วันที่ 2 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ จากอิทธิพลของพายุ “ซินลากู” ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลาก จากภูเขาสูงอย่างรวดเร็วทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านที่อยู่ตามที่ลุ่ม และ พื้นที่ทางการเกษตร 3 อำเภอ คือ อ.บ้านโคก อ.น้ำปาด และ อ.ฟากท่า โดยเฉพาะที่ อ.ฟากท่า น้ำป่าไหลหลากลงสู่ลำน้ำปาด พร้อมซากปรังหักพัง กิ่งไม้เป็นจำนวนมาก ไหลกีดขวางทางเดินของน้ำตรงสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กข้ามลำห้วยไพร ล้นทะลักขึ้นสู่ผิวถนน รถขนาดเล็ดไม่สามารถสัญจรได้ และท่วมบ้านเรือนชาวบ้านกกต้อง ม.3 ต.ฟากท่า อ.ฟากท่า มากกว่า 30 หลังคา

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

นายณัฐวัฒน์ เกตุจันทร์ ปภ.จว.อุตรดิตถ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ ร่วมกับ นายสุพัฒน์ ศรีสวัสดิ์ นายอำเภอฟากท่า ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนรถขุดตัก จากแขวงทางหลวงอุตรดิตถ์ที่ 2 เร่งเปิดเส้นทางน้ำ เพื่อระบายน้ำป่าที่ไหลหลาก ลงสู่ลำน้ำปาด ก่อนน้ำป่าจะทะลักข้าท่วมเรือนชาวบ้านเป็นวงกว้าง พร้อมทั้งแจ้งเตือนไปยัง 9 อำเภอ จ.อุตรดิตถ์ เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่มไปจนถึงวันที่ 4 ส.ค. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประชาชนที่อยู่ติดกับลำน้ำปาด ทั้ง อ.ฟากท่า อ.น้ำปาด อ.ทองแสนขัน

ที่ขณะนี้มวลน้ำในลำน้ำปาดยังคงสูง และบางจุดตื้นเขินจากการไม่ได้ขุดลอก อาจส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรได้ เบื้องต้นรับรายงาน พื้นที่อำเภอฟากท่า หมู่ที่ 1-2-3-7-10 ต.ฟากท่า อ.ฟากท่า ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลาก เบื้องต้น นายธนากร อึ้ง จิตรไพศาล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งหากฝนยังตกอย่างต่อเนื่องให้ทุกฝ่ายทำการเฝ้าระวังน้ำป่าที่จะไหลหลากและดินโคลนถล่มบ้านเรือน

ผู้สื่อข่าวรายงานช่วงเวลา 15.30 น. ขณะที่อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์ (มอส.) จำนวน 20 คน จัดเตรียมเรือท้องแบน 1 ลำ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก บ้านลุ่ม หมู่ 1 ต.บ้านเสี้ยว อ.ฟากท่า ต่างต้องเร่งนำเรือท้องแบนลงสู่แม่น้ำปาดเพื่อช่วยชีวิตชาวบ้าน 4 คน ที่ถูกกระแสน้ำพัดและรอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด

นายชนวัฒน์ สีทอง อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์ (นามเรียกขาน 249) เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุทีมกู้ภัยอยู่ในช่วงตะเวรออกช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ ต.บ้านเสี้ยว อ.ฟากท่า ได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านว่า “มีคนตกน้ำ” จึงรีบรุดไปยังพื้นที่ ถูกพบชาย 4 คนน้ำป่าไหลหลากและพัดไปตามลำน้ำปาด มองเห็นเพียงแต่ศีรษะ และไหลไวมากๆ ทุกคนต่างวิ่งตาม พร้อมตะโกนให้ชาย 4 คนพยายามว่ายน้ำเข้าใกล้ฝั่งหรือเกาะหรือจับกิ่งไม้ ก่อนที่จะเร่งน้ำเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ไล่ตามและช่วยชีวิตทั้ง 4 คนขึ้นมาอย่างปลอดภัย

เบื้องต้นทราบว่าชาวบ้านซึ่งเป็นผู้ชาย 4 คนออกจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ ใช้เรือหางยาว สาวลวดสลิงข้ามแม่น้ำปาดเพื่อไปดูไร่ข้าวโพด ขากลับฝนที่ตกหนักระดับน้ำลำน้ำปาดขึ้นสูงและไหลเชียว ทั้ง 4 คนพยายามที่จะพ่ายเรือข้ามเพื่อกลับบ้าน เมื่อมาถึงกลางแม่น้ำ เป็นจังหวะที่น้ำป่าไหลหลาก ทำให้เรือต้านกระแสน้ำไม่ไหวเกิดพลิกคว่ำ และร่างถูกพัดไปกลับกระแสน้ำไปไกลเกือบ 1 กิโลเมตร โชคดีมีชาวบ้านเห็นและร้องขอความช่วยเหลือ และกู้ภัย มอส.ช่วยชีวิตไว้ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลัง จนท.นำรถขุดตักเปิดเส้นทางเพื่อระบายน้ำ ทำให้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย แต่มวลน้ำป่าไหลลงสู่แม่น้ำปาด และไหลมายังพื้นที่ตอนล่าง คือ อ.น้ำปาด และ อ.ทองแสนขัน ซึ่งจังหวัดอุตรดิตถ์ได้สั่งการให้มีการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงไปจนถึงวันที่ 4 สิงหาคม นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน