รวบตัวพระโหดเมืองอุดร หนีคดีใช้ขวานสับฆ่าเซียนไก่ชน ก่อนสั่งให้เณรพร้อมลูกศิษย์คนสนิทช่วยกันอำพรางคดี อุ้มศพไปฝังไว้ที่ท้ายวัด เตรียมสั่งให้ช่างมาโบกปูนทับ ก่อนหลบหนีไปจนมุมที่เมืองพัทยา ตร.เผยสอบปากคำพยาน ระบุเห็นผู้ตายไปนั่งดื่มเหล้ากับลูกศิษย์วัด แล้วเข้าไปทวงหนี้พนันชนไก่กับพระคู่กรณี จนเกิดการชกต่อยกัน แต่ก็พลาดท่าถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ส่วนเจ้าอาวาสก็เผยด้วยว่าเป็นพระมีนิสัยนักเลง แม้กระทั่งตนเองยังเคยถูกขู่ฆ่ามาแล้วอีกด้วย

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 ต.ค. พ.ต.ท.นันทกานต์ วรรพันธ์ สว.(สอบสวน) สภ.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี รับแจ้งจากฝ่ายสืบสวนว่า ได้เบาะแสของนายวิชาญ พรหมมินทร์ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 184 ม.5 ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่ญาติแจ้งความคนหายเอาไว้เมื่อวันที่ 19 ต.ค. โดยมีพยานเห็นนายวิชาญครั้งสุดท้ายว่าไปนั่งดื่มสุรากับชาวบ้านในหมู่บ้าน ก่อนจะเข้าไปหาพระสงกรานต์ สินไชย อายุ 41 ปี พระลูกวัดศรีบุญเรือง บ้านหนองโสกดาว ต.โนนสูง อ.เมือง แล้วก็หายตัวไปอย่างลึกลับ จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยพล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ธานินทร์ อินทร์กอง รอง ผกก.หน.สภ.โนนสูง พ.ต.ท. สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.ฯ แพทย์เวรของร.พ.อุดรธานี และเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน ไปยังจุดที่ระบุว่ามีการนำศพนายวิชาญไปฝังเอาไว้

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณท้ายวัดศรีบุญเรือง พบร่องรอยของการกลบฝังดินใหม่ๆ ซึ่งพยานระบุว่าเป็นจุดที่ใช้ฝังศพนายวิชาญ เจ้าหน้าที่จึงให้ใช้รถไถมาตักเอาหน้าดินออก หลังจากขุดลึกลงไปประมาณ 50 ซ.ม.ก็พบเศษผ้าจีวรและมีกลิ่นคาวเลือดคลุ้งออกมาเรื่อยๆ เมื่อขุดลึกลงไปอีกก็พบศพชายไทยถูกห่อไว้ด้วยผ้าจีวร สภาพศพนุ่งกางเกงขายาวสีกรมท่า สวมเสื้อแขนยาวผ้ายีนส์ ตามร่างกายพบบาดแผลฉกรรจ์ที่ลำคอ ใบหน้าและศีรษะหลายแห่ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4 วัน โดยญาติๆ ที่มาร่วมตรวจสอบด้วยต่างยืนยันว่าเป็นศพของนายวิชาญที่หายตัวไป

พล.ต.ต.พีระพงศ์เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ญาติของผู้ตายเข้ามาแจ้งความคนหายไว้ ต่อมามีพยานให้เบาะแสว่าเห็นผู้ตายไปนั่งดื่มเหล้ากับชาวบ้านและลูกศิษย์วัดคนสนิทของพระสงกรานต์ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายเมฆินทร์ โสตะศรี นายธนกร ทิพย์สิงห์ และด.ช.เอ (นามสมมติ) ลูกศิษย์วัด ที่อยู่กับผู้ตายก่อนหายตัวไปมาสอบปากคำจนยอมรับสารภาพว่า เห็นพระสงกรานต์เป็นคนลงมือฆ่านายวิชาญ จากนั้นก็บังคับให้พวกตนช่วยกันอำพรางคดีด้วยการนำศพไปฝังดินไว้ที่ท้ายวัด หลังเกิดเหตุไม่นานพระสงกรานต์ก็หลบหนีไปแล้ว

พล.ต.ต.พีระพงศ์กล่าวต่ออีกว่า ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายนั้นเป็นเซียนพนันชนไก่ ส่วนพระสงกรานต์ก็นิยมชมชอบพนันชนไก่เหมือนกัน จนเคยนำเอาไก่ไปชนพนันกันที่ท้ายหมู่บ้าน มีเงินเดิมพันกันร่วมหมื่นบาท ปรากฏว่าไก่ของนายวิชาญชนะไก่ของพระสงกรานต์ ตั้งแต่นั้นมานายวิชาญก็มักจะไปทวงเงินพนันจากพระสงกรานต์เป็นประจำ จนสร้างความอับอายให้กับพระสงกรานต์เป็นอย่างยิ่ง ในวันเกิดเหตุนายวิชาญได้ไปนั่งดื่มสุรากับชาวบ้านและลูกศิษย์วัด หลังจากเมาได้ที่ก็เข้าไปหาพระสงกรานต์เพื่อทวงหนี้อีก ครั้งนี้ถกเถียงกันรุนแรงถึงขั้นด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนที่จะชกต่อยกัน แต่นายวิชาญซึ่งมีอาการเมาสู้ไม่ได้และสลบไป แต่พระสงกรานต์ก็ยังไม่เลิก เดินไปเอาขวานเข้ามาสับร่างของนายวิชาญจนเสียชีวิต จากนั้นก็สั่งให้นายเมฆินทร์, นายธนกร และด.ช.เอ ซึ่งบวชเป็นเณรอยู่ ช่วยกันนำศพไปฝังที่ท้ายวัด พร้อมเตรียมสั่งให้ช่างเอาปูนมาเทตรงจุดที่ฝังศพไว้ด้วย โดยอ้างว่าจะสร้างกุฏิหลังใหม่ แต่ไม่ทันได้ทำก็หลบหนีไปก่อน จากการสอบสวนก็เชื่อว่าพระสงกรานต์เป็นผู้ลงมือฆ่าเพียงคนเดียว ส่วนลูกศิษย์ก็ร่วมนำศพมาฝังทำลายเท่านั้น

ด้านพระครูสุภัทร บุญโญภาส เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง เปิดเผยว่า พระสงกรานต์เดิมมีบ้านเกิดอยู่ในหมู่บ้านนี้ ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่ จ.หนองบัวลำภู ซึ่งก็ไม่ทราบว่าไปบวชมาจากวัดไหน แต่ได้มาขอจำพรรษาอยู่ที่วัดนี้ได้ประมาณ 2 ปีแล้ว ปกติเป็นคนมีนิสัยนักเลงอยู่แล้ว มักชอบหาเรื่องคนอื่น แม้แต่ตนก็ยังเคยโดนขู่ฆ่ามาแล้วด้วย พร้อมกับบอกด้วยว่าเคยฆ่าคนตายมาแล้วอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีนิสัยแปลกมักจะจับเอาไก่มาต้มกิน บางครั้งก็ไปจับกบปลาตามท้องไร่ท้องนามาทำอาหาร แต่ไม่คิดว่าพระสงกรานต์จะมีจิตใจโหดเหี้ยมถึงขนาดนี้

ต่อมาพล.ต.ต.พีระพงศ์ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบ จนทราบว่าพระสงกรานต์หลบหนีกลับไปที่บ้านเลขที่ 30 ม.8 ต.เก่ากลอย อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นบ้านของพระสงกรานต์ จึงได้ส่งกำลังติดตามไป ล่าสุดมีรายงานว่าพระสงกรานต์ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ ก่อนไปถูกจับกุมได้ที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี กำลังถูกควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน