แนะ สำนักพุทธฯ ควรหยุดก้าวก่ายศิลปิน สั่งแก้ภาพ ส้มหยุดแต่ขาดองค์ความรู้ นายวรา จันทร์มณี เรียกร้องขอให้ทุกคน ออกมารณรงค์ไม่ให้ลบหรือแก้ไขภาพ

วันที่ 2 มิ.ย. นายวรา จันทร์มณี อดีตเลขาและลูกศิษย์ ท่านอังคารกัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความ กรณีที่สำนักพุทธฯ จ.อุทัยธานี เข้าตรวจสอบภาพและให้ศิลปินแก้ไข ภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่โบสถ์ วัดหนองเต่า หลวงปู่ทิมดำทิมขาว จ.อุทัยธานี ซึ่งศิลปินผู้เขียนภาพ ได้ใส่แนวคิดร่วมสมัย เป็นภาพ สิตางศุ์ บัวทอง กับตำนานส้มหยุด

โดยนายวรา ระบุข้อความว่า รณรงค์ไม่ให้ลบหรือแก้ไขภาพสิตางศุ์ส้มหยุด สำนักพุทธฯ ควรหยุดก้าวก่ายภาพจิตรกรรมฝาผนัง ‘สิตางศุ์ ส้มหยุด’ และไปทำเรื่องที่เป็นเรื่องกว่านี้

จริงๆ การที่สำนักพุทธฯ สั่งให้แก้ภาพ ‘สิตางศุ์ ส้มหยุด’ เป็นเรื่องซีเรียส และพวกเราไม่ควรปล่อยผ่านนะครับ เรื่องการดำเนินงานของสำนักพุทธฯ นี้ เป็นเรื่องความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่ข้าราชการใช้กรอบคิดอันจำกัดของตน มากำหนดวัฒนธรรมหรือแบบแผนทางสังคม โดยไม่คำนึงถึงบริบทหรือตรรกะองค์ความรู้รอบด้าน เราจะปล่อยให้สำนักพุทธฯ ใช้ดุลพินิจด้านเดียวของตัวเองมาตัดสินได้อย่างไร

ผมมองว่า สำนักพุทธฯ กำลังจะเครมว่าตนเองคือ ‘ความถูกต้อง’ จริงๆ แล้วพระพุทธเจ้าเองก็ไม่ได้สอนให้ยึดติด และ ‘ภาพกาก’ ทำนองนี้เขาก็ทำมากันตั้งแต่โบราณ หากสมัยก่อนมีสำนักพุทธฯ ภาพจิตรกรรมฝาผนังคงถูกก้าวก่าย ไม่สามารถบันทึกวิถีชีวิต มีอรรสรสที่สะท้อนสังคมหรืออารมณ์ขันในยุคต่างๆ หลุดรอดมาได้

ผมขอเรียกร้องว่าถึงทุกท่านว่า เราไม่ควรปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านเลย มิเช่นนั้นแล้วสำนักพุทธฯ ก็จะถือสิทธิ์ทำการเช่นนี้อีกเรื่อยไป ผมขอให้พวกเราร่วมกัน รณรงค์ไม่ให้ลบหรือแก้ไขภาพสิตางศุ์ส้มหยุด เพราะมันเป็นการก้าวก่าย ริดรอนสิทธิเสรีภาพ และทำลายศิลปะที่สร้างสรรค์ อีกทั้งเป็นการลบอรรถรสที่บันทึกความทรงจำแห่งยุคสมัย

สังคมไทยควรร่วมกันตักเตือนให้สำนักพุทธฯได้ทบทวนบทบาทตัวเอง และทำเรื่องที่เป็นเรื่องมากกว่านี้ มีพระทุศีล และการทำมาหากินกับวัดอีกมากมาย ทำไมไม่ไปทำ ยกตัวอย่าง สำนักพุทธฯ ควรลงไปจัดการกับ ‘ไอ้ไข่ วัดเจดีย์’ ที่นครศรีธรรมราช ก่อนเลย

 


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน