ฝึกซ้อมหนักมาก ทั้งการ ขี่ม้าและฟิตซ้อมร่างกาย พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯทรงเปิดใจเตรียมพระองค์ลงแข่งขันกีฬาขี่ม้าในศึกซีเกมส์กัวลาลัมเปอร์ นอกจากนี้ยังทรงแนะนักกีฬาทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มากเกินกว่าที่ซ้อมเพื่อชาติ พร้อมทรงแนะคนดูชมการแข่งขันให้สนุก อย่ากดดันนักกีฬาให้มาก เพราะเครียดอยู่แล้ว สำหรับคิวแข่งขันนั้นเริ่มที่ศิลปะการบังคับม้าประเภททีมในวันที่ 22 ส.ค.และประเภทบุคคลในวันถัดไป ส่วนผลการแข่งขันของทีมชาติไทย “เงือกเบญ” สู้เงือกเจ้าภาพไม่ไหวคว้าได้เพียงเหรียญเงินว่ายน้ำ ขณะที่ทีมฟุตซอลไทยทั้งชาย-หญิงถล่มเวียดนามกระจุย 4-1 และ 3-1

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ทรีคิว อีเควสเทรียน ประเทศมาเลเซีย พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนทุกแขนง ก่อนจะทรงเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาขี่ม้า ประเภทศิลปะบังคับม้า ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ว่า “ก็จะเป็นการแข่งขันอีกครั้งหนึ่งที่ได้รับใช้ชาติในปีนี้ ถึงแม้ในหนังสือจะเป็นครั้งที่ 4 ก็ตาม รู้สึกว่าตัวเองอายุมากขึ้น และก็ยังสุขภาพแข็งแรงในการแข่งขันดี ดีใจและภูมิใจทุกครั้งที่ได้มาแข่งขันให้กับประชาชนชาวไทยได้รับชมกัน

ผู้สื่อข่าวทูลถามการฝึกซ้อมและการเตรียมตัวก่อนลงแข่งขัน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ตรัสว่า “ซ้อมหนักไหม ซ้อมหนักมาก มีม้าที่ต้องรับผิดชอบ 2 ตัว ซ้อมก็ตัวละ 45 นาที บางทีก็อาจจะเกินกว่านั้น ปีนี้เป็นปีที่แข่งขันในยุโรปค่อนข้างมาก 1 เดือนก็แข่ง 2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย ไม่นับรวมถึงการซ้อม เรื่องของการฟิตร่างกายเป็นไปตามกิจวัตรปกติ ตามที่จัดตารางไว้ตามปกติ รวมทั้งมีหมายและภารกิจอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการทรงม้าด้วย ก็จ่อๆ กันมา แต่เรื่องการฝึกซ้อมก็จะเป็นอันดับต้นๆเสมอ”

จากนั้น ตรัสถึงม้าที่จะทรงใช้ในการแข่งขันครั้งนี้ว่า “ปีนี้เป็นปีที่ม้าปรินซ์ ชาร์มมิ่ง ตัวที่ทุกท่านเคยได้เห็นกันมาแล้ว และเป็นตัวที่เคยลงแข่งเอเชี่ยนเกมส์ที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ซึ่งรอบนี้ก็จะเป็นการแข่งขัน รอบท้ายๆ ค่อนข้างเกือบจะรีไทร์แล้ว แต่จะรีไทร์หรือไม่นั้นต้องมาคุยกับโค้ชอีกทีหนึ่ง”

พร้อมกันนี้ ยังตรัสด้วยว่า “ปีนี้มีม้าตัวใหม่มา เป็นม้าระดับกรังด์ปรีซ์หรือกรังด์ปรีซ์ สเปเชี่ยล ก็คือการแข่งขันโอลิมปิก ชื่อปรินซ์ ออฟ สะวิง เป็นพันธุ์โอเดนเบิร์ก จากเยอรมนี เพิ่งมาได้ประมาณ 4 เดือน แต่ปีนี้ไม่ได้มาแข่งขัน หวังว่าจะได้เจอกันอีกเร็วๆ นี้ ปีนี้จะเป็นปรินซ์ ชาร์มมิ่งก่อน ซึ่งตอนนี้ยังมาไม่ถึง ม้าก็มีสุขภาพแข็งแรงดี”

