คดีฟอกเงินกรุงไทยบาน ทนายยื่นบี้”ดีเอสไอ”จันทร์นี้ไม่สอบเอาผิดผู้บริหารที่อนุมัติกู้ ระบุเข้าข่ายผิดม.157 จี้ปปง.เรียกเงินคืนจากแบงก์กรุงเทพด้วย นปช.ลุยยื่นอัยการพรุ่งนี้ ส่งต่อสำนวนคดีฆ่าคนตายให้ป.ป.ช.ดำเนินการ จากนั้นวันที่ 22 ก.ย.ก็จะไปยื่นตรงป.ป.ช. ด้านแม่เกด-พ่อเฌอจัดกิจกรรมพับถุงกล้วยแขก สื่อถึงความสูญเสีย เพื่อไทยรุมจี้ “บิ๊กตู่” ยึดคำพูดเลือกตั้งปี 61 ก่อนเสียคน ปชป.หวั่นนายกฯระบุรอกระบวนการปรองดองลงตัว เป็นข้ออ้างยืดเลือกตั้ง “มาร์ค” นำลูกพรรคอวยพร “ปู่พิชัย” ครบ 92 ปีชื่นมื่น เจ้าตัวชี้รัฐธรรมนูญเปิดช่องทหารนั่งนายกฯ โฆษกกลาโหมโต้ข่าว “ป้อม” พบ “แม้ว” ที่อังกฤษ อ้างมโนกันไปเอง
ปชป.แห่อวยพร 92 ปีปู่พิชัย
เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 16 ก.ย. ที่วัดโพธิ์แมนคุณาราม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค และอดีตส.ก. ส.ข. เข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 92 ปีของนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรค โดยมีนายพิจิตต รัตตกุล ลูกชาย ร่วมรับแขก ขณะที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเดินทางมาภายหลังนำกระเช้าดอกไม้เข้าอวยพรด้วย
เมื่อนายพิชัยเดินทางมาถึงวัด นายอภิสิทธิ์เข้าสวมกอดแนบแน่นทันทีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แจ่มใส นายพิชัยกล่าวขอบใจ นายอภิสิทธิ์ มอบกระเช้าต้นไม้มงคล เป็นของขวัญวันคล้าย วันเกิด
จากนั้นนายพิชัย และนายอภิสิทธิ์ พร้อมคณะได้เข้ามาทำพิธีก่งฮุก ถวายพระพุทธบูชา พระพุทธวัชรโพธิคุณในโบสถ์ใหญ่ โดยมีพระ มหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร(เย็นเต็ก) เจ้าคณะใหญ่คณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย นำพระลูกวัดสวดมนต์ ซึ่งพิธีดังกล่าวถือเป็นพิธีกรรมหนึ่งในพระพุทธศาสนามหายาน ซึ่งถือเป็นพิธีสำคัญใหญ่ โดยพระสงฆ์ทั้งวัดจะร่วมกันสวดก่งฮุก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีนักการเมืองต่างพรรคมาร่วมอวยพรด้วย อาทิ นายวิชาญ มีนชัยนันท์ อดีตส.ส.กทม. เขตมีนบุรี พรรคเพื่อไทย นำกระเช้ามาอวยพรด้วย นายประจวบ ไชยสาส์น นายโสภณ เพชรสว่าง
พิชัยชี้แนวโน้มนายกฯทหาร
นายพิชัย ให้สัมภาษณ์กรณีหลายฝ่ายท้วงติงข้อเสนอเรื่องรัฐบาลแห่งชาติว่า ไม่น้อยใจ เพราะสิ่งที่ทุกฝ่ายให้ข้อคิดต่อข้อเสนอเรื่องรัฐบาลแห่งชาติที่ตนเสนอ ก็ต่างหวังดีกับประเทศชาติทั้งนั้น แนวทางเรื่องการสร้างความ ปรองดองไม่ได้มีหนทางเดียว สิ่งที่ตนเสนอเป็นเพียงข้อเสนอหนึ่งที่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ แต่คิดว่ามีความนิ่มนวล มีความเป็นไปได้ และถ้าทำได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี ตนอยากเห็นความสงบเรียบร้อย และคิดว่าทุกคน ก็อยากเห็นเหมือนกัน ซึ่งในความเป็นจริงตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 กำหนดให้ ส.ว. 250 คนร่วมเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งเรื่องนี้ ก็ชัดเจนว่านายกฯจะมาจากพลเรือนหรือทหาร อีกทั้งปัญหาสำคัญก็คือไม่มีทางที่ ส.ส.จะรวมตัวกันได้ถึง 250 คน เพราะต่างฝ่ายต่างไม่ถูกกัน แต่ก็ไม่เสมอไปที่นายกฯจะเป็นทหาร ขึ้นอยู่กับรัฐสภาว่าจะเลือกใคร
เมื่อถามว่า เปรมโมเดลน่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนี้หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า ตนกำลังคิดถึงเรื่องนั้นทีเดียว เพราะพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ไม่ได้เป็น ส.ส. แต่ก็สามารถรวบรวมพรรค การเมืองเข้ามาร่วมเป็นรัฐบาลได้ ซึ่งในสมัยนั้น ตนทำงานได้อย่างสบายใจ ทั้งนี้ ส่วนตัวคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นอย่างพล.อ.เปรมได้ แต่ต้องลดโทนลง เพิ่มความนิ่มนวลขึ้น 20-30 เปอร์เซ็นต์
มาร์คเตือน-เลื่อนโรดแม็ป
ด้านนายอภิสิทธิ์กล่าวถึงข้อเสนอแนะการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติว่า ขณะนี้ใครจะไปวิเคราะห์หรือวิจารณ์สูตรอะไรก็แล้วแต่ แต่ว่าเราอยู่ในขั้นตอนเดินตามโรดแม็ป พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็พูดเมื่อคืนว่าถ้ากฎหมายเรียบร้อยก็เดินไปตามนั้น ก็ควรทำให้สถานการณ์เดินไปตามนี้ แต่อะไรที่ยังเป็นความกังวลและความห่วงใยที่สะท้อนมาโดยเฉพาะจากผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องเอามาคิด เอามาดูว่าจะมีวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างไร
และถ้าหากไม่มีการเลือกตั้งก็จะเกิดความขัดแย้งในอีกรูปแบบหนึ่ง จริงๆ แล้วในแง่ของความเชื่อมั่นในสังคมโลก ซึ่งประเทศไทยก็เป็นส่วนหนึ่งซึ่งจำเป็นที่ต้องเดินไปทางนั้นอยู่แล้ว เมื่อถามว่ารัฐบาลรัฐบาลแห่งชาติไกลเกินไปหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลแห่งชาติ เป็นสิ่งที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่าย ไม่อย่างนั้นก็ไม่เป็นรัฐบาลแห่งชาติ วันนี้มีหลายฝ่ายที่แสดงความไม่เห็นด้วย แสดงให้เห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย
เมื่อถามว่าเชื่อหรือไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปีหน้าถ้าไม่มีเหตุขัดข้อง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่าส่วนตัวเชื่อ ถ้าไม่มีอะไรขัดข้องก็ต้องเลือกอยู่แล้ว ถ้าอยากได้ยินคำว่าถ้ามีอะไรขัดข้องนายกฯก็จะแก้ไขให้ไม่ขัดข้อง มากว่า ก็จะเกิดความเชื่อมั่นเดินหน้าไปได้ เพราะปฏิทินโรดแม็ปทุกอย่าง นายกฯเป็นคนกำหนดเอง และเป็นสิ่งที่ทำให้ทั่วโลกจับตา เพราะถ้าเราเปลี่ยนแปลงไปเปลี่ยนแปลงมาความน่าเชื่อถือก็ไม่เกิด
ยินดีให้สอบเรือเหาะ
นายอภิสิทธิ์กล่าวกรณีการปลดประจำการของเรือเหาะ ที่ได้รับการอนุมัติจัดซื้อในสมัย ที่นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกฯ ว่า ทุกอย่างเป็น กระบวนการขั้นตอนการจัดซื้อโดยเสนอขึ้นมาจากกองทัพบก ถึงความจำเป็นที่จะต้องมีเพื่อใช้งาน และหากจะมีการตรวจสอบก็ยินดี เพราะทุกฝ่ายต้องพร้อมรับการตรวจสอบอยู่แล้ว เพียงแต่ผู้ที่จะให้รายละเอียดได้ชัดเจนที่สุดก็คือกองทัพบก
นายอภิสิทธิ์กล่าวกรณีแกนนำนปช. ระบุจะยื่นเรื่องให้อัยการสูงสุดและ ป.ป.ช.สั่งฟ้อง นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพ รวมถึงผู้เกี่ยวข้องในเหตุสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงเมื่อปี 2553 ว่า มีหลักเกณฑ์ตามกฎหมายอยู่แล้ว และ ป.ป.ช.ก็ได้สรุปกรณีของนายสุเทพกับ พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ในขณะนั้น ไว้แล้วว่ากระบวนการจะต้องเดินอย่างไร ตนก็เห็นใจ ผู้สูญเสีย และพูดมาตลอดว่าอะไรที่ช่วยให้ เกิดข้อเท็จจริง และความเป็นธรรมก็ควรที่จะทำ แต่ไม่ควรเอามาเป็นประเด็นทางการเมือง
จุรินทร์จี้ปลดล็อกพรรค
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่มีหลายฝ่ายกังวลว่าการพิจารณากฎหมายลูกที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง อาจทำให้การเลือกตั้งล่าช้าออกไปนั้น คนที่จะตอบได้คือคนที่ปฏิบัติ ซึ่งทั้งสนช. และคสช.ต้องเป็นผู้ตอบ เพียงแต่ที่ผ่านมา พล.อ. ประยุทธ์ ให้สัญญาไว้กับในประเทศและต่างประเทศถึงเงื่อนเวลาของโรดแม็ป ตนจึงคิดว่าจนถึงวันนี้ยังไม่ถึงกับเห็นสัญญาณอะไรที่จะแตกต่างไปจากที่กำนดไว้ในโรดแม็ป
เมื่อถามว่าหากมีการประกาศใช้พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง คสช.ควรเปิดโอกาส ให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องการทำกิจกรรมพรรค การเมืองเรียกร้องมานานแล้ว แต่ดูเหมือน คสช.ยังดูท่าทีอยู่ จึงต้องถามคสช.ว่าเงื่อนเวลาที่จะปลดล็อกให้ทำกิจกรรมได้เมื่อใด เรื่องนี้ไม่ขอเรียกร้องแล้ว แต่คิดว่าความเหมาะสม ความพอดีอยู่ตรงไหนคสช.น่าจะประเมินได้ และในฐานะพรรคการเมือง จะต้องเตรียมตัวจะเป็นทางการหรือไม่เป็นทางการก็ต้องเตรียม ตัวอยู่ตลอดเวลา
เมื่อถามย้ำว่า หากมีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นทำให้พรรคประชาธิปัตย์สั่นคลอนหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ทุกยุคสมัยก็มีพรรคใหม่เกิดขึ้น ส่วนพรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวยืนมาตลอดและเผชิญสถานการณ์เช่นนี้มาหลายครั้ง
รธน.เอื้อผู้นำคสช.นั่งนายกฯ
นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความไม่ชัดเจนว่าการเลือกตั้งและหลังเลือกตั้งแล้วนายอภิสิทธิ์จะจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับทหารหรือไม่ ยังไม่ทราบ เพราะนายอภิสิทธิ์ระบุว่าต้องรอฟังเสียงประชาชนก่อน ถ้าฟังเสียงประชาชนจริง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะร่วมกับทหารตั้งรัฐบาล เนื่องจากประชาชนย่อมไม่สนับสนุนให้คนนอกหรือผู้นำคสช. เข้ามาเป็นนายกฯ และในการเลือกตั้งก็ไม่มีช่องทางให้ประชาชนได้เลือกว่าจะเอาคนนอกหรือหัวหน้า คสช.นายกฯ แม้รัฐธรรมนูญจะเปิดช่องให้มีนายกฯ จากคนนอกได้ แต่ถ้าใครอ้างว่าต้องการฟังเสียงประชาชน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะร่วมกับทหารตั้งรัฐบาล
นายจาตุรนต์กล่าวว่า การคุมอำนาจของ คสช. จะยังอยู่จนกว่ามีรัฐบาลใหม่ และเมื่อมีรัฐบาลใหม่แล้ว คสช.ก็จะคุมโดยการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปที่รัฐ ธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ไม่ได้กำหนดไว้ตายตัวว่า จะต้องมีและนายกฯ จากคนนอก หรือให้ผู้นำคสช. มาเป็นนายกฯ คนต่อไป แต่เจตนาของการเขียนกติกากลับจงใจให้เป็นเช่นนั้น คือได้นายกฯ คนนอกหรือผู้นำ คสช.เข้ามาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ส่วนพรรคเพื่อไทยยืนยันมาโดยตลอดว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับผู้ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เพราะประชาชนที่ต้องการประชาธิปไตย ย่อมไม่สนับสนุนให้พรรคการเมืองอยากได้คนนอกเข้ามาเป็นนายกฯ
รบ.ย้ำทุกอย่างลงตัวเลือกตั้งปี 61
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข้อเสนอให้ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ว่า รัฐบาลไม่ได้เป็นต้นทางการเสนอแนวคิดนี้ และไม่เคยได้ยินพล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงเรื่องดังกล่าว แต่เริ่มจากฝ่ายการเมืองและเป็นเรื่องที่กลุ่มการเมืองออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันเองจนเป็นประเด็น รัฐบาลยังจะบริหารบ้านเมืองตามโรดแม็ปที่วางไว้ทำให้ประเทศมีความสงบสุข มีเสถียร ภาพและเมื่อทุกอย่างลงตัวแล้ว กระบวนการด้านกฎหมายมีความพร้อม ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือก็จะมีการเลือกตั้งในปีหน้า ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลยืนยันได้คือเมื่อบ้านเมืองมีความพร้อมอย่างไรก็ต้องมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น
พท.ชี้เจตนาลากยาว
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพล.อ.ประยุทธ์ ระบุหากทุกอย่างลงตัวจะมีการเลือกตั้งในปี 2561 ว่า อย่าถามว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อกี่เปอร์ เซ็นต์ เพราะที่ผ่านมาความรู้สึกของฝ่ายการ เมืองที่ได้รับคือความไม่ชัดเจนและไม่แน่ นอน พล.อ.ประยุทธ์ พูดมาตลอด 3 ปีว่าการจะเลือกตั้งจะเป็นไปตามโรดแม็ป แต่เมื่อถึงเวลาก็จะต้องมีอันเลื่อนเลือกตั้งตลอดเวลาอยู่เช่นกัน หากพล.อ.ประยุทธ์ ตั้งใจที่จะให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้นในปี 2561 จริงก็สนับสนุนเพราะเป็นเรื่องที่ดี เลือกช้ายิ่งไม่เป็นผลดีกับประเทศชาติ รวมถึงเรื่องเศรษฐกิจ
นายภูมิธรรมกล่าวว่า การทำให้ได้ตามโรดแม็ปไม่ได้มีอะไรที่ยากลำบาก และที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.หรือนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.บอกว่าต้องดูอะไรอีกหลายอย่างนั้น ก็ไม่รู้ว่าสาเหตุจริงๆ เพราะต้องการจะลากให้การดำรงอยู่ในอำนาจยาวต่อไปหรือไม่ เรื่องการจะเขียนกติกาที่เป็นประโยชน์ถ้าชัดเจนเป้าหมายทำได้ทั้งนั้น ถ้าทำไม่ได้ก็เปิดโอกาสให้สถาบันทางวิชาการ ผู้มีความรู้ในวิชาชีพต่างๆ ส่งเข้ามาร่าง เชื่อว่า เขาร่างไม่กี่เดือนก็จบ และให้ประชาชนมีส่วนรวม อย่าดึงหรือยืดเวลาต่อไปเลยมันไม่เป็นประโยชน์
ไม่รักษาคำพูดระวังเสียคน
นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรมว.ยุติธรรม และแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพล.อ.ประยุทธ์กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ว่าหากทุกอย่างลงตัวจะมีการเลือกตั้งในปี 2561 ว่า เมื่อวางโรดแม็ป ไว้และยืนยันมาหลายครั้งว่าการเลือกตั้งก็ต้องเกิดในปี 2561 ก็ควรเป็นไปตามนั้น หากไม่เป็นไปตามโรดแมปก็เสียคน โดยเฉพาะ นายกฯ ที่เป็นทหารระดับสูง ถ้าพูดแล้วไม่รักษาคำพูดก็จะเสียคน ตนเชื่อไว้ก่อนว่าจะมีการเลือกตั้งปี 2561 ส่วนจะจริงไม่จริงอย่างไร จะเสียคนหรือไม่ก็ต้องดูกันต่อไป ส่วนแนวคิด ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ให้ทุกพรรคมาร่วมกัน โดยมีพรรคทหารด้วยนั้น ตนรับไม่ได้ เพราะเผด็จการกับประชาธิปไตยไปด้วยกันไม่ได้ ถ้ารวมคงไม่ให้ฝ่ายประชาธิปไตยขึ้นมาเป็นเสียงข้างมากหรือผู้คุม ก็จะกลายเป็นรัฐบาลแห่งชาติภายใต้การปกครองของทหาร ซึ่งไม่แตกต่างกับรัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติ
ชี้ยืดเวลาเพราะกลัวเพื่อไทย
นายอำนวย คลังผา อดีตส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข้อสังเกตต่อข้อเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติ พรรคประชาธิปัตย์อาจจับมือทหารจัดตั้งรัฐบาล ว่า ขึ้นอยู่ที่การตัดสินใจของประชาชน เวลานี้ตอบไม่ได้ว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติหรือไม่ แต่ละพรรคการ เมืองจะยืนอยู่ในจุดที่ตัวเองเห็นว่าสมควร ต้องรอให้มีการเลือกตั้งจึงจะได้คำตอบ จึงอยากขอร้อง คสช.ให้ช่วยเปิดทางพรรคได้ทำกิจกรรม
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวถึงความไม่ชัดเจนของกำหนดวันเลือกตั้ง ว่า ตนมองได้ว่าเหมือนเป็นการประวิงเวลาเพื่อครองอำนาจการบริหารงานไปเรื่อยๆ ต่างจากในอดีตที่ผ่านมาที่กำหนดวันเวลาให้ชัดเจนเพื่อเตรียมพร้อมจัดการเลือกตั้ง จึงทำให้มองได้ว่าปัจจัยที่ยังไม่กำหนดช่วงเวลาให้ชัดเพราะฝ่ายผู้มีอำนาจยังเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยยังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ และตราบใดที่เศรษฐกิจ ไม่ดีก็ยังจะเลือกพรรคเพื่อไทย เพราะคิดว่าฝากความหวังในเรื่องเศรษฐกิจได้
ปชป.หวั่นข้ออ้างไม่เลือกตั้ง
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า กรณีนายกฯ พูดเรื่องอาจเลือกตั้งในปี 2561 หากกระบวนการปรองดองทุกอย่างลงตัวนั้น ตนว่าต่อไปอาจมีการอ้างว่าสถานการณ์ยังไม่ปรองดองเลยไม่เลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม แนวความคิดรัฐบาลแห่งชาติคือความคิดที่ได้ภาพเสมือนว่าจับมือกันปรองดอง แต่เนื้อแท้คือฟื้นระบอบทักษิณ ข้าราชการ เสื้อแดงส่วนหนึ่งยังฝังตัวอยู่ในระบบ เมื่อได้น้ำเลี้ยงที่ดีจะแพร่เชื้อเพิ่ม ดูแนวโน้มท่าทีแล้วตั้งแต่เรื่องการชุมนุมจนมีการสูญเสียจำนวน 99 ศพ ที่พยายามปั่นเรื่อง ที่ศาลพิพากษาแล้วให้กลับมาว่ากันใหม่ ทั้งที่คนเห็นกันทั้งโลกว่าฝ่ายผู้ชุมนุมมีอาวุธ ทำร้าย เข่นฆ่าเจ้าหน้าที่ เผาบ้านเผาเมือง ตั้งป้อมค่ายเหมือนรบในใจกลางเมืองหลวง รวมถึงเรื่องการดำเนินคดีกับลูกชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็ออกมาค้านเสมือนว่าเป็นบุคคลที่แตะต้องไม่ได้ เรื่องการปรองดองหรือรัฐบาล แห่งชาติ คสช.ต้องดูผลสำเร็จ หรือได้ภาพอย่างเดียว หรือเสียหายมากมายมหาศาล รัฐบาลนี้จึงต้องมีหน้าที่ทำความชี้แจงประชาชน ที่ยังไม่เข้าใจแท้จริงให้เข้าใจ เพราะในภาคเหนือ ภาคอีสาน ยังมีการปั้นเรื่องให้ร้ายรัฐบาลอยู่ไม่น้อย
ทนายยื่นบี้ดีเอสไอ-ปมกรุงไทย
นายวันชัย บุนนาค ทนายความอิสระ ซึ่งติดตามคดีทางการเงินที่สร้างความเสียหายต่อชาติมาหลายคดี ให้สัมภาษณ์ระบุว่า ในวันที่ 18 ก.ย. จะเข้ายื่นหนังสือต่อดีเอสไอให้ตรวจสอบข้อสังเกตเกี่ยวกับคดีฟอกเงินของธนาคารกรุงไทย ถึงความผิดปกติและเป็นเรื่องแปลก เนื่องจากมติกรรมการคดีพิเศษ รับคดีที่ คตส.ส่งมาให้ดำเนินคดีฟอกเงิน 3,554,870,000 บาท กับผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นผู้อนุมัติสินเชื่อ แต่ดีเอสไอไม่ได้เรียกทั้งหมดมาสอบสวน ทั้งที่ควรเรียกมา สอบสวนก่อน ส่วนจะสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้องนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เบื้องต้นต้องสอบสวนก่อน
นายวันชัยกล่าวว่า โดยทั้ง 5 คนที่ร่วมลงนามอนุมัติสินเชื่อจากการติดตามตรวจสอบ ประกอบด้วย ร.ท.สุชาย เชาว์วิศิษฐ นายวิโรจน์ นวลแข นายมัชฌิมา กุญชร ณ อยุธยา นายชัยณรงค์ อินทรมีทรัพย์ และนายอุตตม สาวนายน ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม โดย 3 คนแรก ศาลสั่งจำคุกในคดีปล่อยกู้เครือกฤษดามหานคร จะได้ตัวมาหรือไม่ได้ตัวมาสอบสวนแต่ก็ต้องเรียกมา สอบตามขั้นตอน ตาม ป.วิอาญา ม.131 และ ม.141 อย่างนี้เท่ากับดีเอสไอทำผิดมาตรา 157 หรือไม่ และนอกจากไม่สอบสวนให้ครบถ้วนตามขั้นตอนยังไปดำเนินคดีกับคนไม่กี่คนในกลุ่มของนายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ไม่ได้รับเงินโดยตรงจากเครือกฤษดา โดยพาดพิงว่าเป็นการรับเงินปากถุง ทั้งที่ช่วงเวลาไม่ตรงกัน
จี้ปปง.เรียกเงินคืนจากธ.กรุงเทพ
นายวันชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ตามกฎหมายฟอกเงิน ปปง.สามารถติดตามเอาทรัพย์สินจากผู้กระทำความผิดได้ ตามมาตรา 49 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 ปปง.สามารถบังคับติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำ ความผิดคืนแก่ธนาคารกรุงไทยได้ เบื้องต้นเห็นว่านิติบุคคลที่ต้องถูกบังคับให้เอาเงินคืนธนาคารกรุงไทย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ที่ศาลฎีกาตัดสินว่าเงินจากธนาคารกรุงไทยที่โอนไปเป็นเงินจากการทุจริต คือ เงินที่ธนาคารกรุงเทพได้รับไว้จากการกระทำความผิด ซึ่งเป็นไปตามคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขแดงที่ อม.55/2558 วันที่ 26 ส.ค. 2558 ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพต้องนำเงินคืนธนาคารกรุงไทย เป็นอันดับแรก คือ เงินที่ธนาคารกรุงไทยโอนเข้าธนาคารกรุงเทพ รวมเป็นเงินประมาณ 9,900 ล้านบาท ซึ่งปปง.ต้องทำประเด็นนี้ก่อน ก่อนที่จะไปตามจากบุคคลอื่นๆ ที่ไปรับเงินโอนจากกลุ่มกฤษดา มหานครหลังจากวันที่ 18 ธ.ค.2546
นายวันชัยกล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบว่า ตามคำพิพากษาของศาลฎีกานั้นวินิจฉัยไว้ทำนองว่า ไม่มีพยานปากไหนหรือพยานใดๆ ยืนยันให้เห็นว่า อดีตนายกฯทักษิณเกี่ยวข้องกับการสั่งการหรือการอนุมัติสินชื่อธนาคารกรุงไทย
ทนายแจงยื่นอัยการ-ส่งต่อสำนวน
นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความกลุ่มผู้เสียหายในเหตุการณ์สลายการชุมนุม ปี 2553 ให้สัมภาษณ์กรณีอัยการระบุว่าไม่มีอำนาจส่งเรื่องการไต่สวนความผิดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จากการสลายการชุมนุม ให้ป.ป.ช.ได้ ว่า เรื่องที่ทางผู้เสียหายจะไปยื่นต่ออัยการเป็นเรื่องขอความเป็นธรรม เนื่อง จากสำนวนคดีในข้อหาฆ่าคนตายอยู่ที่อัยการ จึงขอให้ส่งไปยังป.ป.ช. เพื่อไต่สวนตามที่ศาลฎีกาได้วินิจฉัยแล้ว ขอให้ช่วยดำเนินการ ฉะนั้นการไปยื่นอะไรที่ให้ความเป็นธรรมกับประชาชนเราก็ทำ ไม่ได้ผิดอะไร
นายโชคชัยกล่าวว่า ตามคำพิพากษาศาลฎีกาพูดถึงการกระทำ การออกคำสั่งดำเนินการ อันเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่อยู่ในอำนาจป.ป.ช. ก็ให้ป.ป.ช.ดำเนินการ ซึ่งรวมความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย ทางกลุ่มผู้เสียหายขอให้ส่งสำนวนที่อัยการเขียนให้ป.ป.ช.โดยอาศัยคำพิพากษาศาลฎีกาที่วินิจฉัยไว้ มีผลผูกพันทุกองค์กร เมื่ออัยการฟ้องมาผิดศาลก็ต้องส่งไปที่ป.ป.ช. เราไปตามช่องทางกฎหมาย นปช.ก็ทำหน้าที่ทวงถามความเป็นธรรมให้ผู้เสีย ชีวิต ซึ่งคาดว่ากลุ่มผู้เสียหายจะไปยื่นหนังสือต่ออัยการช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 18 ก.ย.นี้ ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้ง วัฒนะ
ชี้เป็นหลักฐานใหม่ให้ป.ป.ช.
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. กล่าวว่า การที่นปช.จะยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุดในวันที่ 18 ก.ย. เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ไม่ใช่การเรียกร้องให้อัยการ สั่งป.ป.ช.ให้ดำเนินการไต่สวน แต่เป็นการขอความเป็นธรรมว่าเมื่ออัยการสูงสุดสั่งฟ้องจำเลยทั้ง 2 คนฐานฆ่าคนตายไว้แล้ว และคำพิพากษาศาลฎีกาไม่ได้ยกฟ้อง แต่ให้เป็นอำนาจศาลฎีกาแผนกผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นผู้พิจารณาคดีดังกล่าว อัยการก็ควรส่งเรื่องให้ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการต่อไป เพราะถือเป็นพยานหลักฐานใหม่หรือไม่ หากอัยการสูงสุดเห็นว่าไม่ต้องดำเนินการจะเก็บสำนวนฟ้องเอาไว้เองก็ขอให้ตอบเป็นลายลักษณ์อักษร จะได้ปรากฏเป็นหลักฐาน
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ในคำพิพากษาศาลฎีกาชี้ข้อเท็จจริงเป็นยุติว่าคนตายเพราะเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธและกระสุนจริง ไม่ใช่ชี้ขาดว่าคนสั่งไม่มีความผิด ดังนั้นสิ่งที่ตนพยายามทำคือให้คดีไปถึงศาล ถูกผิดก็สู้กันตามกระบวนการ ปกติมีเหตุฆ่ากันตายแม้แต่รายเดียวหน่วยงานต่างๆ ต้องกระตือรือร้นทำคดี
ญาติเหยื่อ”พับถุงกล้วยแขก”
เวลา 16.00 น. ที่บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดาของน.ส.กมลเกด อัคฮาด หรือน้องเกด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิต นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ พ่อน้องเฌอ พร้อมกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเสื้อแดงปี 2553 จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “พับถุงกล้วยแขก”
นางพะเยาว์กล่าวว่า จัดกิจกรรมครั้งนี้เพื่อสื่อให้สังคมรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต โดยปกติถุงกล้วยแขกจะไม่มีค่าอะไร แต่ถุงที่พับขึ้นในกิจกรรมครั้งนี้ เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2553 ที่มีการสลายการชุมนุม เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก เราต้องการสื่อว่าเกิดอะไรขึ้นในอดีต โดยต้องมีคนรับผิดชอบ สำหรับแนวทางการต่อสู้คดีตนและญาติผู้เสียชีวิตสู้มาตลอด 7 ปี วันนี้เราได้ศึกษาข้อมูลทางกฎหมาย พร้อมปรึกษาทนายถึงแนวทางการต่อสู้คดี แม้จะไม่มีอำนาจแต่เรามีความจริงที่ต้องการนำตัวคนผิดมาลงโทษ ใครที่เป็นคนสั่งฆ่าและคนลั่นไกต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่จะเอาผิดแค่ผู้สั่งการแต่ต้องเอาผิดผู้ปฏิบัติด้วย และไม่ใช่ปล่อยให้คนผิดลอยนวล เรื่องนี้ นปช.จะดำเนินการอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา ส่วนเราก็จะดำเนินการไปในส่วนของเรา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดกิจกรรมมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่ทหาร มาดูแลความเรียบร้อย ก่อนเริ่มกิจกรรม เจ้าหน้าที่ทหารเข้าเจรจาและอธิบายว่าการชุมนุมตามพ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ ต้องชุมนุมไม่เกิน 5 คน หากยืนยันว่าจะมีการเคลื่อนไหวจะยึดหลักการเจรจา จะไม่มีการใช้ความรุนแรง หรือใช้กำลังจากเจ้าหน้าที่ แต่จะบันทึกภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นหลักฐาน
ธิดาฮึ่ม-เปิดเวทีวิชาการกดดัน
นางธิดา โตจิราการ ประธานที่ปรึกษานปช. กล่าวว่า นปช.จะนำผู้เสียหายไปยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด เพื่อให้ส่งเรื่องไปยังป.ป.ช.ไต่สวนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 18 ก.ย.นี้ โดยจะทำควบคู่กันไปกับการนำผู้เสียหายไปร้องต่อป.ป.ช.โดยตรง ซึ่งคาดจะเป็นในวันที่ 22 ก.ย.นี้ หากยื่นแล้วอสส.เห็นว่าผิดขั้นตอน อสส.ต้องแถลงให้รับทราบอย่างเป็นทางการ เนื่องจากนปช.คงไม่ยุติความตั้งใจเรื่องนี้ ขณะเดียวกัน ฝ่ายกฎหมายที่ให้ความเห็นแก่นปช.ก็เห็นว่าอสส.มีคำสั่งฟ้องอยู่แล้ว จึงสามารถส่งเรื่องผ่านป.ป.ช.ได้ และนปช.จะติดตามว่า อสส.จะเดินหน้าในสำนวนสั่งฟ้องหรือไม่ หากไม่ได้รับการตอบรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นปช.จะเดินหน้ามาตรการทางกฎหมายอื่นๆ และมาตรการทางสังคม โดยสนับสนุนให้เปิดเวทีทางวิชาการเพื่อถกเถียงกันถึงประเด็นดังกล่าวในวงกว้าง
นปช.ไล่ปชป.อ่านคำพิพากษา99ศพ
นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.กล่าวถึงการฟ้องใหม่คดีสลายการชุมนุมกลุ่มนปช. ปี 2553 ว่า ตนเกิดข้อสงสัยว่านายวิรัตน์ กัลยาศิริ กำลังยกระดับสำนักงานป.ป.ช.ให้เป็นศาล และต้องการให้คดีร้อยศพจบไปโดยไม่มีโอกาสให้ศาลพิจารณาพิพากษาใช่หรือไม่ เพราะที่นายวิรัตน์ ระบุกรณีดังกล่าวโดยอ้างศาลอาญายืนยันว่าไม่เป็นความผิด เนื่องจากเป็นการปกป้องรักษาบ้านเมืองและกองกำลังผู้ชุมนุมมีอาวุธ เหตุเกิดเพราะผู้ชุมนุมใช้ปืนยิง มีดแทง ไม่ใช้ไม้ตีเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ต้องป้องกันตัว ซึ่งศาลพิพากษาครบถ้วนแล้ว อีกท่อนหนึ่งที่ระบุศาลบอกแล้วว่าใครมีอาวุธ ก็ต้องว่ากันเป็นรายบุคคล และพยานที่มีต้องไม่เป็นการตัดต่อเสริมแต่งพยานหลักฐานซึ่งเคยเกิดมาแล้วหลายกรณี จึงขอให้นายวิรัตน์นำหลักฐานมายืนยันต่อสาธารณชนว่าสิ่งที่นำมาอ้างอิงเป็นคำพิพากษาศาลในคดีดำ คดีแดง เลขที่เท่าไร ลงวันที่อะไร เพราะเท่าที่ตรวจสอบ ไม่พบว่าศาลเคยพิพากษาอย่างที่นายวิรัตน์อ้างถึง แต่เป็นตรงเนื้อหาที่นายสรรเสริญ พลเจียก อดีตเลขาฯ ป.ป.ช.แถลงข่าวเมื่อ 29 ธ.ค.2558
นพ.เหวงกล่าวว่า การอ้างของนายวิรัตน์กำลังเปลี่ยนสถานภาพของป.ป.ช.ให้เป็นศาล และการอ้างว่าเป็นคำพิพากษาศาลโดยไม่เป็นความจริงนั้นจะมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ นายวิรัตน์ควรศึกษาคำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 4288-4289/2560 ลงวันที่ 26 มิ.ย.2560 จะทราบว่ามีเนื้อความบางตอนสรุปว่าการตายและการบาดเจ็บของประชาชนระหว่างวันที่ 7 เม.ย2553 และวันที่ 19 พ.ค.2553 เกิดจากการปฏิบัติการทางทหารในการผลักดันผู้ชุมนุม สลายการชุมนุม กระชับพื้นที่หรือขอคืนพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธปืนจริง มีคำสั่งอนุมัติไว้ในท้ายหนังสือให้เจ้าหน้าที่ของ ศอฉ. สามารถใช้อาวุธปืนและกระสุนปืนจริง ตลอดจนให้ใช้พลแม่นปืนในการปฏิบัติหน้าที่ได้
ชี้พิจารณาโดยมีอคติ
นพ.เหวงกล่าวว่า นี่เป็นเนื้อความสำคัญตอนหนึ่งในคำพิพากษาศาลฎีกาดังกล่าว ส่วนประเด็นที่ศาลฎีกาพิพากษานั้นเป็นประเด็นเรื่องเขตอำนาจศาล ที่ต้องไปยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทาง การเมือง ซึ่งต้องดำเนินการผ่านป.ป.ช. ไม่มีตรงไหนที่ศาลฎีกาพิพากษาว่า ยืนยันว่าไม่เป็นความผิด และไม่มีตรงไหนที่สามารถสรุปได้ว่าคดีจบไปแล้ว
“สงสารนายวิรัตน์ นักกฎหมายใหญ่ที่ทำ ความผิดพลาดเช่นนี้ ทั้งที่หากตรวจสอบเพียงเล็กน้อยก็จะไม่ผิด อาจเป็นเพราะอคติที่ท่วมท้น หัวใจของนายวิรัตน์หรือไม่ ทำให้บดบังสติปัญญาไว้เสียมืดมิด” นพ.เหวงกล่าวและว่า สิ่งที่ นปช.กำลังดำเนินการและตั้งใจมุ่งมั่น ที่จะทำให้ถึงที่สุดก็คือ ต้องการให้ความตายร้อยศพได้รับการพิจารณาพิพากษาจากศาล เพื่อคืนความยุติธรรมให้กับคนตาย และคืนความยุติธรรมให้กับประเทศไทย โดยใช้กระบวนการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่นักกฎหมายใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์จะเข้าใจหรือไม่
ปลุกผี”อ้วน บัวใหญ่”ทวงยุติธรรม
นายสมโภชน์ ประสาทไทย อดีตผู้ประสาน งานกลุ่มคนเสื้อแดงโคราช เผยถึงการรื้อฟื้นคดี 99 ศพ ส่อถึงทางตัน ว่า สถานการณ์ ที่เกิดขึ้นในห้วงเวลากว่า 10 ปี โดยเฉพาะเหตุการณ์ความรุนแรง ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐได้กระทำ เกินกว่าเหตุแต่บทสรุปสุดท้ายกลายเป็นสองมาตรฐาน รวมทั้งกรณี อ้วน บัวใหญ่ หรือนาย ศักนรินทร์ กองแก้ว อายุ 24 ปี แกนนำคนเสื้อแดง อ.บัวใหญ่ เหยื่อที่ถูกลอบสังหารเมื่อปี”53 เวลาผ่านมากว่า 7 ปี คดีก็ไม่มีความคืบหน้า พี่น้องเสื้อแดงรวมทั้งชาวโคราชที่รักความเป็นธรรมต่างทราบความจริง ใครออกคำสั่งให้ใช้กระสุนจริงและเป็นคนยิง “อ้วน บัวใหญ่” แต่กฎหมายไม่สามารถจัดการลงโทษ ได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังออกมาให้ข่าวไม่มีอำนาจและให้ไปหาพยานหลักฐานใหม่ ก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครมาช่วย ดังนั้น การขับเคลื่อนแนวทางปรองดองก็เดินหน้าลำบาก
กห.โต้”ป้อม”พบ”แม้ว”มโนไปเอง
วันที่ 16 ก.ย. พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการตั้งข้อ สังเกต การเดินทางไปอังกฤษของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม เป็นช่วงเวลาที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อยู่อังกฤษแล้วจะพบปะหารือกันหรือไม่ ว่า คิดว่าเป็นเรื่องที่มโนกันเอง ขอยืนยันว่าการที่พล.อ.ประวิตรเดินทางไปอังกฤษเป็นการไปปฏิบัติราชการ เพื่อไปพบรมว.กลาโหม และรมช.ต่างประเทศ สหราชอาณาจักร ที่เดินทางเป็นคณะใหญ่ ขณะเดียวกันอยากถามว่า 1.หากนายทักษิณเดินทางไปอังกฤษจะไปถึงวันใด เวลาใด คิดว่าน่าจะไปถึงหลังพล.อ.ประวิตรเดินทางกลับไทยแล้วด้วยซ้ำ ฉะนั้นเวลาก็ไม่ตรงกัน จึงไม่ได้เลยที่จะไปพบนายทักษิณ และ2.ไม่มีเหตุผลและความจำเป็นที่จะไปพบนายทักษิณว่าจะพูดคุยเรื่องอะไร ประกอบกับพล.อ.ประวิตรได้ยืนยันชัดเจนแล้วไม่เคยพบปะพูดคุยกับนายทักษิณกันมาก่อน ดังนั้นขอย้ำว่าพล.อ.ประวิตรไม่มีเหตุผล ความจำเป็นที่จะต้องพบนายทักษิณ
“เรื่องนี้มันมีข่าวมาก่อนตั้งแต่พล.อ.ประวิตรจะเดินทางไปอังกฤษแล้ว พอกลับทางไทย ก็มีคนที่เผยแพร่เรื่องพวกนี้เพื่ออยากเป็นข่าว เพราะพล.อ.ประวิตรเดินทางไปอังกฤษช่วงนั้นพอดี ซึ่งใครจะคิดก็คิดได้ คิดกันไป มโนกันไป แต่ย้ำว่าไม่มีเหตุและความจำเป็นจะไปพบนายทักษิณ” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังพล.อ.ประวิตร ซึ่งตอบสั้นๆ ว่า ตนเพิ่งกลับมาจากอังกฤษ จากนั้น ตัดสายโทรศัพท์ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงดังกล่าวนายทักษิณอยู่ที่กรุงลอนดอน ซึ่งน.ส.แพทองธาร ชินวัตร และน.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ กับสามี และลูกสาวฝาแฝดและลูกชายคนเล็ก ได้เดินทางไปเยี่ยม และมีการเผยแพร่รูปภาพทางอินสตาแกรมส่วนตัว
