“บิ๊กตู่”สุดปลื้ม หุ้นกระเด้งคึกคัก ชี้เหตุจากนักลงทุนเชื่อมั่นรัฐบาล ทำบ้านเมืองสงบ-วางรากฐานประเทศแข็งแกร่ง ไม่ใช่แค่ประกาศเลือกตั้งพ.ย.61 อดีตส.ว.เตือนถ้าเลื่อนอีกนายกฯเสียเอง-เกิดวิกฤตศรัทธาแน่ งานรำลึก 44 ปี 14 ตุลา “ออมสิน”สดุดีวีรชนที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ญาติซึ้งใจนายกฯอนุมัติเงินเยียวยาเดือนละ 3 พันได้ครั้งแรกต.ค.นี้ “หมอเลี้ยบ”ขึ้นเวทีเสวนามรดกคนเดือนตุลา ปลุกคนรุ่นใหม่ยึดหลักประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ

“บิ๊กตู่”ชี้หุ้นพุ่ง-นักลงทุนเชื่อมั่นรบ.

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุถึงกรณีที่ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นหลังจากที่เตรียมประกาศวันเลือกตั้งในเดือน มิ.ย.2561 พร้อมจัดให้มีการเลือกตั้งในเดือน พ.ย.2561 ว่า ไม่อยากให้มองว่าการเลือกตั้งเป็นปัจจัยเดียวที่ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัว เพราะที่ผ่านมานักลงทุนไทยและต่างประเทศต่างมีความเชื่อมั่นในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล ทั้งการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและการออกนโยบายปฏิรูปประเทศหลายด้าน ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานและสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศในระยะยาว รวมถึงตลาดหุ้นด้วย

“นายกฯ ยินดีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)สามารถพัฒนาการบริหารจัดการจนเป็นที่ยอมรับในระดับโลก โดยก้าวขึ้นเป็น 1 ใน 10 ของตลาดหลักทรัพย์ ที่มีความยั่งยืนจากทั่วโลก และเป็นตลาดหลัก ทรัพย์ของเอเชียรายเดียวที่ติดใน 10 อันดับแรก จากรายงานการวิจัย Measuring Sustainability Disclosure 2017 โดย Corporate Knights และ AVIVA โดยนับเป็นความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดจากเมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ที่ถูกจัดอันดับอยู่ที่ 40” พล.ท.สรรเสริญกล่าว

ตลท.เชื่อมโยงประชาชนทุกอาชีพ

พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า นายกฯได้รับรายงานว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้รับความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนร่วมขับเคลื่อนไปสู่ความยั่งยืน โดยส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนเปิดเผยข้อมูลและรับผิดชอบต่อสังคมในทุกมิติ ซึ่งเป็น ตามมาตรฐานสากล เช่น อัตราการลาออก ของพนักงาน การใช้พลังงาน การใช้น้ำ การจัดการของเสีย การจัดการก๊าซเรือนกระจก อัตราการบาดเจ็บจากการทำงาน และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน

ทั้งนี้ นายกฯ ไม่อยากให้มองว่า ตลาดหุ้นเป็นเรื่องเฉพาะของคนที่มีฐานะเท่านั้น เพราะการประกอบธุรกิจของบริษัทจดทะเบียน ในตลาดทุนทั้งหลายมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับประชาชนหลายสาขาอาชีพ ตั้งแต่ ผู้ประกอบการทุกระดับไปจนถึงเกษตรกรจำนวนมากที่อยู่ในห่วงโซ่นี้ และนอกจากจะเป็นแหล่งระดมทุนของผู้ประกอบกิจการแล้ว ยังเป็นช่องทางการออมและสร้างดอกผลจากการลงทุนของประชาชนทุกคนได้อีกด้วย

สำหรับ 10 อันดับแรกของตลาดหลักทรัพย์ที่มีความยั่งยืนของโลก ได้แก่ 1. ตลาดหลัก ทรัพย์เฮลซิงกิ ฟินแลนด์ 2. ตลาดหลักทรัพย์สตอกโฮล์ม สวีเดน 3. ตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซ์-ปารีส ฝรั่งเศส 4. ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน อังกฤษ 5. ตลาดหลักทรัพย์ออสโล นอร์เวย์ 6. ตลาดหลักทรัพย์ยูโรเน็กซ์-อัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ 7. ตลาดหลักทรัพย์ออสเตรเลีย 8. ตลาดหลักทรัพย์โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก 9. ตลาดหลักทรัพย์ฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ และ 10. ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

“ดิเรก”เตือนยื้ออีก-วิกฤตศรัทธา

นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวว่า เห็นด้วยที่พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศว่าจะเปิดให้มีการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.2561 เพราะนับตั้งแต่รัฐประหารในเดือนพ.ค.2557 ต่างประเทศและองค์กรระหว่างประเทศมีท่าทีกดดันรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และประกาศต่อคนไทยโดยให้เห็นความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง ก็ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจอย่างมาก และแรงกดดันจากต่างชาติจะเริ่ม ลดน้อยถอยลง เมื่อเห็นว่าคสช.จะคืนอำนาจ

“การที่พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศชัดเจนอย่างนี้ คิดว่าคงไม่เลื่อนอีก เพราะถ้าเลื่อนท่านจะเสีย และที่ผ่านมาท่านเลื่อนมาตั้งหลายครั้ง ถูกมองมาตลอด ถ้าครั้งนี้เลื่อนอีก นอกจากท่านจะเสียหายแล้ว ความน่าเชื่อถือของประเทศจะลดลง กระทบทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม กลายเป็นวิกฤตศรัทธา สิ่งสำคัญคือในช่วงการรณรงค์การเสียง คสช.ควรเปิดให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมอย่างเสรี เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติที่จะมีการปราศรัยโจมตีกันระหว่างพรรคการเมืองในช่วงการหาเสียง แต่ทุกอย่างมีกรอบจำกัดอยู่ อย่าคิดว่าเหล่านี้เป็นเรื่องยุ่งวุ่นวาย ดังนั้น จึงควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติและเสรีตามกฎหมาย โดยที่ คสช.ไม่ควรไปควบคุม เพราะมีกลไกตามระบอบประชาธิปไตยรองรับอยู่แล้ว” นายดิเรกกล่าว

พท.ขวางสนช.ตีตกกม.ลูก

ด้านนายอำนวย คลังผา อดีต ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า เป็นเรื่องดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศว่าจะเปิดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน พ.ย.2561 ซึ่งเป็นไปตามโรดแม็ปที่ชัดเจนว่าจะดำเนินการเรื่องต่างๆ ตามกรอบเวลาอย่างไร เช่น กระบวนการจัดทำกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 10 ฉบับ ทั้งนี้ ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้เกิดสัญญาณในเชิงบวก โดยเฉพาะหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่พุ่งขึ้น จึงเชื่อว่าเรื่องนี้จะสามารถเรียกความเชื่อมั่นและส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้นตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม คาดว่าเดือนต.ค.ไปแล้ว คสช.จะเปิดให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ เพราะพรรคการเมืองทุกพรรคมีกรอบเวลาที่จะต้องเตรียมการ ยิ่งเป็นพรรคการเมืองใหม่ยิ่งต้องใช้เวลามาก ในการหาสมาชิกพรรค เงินทุนประเดิมพรรค จัดตั้งสาขาพรรค เป็นต้น ส่วนพรรคเพื่อไทยขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ แต่พร้อมปฏิบัติตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธํรรมนูญว่า ด้วยพรรคการเมือง เมื่อ คสช.ปลดล็อกพรรคการเมือง

“เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ประกาศอย่างชัดเจนแล้วว่าจะเปิดให้มีการเลือกตั้งในเดือนพ.ย.2561 จึงเชื่อว่าจะไม่มีการเลื่อนเลือกตั้งอีก ต่อไป และเป็นเรื่องยากที่สภานิติบัญญัติ แห่งชาติ(สนช.)จะตีตกกฎหมายลูกเพื่อให้เลื่อนการเลือกตั้ง เพราะการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ถือเป็นความรับผิดชอบสูงสุดที่คนเป็นผู้นำต้องรับผิดชอบ อยากให้รัฐบาลเดินหน้าตามกรอบที่กำหนดไว้ เพราะถือเป็นสัญญาณที่ดีในการสร้างความเชื่อมั่นแก่ต่างประเทศและคนไทยด้วยกันเอง” นายอำนวยกล่าว

รำลึก 44 ปี 14 ต.ค.-รบ.สดุดีวีรชน

เมื่อเวลา 07.00 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน มีการจัดรำลึกครบรอบ 44 ปี 14 ตุลา เพื่อรำลึกถึงวีรชนด้านประชาธิปไตย ช่วงเช้ามีการตักบาตรพระสงฆ์จำนวน 14 รูป และพิธีกรรม 3 ศาสนา ประกอบด้วย ศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม

นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตัวแทนนายกฯได้กล่าวสดุดีวีรชนว่า วันที่ 14 ต.ค. ซึ่งเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ เป็นวันที่เราระลึกถึงความกล้าหาญของประชาชนที่ต่อสู้เพื่อเรียกร้องให้ได้มาซึ่งความเป็นประชาธิปไตย มีพระมหากษัตริย์เป็นองค์ประมุข รัฐบาลมีเจตนารมณ์แน่วแน่ในการสร้างความปรองดอง เพื่อลดความขัดแย้ง ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และมีเจตนารมณ์แน่วแน่เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งด้วยสันติวิธี พร้อมขอให้ประชาชนทุกคนมีความรักชาติบ้านเมือง เสียสละอดทนให้อภัยกันและยึดประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง และทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมในการนำพาประเทศชาติไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างยั่งยืน ตนในฐานะตัวแทนรัฐบาลขอสดุดีผู้กล้าหาญและขอส่งเสริมการมีประชาธิปไตยยั่งยืน และขอให้วิญญาณผู้กล้าได้พบกับความสุขในสัมปรายภพ

ญาติซึ้ง”บิ๊กตู่”อนุมัติเงินเยียวยา

จากนั้นตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆร่วมวางพวงมาลาและกล่าวสดุดี อาทิ ตัวแทนจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พรรคประชาธิปัตย์ กรุงเทพมหานคร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ญาติวีรชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และตัวแทนจากนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต

นางละเมียด บุญมาก ญาติวีรชนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ 14 ต.ค. กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ขอขอบคุณทุกฝ่ายยังระลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนั้น ที่ผ่านมาตนและญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวพยายามเรียกร้องเงินชดเชยกรณีเสียชีวิตในเหตุการณ์มานาน พอจะได้ก็มีความวุ่นวายทางการเมืองมาตลอด ล่าสุด ได้ขอความเห็นใจจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งแม้จะเป็นรัฐบาลทหาร แต่ก็อนุมัติเงินเยียวยาให้แล้วเดือนละ 3 พันบาท ซึ่งจะได้ครั้งแรกในเดือนต.ค.นี้

“หมอเลี้ยบ”ชูปชต.ขับไล่เผด็จการ

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมประกอบ หุตะสิงห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ท่าพระจันทร์ พรรคใต้เตียง มธ.ร่วมกับคณะประชาชนเพื่ออิสรภาพ (คปอ.) จัดเวทีเสวนาวิชาการในโอกาสครบรอบ 44 ปีเหตุการณ์ 14 ตุลา หัวข้อ “เหลียวหลังแลหน้า มรดกคนเดือนตุลากับอนาคตสังคมไทย”

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า ผ่านมา 44 ปี คน 14 ตุลา 16 อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญ ที่ผ่านมาขอแบ่งคนยุคต่างๆ ไว้ 5 ยุค ยุคแรกเป็น คนรุ่น 2480 เป็นยุคเริ่มต้นของคณะราษฎร เสรีไทย ยุคสอง 2500 เป็นยุคความเงียบ ยุคแสวงหา ยุคที่สาม 2520 เป็นยุคของคนเดือนตุลา ยุคที่สี่ ปี 2540 เป็นยุคเคลื่อนไหวในช่วงพฤษภาทมิฬ และสุดท้ายยุคปัจจุบัน ยุคของคนรุ่นใหม่ที่ต้องอาศัยความตั้งใจและพลังฝันฝ่าลมและกระแสต่างๆ ตนมองว่าคนเดือนตุลาเป็นเพียงคนกลุ่มหนึ่งไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าคนสองกลุ่มแรกและสองกลุ่มหลัง

ส่วนตนไม่เคยคิดจะได้กลับมาทำงานการเมือง แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ 6 ต.ค.2539 มีการจัดงานรำลึกที่ม.ธรรมศาสตร์ ตนได้ฟังจากนายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล คนเดือนตุลาพูดในวันนั้นว่าเราได้เคยลุกขึ้นทวงถามความเป็นธรรมเพื่อให้บ้านเมืองดีขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว มาวันนี้เดือนตุลาทำอะไรกันอยู่ ขอให้ออกจากมุมมืดมาสู่การปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่ได้แล้ว จากนั้นก็นำมาสู่การเกิดรัฐธรรมนูญปี 2540

ส่งเจตนารมณ์ให้คนรุ่นใหม่

นพ.สุรพงษ์กล่าวว่า คนเดือนตุลามีเรื่องของความใฝ่ฝันที่อยากให้ทุกคนมีชีวิตดีขึ้น ถ้าเราจะส่งผ่านมรดกคนเดือนตุลาให้คนรุ่นหลัง ต้องถามว่าคนรุ่นใหม่อยากรับหรือไม่ คิดเหมือนเราหรือเปล่า คนรุ่นใหม่มีเรื่องต้องคิดเยอะมากเพราะสังคมปัจจุบันมีเรื่องเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ดังนั้นมรดกของคนเดือนตุลาจึงไม่ใช่เรื่องการไปชี้แนะคนรุ่นใหม่ว่าต้องทำอะไร เรามีหน้าที่ส่งผ่านเพียงเรื่องเดียว คือส่งผ่านเจตนารมณ์ความใฝ่ฝันของคนหนุ่มสาว ความรักในเสรีภาพ ความยุติธรรม และความเสมอภาคของทุกคนในบ้านเมืองให้ได้สานต่อ หากอยากหลุดจากยุคเผด็จการในปัจจุบัน จะต้องยึดหลักและอยู่ในระบบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการพัฒนาประเทศ ทุกคนต้องมีส่วนร่วมและอย่าคิดหาทางลัดกันอีก

ส่วนที่นายกฯ ระบุการเลือกตั้งจะเกิดขึ้น พ.ย.2561 เราตั้งความหวังว่าการเลือกตั้งจะเกิดตามที่นายกฯ พูด หรือเกิดขึ้นเร็วกว่านี้ เราพร้อมสนับสนุนให้เดินหน้าให้เร็วที่สุด และขอให้ สนช.และคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)ทำกฎหมายให้เสร็จตามเงื่อนเวลาที่ นายกฯ กำหนด และมีสุขภาพแข็งแรงในระหว่างทำงาน ในส่วนของพรรคเพื่อไทยและนปช.ต้องปฏิรูปตัวเองให้เป็นองค์กรและเป็นแนวร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นจะเกิดกลุ่มก้อนใหม่ๆ ขึ้นมาได้ สิ่งสำคัญที่สุดอย่าก้มหัวให้กับอำนาจที่ไม่เป็นธรรม

ปลุกแรงงานร่วมต่อสู้

ด้านนายศักดินา ฉัตรกุล ณ อยุธยา นักวิชาการอิสระผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์แรงงาน กล่าวว่า ในช่วง 14 ตุลา 16 ถึง 6 ตุลา 19 ถือเป็นยุคทอง เป็นยุคเชิดชูขบวนการแรงงาน ร่วมกันต่อสู้แบบสามประสานระหว่างชาวไร่ชาวนา กรรมกรแรงงาน และกลุ่มนักวิชาการ ใครที่มีความเดือดร้อนจะร่วมกันขับเคลื่อนชุมนุมเรียกร้อง แต่หลังปี 2519 ขบวนการแรงงานถูกทำให้เล็กลง อยู่ในรั้วของโรงงาน กลายเป็นเพียงแค่สหภาพแรงงานที่เน้นการต่อสู้เรื่องปากท้องเท่านั้น ตนมองว่ายุคคนเดือนตุลาเป็นยุคที่คนงานร่วมต่อสู้ขับไล่เผด็จการ ต้องส่งต่อให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ ต้องมีการฟื้นฟู สร้างจิตสำนึกให้ขบวนการแรงงานได้กลับมาต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงทางสังคม มากกว่าปัญหาปากท้องเพียงอย่างเดียว

นายสุขุม เลาหพูนรังษี อดีตประธานชุมนุมนาฏศิลป์และการละคร องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) กล่าวว่า ยุคนี้ถูกครอบงำ 3 เรื่องใหญ่คือ 1.เป็นยุคเผด็จการเต็มรูปแบบของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ที่ครองอำนาจยาวนาน และต่อยอดด้วยจอมพลถนอม กิตติขจร ซึ่งมีการใช้มาตรา 17 ยิงเป้าคน ถือเป็นยุคทองของอำนาจเผด็จการ ในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะทำให้เกิดยุคทองแบบสมัยนั้นหรือไม่ 2.สงครามอินโดจีนกำลังดุเดือดเลือดพล่าน 3.นโยบายปลุกผีคอมมิวนิสต์ คอมมิวนิสต์ถูกสร้างให้เป็นยิ่งกว่ายักษ์กว่ามาร

ทั้งนี้ มรดกเพื่อชีวิตประกอบด้วย 3 ประการคือ 1.ต้องนำเสนอความจริง ไม่เพ้อเจ้อ เพ้อฝัน 2.ความง่าย สามารถสื่อสารให้คนดูคนฟังไม่ต้องตีความหรือคาดการณ์ 3.ความงาม แนวทางศิลปะต้องครบทั้ง 3 องค์ประกอบแต่ทั้งหมดเป็นเรื่องยากมาก และมองว่าสังคมเผด็จการจะทำให้สังคม ศิลปวัฒนธรรมหดหายไปเรื่อยๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน