สอบ”เมียน้อย”ลุงบึ้มร.พ.พระมงกุฏฯพบมีส่วนรู้เห็นด้วย โดยก่อนก่อเหตุลุงจะไปพบเมียน้อยที่คอนโดฯในจ.นนทบุรี แถมพบฝักใฝ่การเมือง ส่วนเมียหลวงพบเคยอยู่หน้าสำนักงานอดีตผบ.ทบ. เชื่อไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิด แม้จะเจออาวุธสงคราม-ระเบิดในบ้านย่านรามอินทรา ชี้ไม่มีพฤติกรรมฝักใฝ่ทางการเมือง-ให้การเป็นประโยชน์ จนท.ยังไม่ปักใจเชื่อลุงจะก่อเหตุเพียงลำพัง คาดมีคนอื่นหนุนหลัง ด้านสหภาพกฟผ.ออกแถลง การณ์ประณามบึ้มร.พ. ชี้เป็นการกระทำที่อำมหิต ยันกฟผ.ไม่ฝักใฝ่การเมือง

จากคดีลอบวางระเบิดร.พ.พระมงกุฎเกล้า ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ต่อมาเจ้าหน้าที่ตามจับกุมนายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 62 ปี อดีตวิศวกร กฟผ. ผู้ก่อเหตุไว้ได้ โดยมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดและขยายผลเข้าตรวจค้นห้องพักบางเขน พบไปป์บอมบ์และอุปกรณ์ประกอบระเบิด รวมถึงสายคล้องบัตรและนาฬิกาติดผนังรูปนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยนายวัฒนาสารภาพก่อเหตุวางระเบิดเมืองกรุงรวมแล้ว 6 ครั้ง เพราะไม่พอใจทหารใช้กำลังสลายการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี”53 และทำรัฐประหาร ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

สำหรับความคืบหน้าในคดีนี้ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ยังควบคุมตัวนายวัฒนาไว้ที่กองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน4รอ.) โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริงตั้งแต่ปี 2550 เพียงคนเดียว

รายงานข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงแจ้งว่า ชุดสืบสวนกำลังสอบเครียดนายวัฒนาแม้จะยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือ ก่อเหตุวางระเบิดทั้ง 6 ครั้ง ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจรัฐบาลทหาร แต่หน่วยงานความมั่นคงยังไม่ทิ้งประเด็น มีผู้อยู่เบื้องหลัง เพราะไม่เชื่อว่านายวัฒนาจะปฏิบัติการเพียงลำพัง แม้มีความชำนาญด้านอิเล็กทรอนิกส์ไฟฟ้าก็ตาม

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ตอนนี้จับกุมผู้ต้องหาคดีระเบิดร.พ.พระมงกุฎเกล้า ทั้งหมด 3 คนคือ นายวัฒนา ภรรยาหลวงและภรรยาน้อย แต่ชุดสืบสวนนำตัวทั้ง 3 คนไปสอบสวนกันคนละที่ เบื้องต้นพบว่าข้อมูลของนายวัฒนาเชื่อว่าภรรยาน้อยน่าจะมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ เพราะทราบทุกครั้งที่จะก่อเหตุ โดยนายวัฒนาจะเดินทางไปที่คอนโดฯ ภรรยาน้อยใน จ.นนทบุรี

ขณะที่การสอบสวนภรรยาหลวง พบไม่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง แม้ว่าอาวุธสงครามและระเบิดจะถูกตรวจพบที่บ้านภรรยาหลวงย่านรามอินทราก็ตาม นอกจากนี้จากการสืบประวัติของภรรยาหลวงพบว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานในสำนักงานอดีตผบ.ทบ. ดูแลด้านอาหาร ซึ่งพฤติกรรมไม่ได้ฝักใฝ่ทางการเมืองและปัจจุบันเกษียณอายุราชการไปแล้ว ซึ่งภรรยาหลวงให้การที่เป็นประโยชน์กับ เจ้าหน้าที่

“ตอนนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงยังไม่ปักใจเชื่อ 100% ว่านายวัฒนาก่อเหตุเพียงคนเดียว แม้จะเป็นผู้เชี่ยวชาญต่อวงจรไฟฟ้า เนื่องจากจบอิเล็กทรอนิกส์ไฟฟ้าโดยตรง จึงมีศักยภาพในการดำเนินการ แต่หน่วยงานความมั่นคงยังไม่ตัดประเด็นนี้ออก โดยเฉพาะปมฝักใฝ่การเมือง เนื่องจากภรรยาน้อยฝักใฝ่การเมืองเลือกข้างชัดเจน และทุกครั้งก่อนก่อเหตุ นายวัฒนาและภรรยาน้อยจะไปหารือที่คอนโดฯ ในจ.นนทบุรี ประเด็นนี้ทำให้หน่วยงานความมั่นคงเชื่อว่าน่าจะมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้อง”

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ในวันที่ 20 มิ.ย. ฝ่ายความมั่นคงเตรียมควบคุมตัวนายวัฒนา ส่งให้พนักงานสอบสวนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) โดยพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะเป็นผู้รับผู้ต้องหาด้วยตัวเองและร่วมสอบสวน จากนั้นจะคุมตัวไปทำแผน 6 จุดที่เคยก่อเหตุระเบิด อาทิ ร.พ.พระมงกุฎ เกล้า และหน้าโรงละครแห่งชาติ

ด้านนายนเรนทร์ฤทธิ์ สอาดวงศ์ รองประธานบริหาร ทำการแทนประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า จับมือระเบิดร.พ.พระมงกุฎเกล้าได้แล้วคือ นายวัฒนา ภุมเรศ อดีตพนักงานกฟผ. ที่เกษียณอายุไปแล้ว สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มีความเห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องก่อการร้ายที่รุนแรง แม้ยามศึกสงครามยังต้องหลีกเลี่ยงการทำลายล้างสถานที่รักษาผู้เจ็บป่วย เพื่อการมีชีวิตรอด การกระทำของนายวัฒนาถือเป็นการกระทำความผิดที่อำมหิตในด้านตัวบุคคลไม่ใช่องค์กร เพราะกฟผ.ไม่เคยฝักใฝ่การเมืองหรือกลุ่มผลประโยชน์ กฟผ.มีภาระหน้าที่ดูแลการไฟฟ้าเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ รวมถึงการดูแลราคาค่าไฟที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับประชาชนคนไทย

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยจึงขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองดำเนินการต่อผู้กระทำความผิดตามกฎหมายบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด และพร้อมจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการทำให้บ้านเมืองสงบสุขทุกวิถีทางต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน