เล่านาที “ม็อบราษฎร” ปะทะเกียกกาย ถูกกระสุนจริง โดนลวงเข้าซอยเปลี่ยว กระหน่ำยิงไม่ยั้ง น้อยใจทหาร ยืนอยู่หลังแนวรั้วหนาม ไม่เปิดช่องทาง ให้ลำเลียงคนเจ็บไปหลบ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 23 พ.ย. ที่ พรรคเพื่อไทย นพ.ทศพร เสรีรักษ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย พาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้น้ำผสมสารเคมียิงใส่ประชาชน และมีกลุ่มผู้ชุมนุมถูกยิง ที่บริเวณแยกเกียกกายและหน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา โดย นพ.ทศพร กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่โดนฉีดน้ำ 2.กลุ่มที่หายใจเอาสารเคมีเข้าไป และ 3.กลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
ช่วงหนึ่ง นายเกวลัง ธัญญเจริญ หนึ่งในผู้ที่ถูกยิงตรงแยกเกียกกาย กล่าวว่า กล่าวว่า ตนเป็นคนนึงที่ถูกยิง ด้านหน้าขาซ้าย โดนกล้ามเนื้อช่วงบนหัวเข่า ซึ่งได้รับการรักษาแล้วออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว โดยหัวกระสุนที่แพทย์ผ่าออกมา มันค่อยข้างสมบูรณ์ เลยทำให้เราทราบว่าเป็นกระสุนขนาดเท่าไหร่ แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะกลัวว่าจะกระทบต่อรูปคดี
โดยเหตุการณ์ เกิดขึ้นช่วงสองทุ่มที่มีการเปิดฉากยิง มีการเขวี้ยงระเบิดเข้ามาทางแยกเกียกกาย แล้วเปิดฉากยิงเป็นระยะ ซี่งมวลชนทีมการ์ดได้ผลักดันให้ฝ่ายตรงข้ามออกไป แต่ถูกยั่วยุ แล้วเดินเข้าไปในกลางซอยที่มืด จากนั้นก็ถูกยิงเข้ามาหลายทิศทาง
เราก็ไม่สามารถเดาได้มามาจากทิศทางไหน ซึ่งลักษณะวิถีการยิง เป็นการยิงต่ำ ไม่ใช่การยิงสูง จากการสอบถามคนที่ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน ไม่มีใครถูกยิงเลยช่วงราวนมขึ้นมาเลย จึงคาดว่า ผู้ก่อเหตุยิงไม่หวังให้ถึงชีวิต
ในตอนนั้น ตนจะเข้าไปช่วยใครไม่ได้เลย เพราะโดนยิงซ้ำตลอด แต่ตอนนั้นที่เราเห็น เราก็พยายามจะเข้าไปช่วยทุกคน ซึ่งมีสิ่งหนึ่งที่เราน้อยใจ คือ ทหารที่รักษาการอยู่หน้าประตู ยืนอยู่หลังแนวรั้วหนาม ไม่เปิดช่องทาง ให้ลำเลียงคนเจ็บไปหลบ แต่กลับยืนดูประชาชนโดนยิงอย่างไม่แยแส
ซึ่งตนค่อนข้างหวังได้น้อยมากว่าคนก่อเหตุจะได้รับโทษ ดูจากมาตราฐานที่เขาดูแล มันแบ่งแยกอย่างชัดเจน มีความหวังน้อยที่รัฐบาลจะสนใจ แต่ถึงอย่างนั้น หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ มันเหมือนเป็นผลกระตุ้นให้มวลชนออกมามากขึ้น และรู้จักกับการรับมือมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ให้เข้ามาระงับเหตุหน่อย แต่ว่าเจ้าหน้าที่ทำงาน สน.ในพื้นที่ เปิดช่องโหว่ให้เราถูกทำร้ายมากขึ้น ตำรวจพื้นที่ ควรมีการรับมือที่ดีกว่านี้ หรือระงับเหตุที่ดีกว่านี้ ที่ผ่านมามีแต่ เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนที่อยู่ในพื้นที่เท่านั้น
