536 ได้ใช้ความรู้ความสามารถช่วยเหลือหน่วยงานของรัฐ เอกชน เพื่องานกุศลต่างๆ ตลอดมา

อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรมกล่าวต่อว่า สำหรับการบำเพ็ญกุศลนั้น มีกำหนดการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพวันที่ 19 พ.ค. เวลา 16.00 น. โดยมีกำหนดพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมระหว่างวันที่ 19-25 พ.ค. ณ ศาลา 1 วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน กรุงเทพมหานคร เก็บศพไว้บำเพ็ญกุศลเป็นเวลา 100 วัน และสวธ.จะดำเนินการขอพระราชทานเพลิงศพต่อไป นอกจากนี้จะมอบเงินช่วยเหลือเมื่อเสียชีวิตเพื่อร่วมการบำเพ็ญกุศลศพจำนวน 20,000 บาท และเงินช่วยเหลือค่าจัดทำหนังสือเผยแพร่ผลงานเมื่อเสียชีวิตเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 150,000 บาท