ผู้สื่อข่าวทูลถามถึงการแข่งขันขี่ม้า “ปริ๊นเซส คัพ 2017” ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-29 พ.ย.นี้ ที่กองพันทหารม้าที่ 29 รักษาพระองค์ พระองค์ตรัสว่า “ปริ๊นเซส คัพ เป็นอีกหนึ่งรายการที่ใหญ่สำหรับปีนี้ เป็นการแข่งขันที่ใหญ่ขึ้น มีทั้งระดับยุวชน, เยาวชน มาคัดเลือกทีมชาติ และมีต่างชาติมาแข่งอย่างเช่น กาตาร์ ญี่ปุ่น อีเวนต์ใหญ่ขึ้น มีความน่าตื่นเต้นมากขึ้น นอกจากเรื่องการแข่งขันจะมีงานแฟร์ มีการแข่งขันสุนัข และเรื่องม้า เรื่องอาหาร มีกิจกรรมมากมาย เพื่อให้เยาวชนและผู้ปกครองได้มาร่วมงานกันในปีนี้”

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ตรัสปิดท้ายถึงทีมนักกีฬาชาติไทยว่า “ก็คือว่ามาแข่งขัน เราทำเพื่อชาติ เวลาแข่งขันก็มีความตั้งใจ ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เวลาซ้อมมาอย่างไร ก็ขอให้เกินในสิ่งที่ตัวเองซ้อมมา ตั้งใจให้มากที่สุด ผลแพ้ชนะเป็นเรื่องของบทเรียนที่ต้องดำเนินชีวิตกันต่อไป อยากให้ตั้งใจ ขอให้คนไทยชมกีฬาอย่างสนุกสนาน อย่าไปกดดันนักกีฬามาก เพราะเขาก็มีความ เครียดเหมือนกัน ขอให้มีความสุขกับการรับชมกีฬา”

สำหรับพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริ วัณณวรีนารีรัตน์ มีโปรแกรมจะทรงแข่งขันขี่ม้า กีฬาซีเกมส์ 2017 ประเภทศิลปะบังคับม้า ประเภททีม ในวันที่ 22 ส.ค. ก่อนที่จะเป็นการแข่งขันในประเภทบุคคล วันที่ 23-24 ส.ค. ที่ทรีคิว อีเควสเทรียน ประเทศมาเลเซีย

วันเดียวกัน ทีมผู้สื่อข่าวกีฬา “ข่าวสด” รายงานการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ว่าในวันเดียวกันนี้ มีการชิงชัยว่ายน้ำมาราธอน 10 ก.ม. 2 เหรียญทอง ประเภทหญิงและชาย ที่ทะเลสาบ ปุตราจายา ซึ่งไทยมีลุ้นเหรียญทองจาก “เงือกเบญ” เบญจพร ศรีพนมธร เงือกสาวปอดเหล็ก เจ้าของเหรียญทองเอเชี่ยนบีชเกมส์ (5 ก.ม.) ซึ่งต้องขับเคี่ยวกับ ไฮดี้ แกน ตัวเก๋าจากมาเลเซีย เจ้าภาพที่เคยผ่านเวทีระดับโอลิมปิกเกมส์มาแล้ว และรายการล่าสุดชิงแชมป์เอเชียที่มาเลเซีย เบญจพร ได้เหรียญทองแดง ส่วนไฮดี้ คว้าเหรียญทอง

เกมการแข่งขันเป็นไปอย่างสูสีในช่วงต้นของการแข่งขัน โดยระยะ 5 กิโลเมตรแรกซึ่งเป็นระยะถนัดของ “เงือกเบญ” แต่หลังจากนั้น ไฮดี้ เริ่มว่ายทิ้งห่าง ก่อนเข้าเส้นชัย คว้าเหรียญทอง เวลา 2.11.02 ช.ม. ส่วนเบญจพรคว้าเหรียญ เงิน เวลา 2.16.37 ช.ม. และเหรียญทองแดง ชานทัล หลิว จากสิงคโปร์ 2.21.30 ช.ม.

ส่วนประเภทชาย พีระพัฒน์ เลิศสถาพรสุข ฉลามหนุ่มของไทย เร่งเครื่องจากอันดับ 3 ในช่วงท้ายๆ เข้าอันดับ 2 คว้าเหรียญเงิน เวลา 2.05.41 ช.ม. ส่วนเหรียญทองเป็นของเควิน เยียบ จากมาเลเซีย 2.03.18 ช.ม. เช่นกัน และอัฟลาห์ ฟัดลาน ปาวิร่า จากสิงคโปร์ ได้เหรียญทองแดง เวลา 2.08.40 ช.ม.

ด้าน “เงือกเบญ” กล่าวว่า ความหวังของตนคือคว้าเหรียญเงิน แต่ก็ฝึกซ้อมหนัก เพราะเคยแพ้ ไฮดี้ ซึ่งเป็นนักกีฬาระดับโอลิมปิกเกมส์มาตลอด เพื่อหวังจะชนะ ช่วงแรกๆ ค่อนข้างสูสี แต่เมื่อพ้นระยะที่ถนัด ก็พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่ไม่สามารถไล่ได้ทันจริงๆ หลังจากนี้ยังเหลือการแข่งขันประเภท ฟรีสไตล์ 200 ม. และว่ายผลัดฟรีสไตล์ 4 คูณ 200 ม.อีก รู้สึกกังวลเล็กน้อยเนื่องจากร่างกายอาจจะฟื้นได้ไม่เต็มที่

ส่วนการแข่งขันฟุตซอล ซีเกมส์ 2017 ที่พานาโซนิค สปอร์ตส์ คอมเพล็กซ์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ทัพฟุตซอลไทยทีมชาย และทีมหญิงลงเตะนัดแรก เจอกับเวียดนามทั้งสองประเภท โดยทีมโต๊ะเล็กชายของไทย แชมป์เก่า 3 สมัย ปี 2007 , 2011 และ 2013 พบทีมชาติเวียดนาม คู่ปรับตลอดกาล ถือเป็นการดวลกันระหว่าง 2 โค้ชสเปน คือโฮเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดซ หรือ ปูลปิส กับ มิเกล โรดริโก้ อดีตเฮดโค้ชทีมชาติไทย ที่ปัจจุบันรับหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนเวียดนาม

สำหรับผู้เล่น 5 คนแรกของไทย ประกอบด้วย คฑาวุธ หาญคำภา ผู้รักษาประตู, จิรวัฒน์ สอนวิเชียร, กฤษดา วงษ์แก้ว กัปตันทีม, ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง, วรุฒ หวังสะมะแอล

รูปเกมครึ่งแรก ทีมชาติไทย เป็นฝ่ายครองบอลบุกได้ดีกว่า และได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0 นาที 9 จากจังหวะฟรีคิก กฤษดา เล่นลูกสูตรกับ เจษฎา ชูเดช ก่อนไหลให้ศุภวุฒิยิงเข้าไป

หลังเสียประตูเวียดนาม เริ่มเปิดเกมรุกเข้าใส่ได้น่ากลัว แต่ยังเจาะประตูไทยไม่ได้ ขณะที่ไทยเล่นได้ตามเกมของตัวเอง นาที 18 อภิวัฒน์ แจ่มเจริญ จ่ายให้มูฮัมหมัด อุสมานมูซ่า แปโล่งๆ เป็นประตู จบครึ่งแรกไทยนำ 2-0

ครึ่งหลัง นาที 24 ไทยได้ประตูหนีห่างเป็น 3-0 จากการยิงจ่อๆ ของมูฮัมหมัด อุสมานมูซ่า แต่เวียดนามไม่ยอมแพ้ ยังเดินหน้าเล่นเกมรุกใส่ไทย และทำประตูตีไข่แตกสำเร็จ นาที 28 จากการพลิกตัวยิงด้วยซ้ายหน้ากรอบของเหวียน มินห์ ตรี เวียดนามไล่มาเป็น 1-3 จากนั้นช่วง 5 นาทีสุดท้าย เวียดนามพยายามเล่นเพาเวอร์เพลย์ และเกือบทำประตูเพิ่มได้ แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่แน่นอน ขณะที่ไทยรอตั้งรับแล้วสวนกลับ ก่อนจะได้ประตูปิดกล่องจาก จิรวัฒน์ สอนวิเชียร นาทีสุดท้าย จบเกมทีมชาติไทย ชนะ เวียดนาม 4-1 ประเดิม 3 แต้มแรกได้สำเร็จ

นัดต่อไปฟุตซอลชายไทย จะพบ อินโด นีเซีย วันที่ 20 ส.ค. เวลา 13.00 น. ตามเวลาประเทศไทย สำหรับฟุตซอลในซีเกมส์ครั้งนี้ใช้ระบบการแข่งขันพบกันหมด ทีมไหนมีคะแนนมากสุดก็คว้าเหรียญทอง

ส่วนฟุตซอลหญิง มี 5 ชาติเข้าแข่งขัน เล่นระบบพบกันหมด ทีมที่มีแต้มเยอะสุดคว้าเหรียญทองทันที โต๊ะเล็กสาวไทย แชมป์เก่า 3 สมัย ลงสนามประเดิมนัดแรก พบ เวียดนาม

สำหรับผู้เล่น 5 คนแรกไทย ประกอบด้วย พรรนิภา กมลรัตน์ ผู้รักษาประตู, จีระประภา ทับสุริย์ กัปตันทีม, จิระประภา นิ่มรัตนสิงห์, สิรัญญา ศรีมะณี, ดาริกา เพียรภายลุน

เริ่มเกมครึ่งแรกแข้งสาวไทยเป็นฝ่ายครองบอลบุกได้มากกว่า แต่จังหวะเข้าทำยังไม่คม ขณะที่เวียดนามอาศัยจังหวะสวนกลับ สร้างโอกาสยิงได้น่ากลัว พรรนิภาต้องออกแรงเซฟหลายครั้ง จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอ 0-0

ครึ่งหลังเวียดนามกลับมาเล่นได้ดีขึ้นและ สวนกลับน่ากลัว แต่ไทยยังต้านไว้ได้ กระทั่งนาที 24 มุทิตา เสนคราม ตัดบอลได้กลางสนาม ก่อนพาบอลมาหน้าประตูและปาดให้ ดาริกา เข้าชาร์จจ่อๆ เป็นประตูให้ไทยขึ้นนำ 1-0

หลังเสียประตูทำให้เวียดนามเปิดหน้าแลกมากขึ้น จึงเป็นโอกาสของทีมไทย นาที 30 มุทิตา ตอกส้นให้ศศิชา โพธิ์วงษ์ ยิงให้ไทยหนีเป็น 2-0 จากนั้นสาวไทยยังเล่นดีต่อเนื่อง และได้ประตู 3-0 นาที 32 จากจังหวะสวนกลับ หทัยชนก เทพคุณ พาบอลมาสุดเส้นด้านขวา ก่อนดึงบอลให้ จิระประภา นิ่มรัตนสิงห์ วิ่งมาซัดเต็มข้อ

ช่วงเวลาที่เหลือเวียดนามหันมาเล่นเพาเวอร์เพลย์ และได้ประตูตีไข่แตกจาก เหวียน ธิ ฮุย นาที 38 แต่ก็ทำได้แค่นั้น จบเกมโต๊ะเล็กสาวไทย ชนะ เวียดนาม 3-1 ประเดิมเก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ

หลังเกม “แป้ง” น.ส.กมลวรรณ วงศ์วิลัย ผู้จัดการทีมฟุตซอลหญิงไทย กล่าวว่า ถือเป็นการปลดล็อก และเปิดตัวทีมได้ดี เพราะนักเตะหลายคนก็เล่นซีเกมส์ครั้งแรกจึงตื่นเต้นและยังเล่นไม่ได้ตามฟอร์มที่สมบูรณ์แบบ แต่ช่วงพักครึ่งทีมก็ได้แก้เกม และทำให้นักเตะผ่อนคลายขึ้นจนเริ่มกลับมาเล่นสร้างสรรค์เกมได้ สำหรับอีก 3 นัดที่เหลือก็จะไม่ประมาททั้ง 3 ทีม เพราะทุกทีมต่างมีการพัฒนาขึ้น แต่เป้าหมายคือมาเพื่อคว้าเหรียญทองเท่านั้น

ส่วน “โค้ชดม” นายอุดม ทวีสุข เฮดโค้ชทีมโต๊ะเล็กสาวไทย กล่าวว่า เป็นเกมแรกที่กดดัน ซึ่งทุกคนก็เล่นได้ดี แต่ยังมีข้อปรับปรุงอยู่พอสมควร เนื่องจากผู้เล่นมีอาการตื่นเต้นจนทำให้ฟอร์มที่ทำได้ดีตอนซ้อมหายไปบางส่วน แม้จะชนะเวียดนามได้ แต่อีก 3 นัดที่เหลือสำคัญทั้งหมด โดยทีมเล่นเกมรับได้ดีแล้ว แต่เกมรุกต้องไปปรับแก้อยู่บ้างในเรื่องแท็กติก แต่จากชัยชนะนัดนี้ก็ช่วยให้ทีมคลายความกดดันไปได้พอสมควร

ด้านสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมมือกับภาคเอกชน เตรียมมอบรางวัล ให้แก่นักกีฬาฟุตบอล และฟุตซอลทีมชาติไทย ที่สามารถคว้าเหรียญทองได้สำเร็จ โดยขณะนี้มียอดเงินรางวัลรวมสะสมแล้ว จำนวน 12 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.กลุ่มบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำนวน 5 ล้านบาท 2.ธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 3 ล้านบาท 3.กลุ่มบริษัท Gulf Energy Group จำนวน 3 ล้านบาท 4.บริษัท ไอ-สปอร์ต จำกัด จำนวน 1 ล้านบาท

สำหรับ บริษัท ห้างร้าน หรือหน่วยงานใด ที่ต้องการมอบรางวัลเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่นักกีฬาฟุตบอล นักกีฬาฟุตซอลทีมชาติไทย ในการสู้ศึกกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ณ กรุงกัวลาลัม เปอร์ ประเทศมาเลเซีย สามารถติดต่อแสดงความจำนงได้ที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศ ไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โทรศัพท์ 0-2011-7177 ต่อ 136-137 และ 142-143 หรือโอนผ่านบัญชี “สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” สาขาแม็กซ์แวลู พัฒนาการ เลขที่บัญชี 406-806230-9 โดยส่งเอกสารการโอนมาที่ อีเมล์ : [email protected]

สำหรับพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2017 อย่างเป็นทางการ จะมีขึ้นเวลา 19.00 น. วันที่ 19 ส.ค. ตามเวลาประเทศไทย สนามบูกิต จาริล กรุงกัวลาลัมเปอร์ มีนายไครี่ จามาลุดดิน รมว.กระทรวงกีฬาและเยาวชนมาเลเซีย เป็นประธาน สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ถ่ายทอดสด โดยจ้าภาพจัดการแสดงอย่างยิ่งใหญ่ เน้นคอนเซ็ปต์ “Rising Together” ที่สื่อความหมายถึงการร่วมแรงร่วมใจของภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้นายเนาราจ ไซนจห์ ราดาว่า อดีตแชมป์กระโดดสูง เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ 2 สมัยหลังสุด และเป็นนักกีฬากรีฑาคนเดียวของมาเลเซีย ที่คว้าโควตาไปลุยโอลิมปิกเกมส์ได้สำเร็จ จะเป็นตัวแทนนักกีฬากล่าวคำปฏิญาณ

สำหรับการเดินพาเหรดเข้าสู่สนามของทัพนักกีฬาไทย จะเดินเข้าสู่สนามเป็นชาติที่ 8 จากทั้งหมด 11 ชาติ และปิดท้ายด้วยมาเลเซีย เจ้าภาพ โดย “ปุ้ย” พรชัย เค้าแก้ว นักกีฬาเซปักตะกร้อจอมเก๋า วัย 36 ปี ที่เข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 9 และยังเป็นเจ้าของสถิตินักกีฬาไทยที่คว้าเหรียญทองในเอเชี่ยนเกมส์มากที่สุด 8 ครั้ง และครองเจ้าซีเกมส์ตลอด 7 ครั้งที่ผ่านมา เป็นผู้ถือธงชาติไทยในพิธีเปิดการแข่งขัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน