ลูกจ้างชาวกัมพูชา ไปคลอดลูก ที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง ตรวจรอบ 2 เจอติด โควิด ทำค่าใช้จ่ายพุ่ง เพิ่มเฉียดแสน นายจ้างวอน ช่วยลดราคา

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี นายจ้างของนางซินาง อิท ลูกจ้างชาวกัมพูชา ที่ได้ไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลรัฐบาลแห่งหนึ่ง แล้วถูกโรงพยาบาลเรียกเก็บค่าทำคลอด 80,000 บาท

นายจ้าง เปิดเผยว่า ตนมีลูกจ้างเป็นคู่สามีภรรยา แรงงานต่างด้าว แล้วภรรยาท้องแก่ใกล้คลอดอยู่ เป็นช่วงที่รัฐบาลให้หยุดกิจการทั้งสองจึงไม่ได้ออกไปไหน ระหว่างนั้นวันที่ 14 ก.ค. ตนจึงให้ฝ่ายชายไปตรวจ โควิด-19 เพื่อความปลอดภัย ปรากฏว่าติดเชื้อจึงได้มีการกักตัว จนมาวันที่ 15 ก.ค. ฝ่ายหญิงมีอาการน้ำเดิน ใกล้คลอด ตนจึงให้ไปตรวจ โควิด-19 ก่อนไปคลอดลูก ผลปรากฏว่าไม่ติดเชื้อ

หลังจากคลอดลูกเสร็จแล้ว ทางโรงพยาบาลก็ได้ตรวจ โควิด ลูกจ้างผู้หญิงอีกครั้ง ผลออกมากลับพบว่าติด โควิด จึงได้มีการแยกกักตัวกับลูก ส่วนเด็กต้องอยู่โรงพยาบาลต่อไปเพราะต้องตรวจเชื้อ โควิด ซ้ำ แล้วทางโรงพยาบาลได้แจ้งแม่เด็กให้ไปชำระค่าคลอด 14,000 บาท แต่ทางโรงพยาบาลได้แจ้งไปทางพ่อเด็กว่า ถ้าจะมาเอาลูกออกจากโรงพยาบาลจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 83,000 บาท

ทางพ่อเด็กไม่มีเงินจึงได้มาปรึกษากับตน ตนจึงได้คุยกับโรงพยาบาล ให้ส่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายมาตรวจสอบ เพราะจ่ายค่าคลอดไปแล้วทำไมยังเอาเด็กออกมาไม่ได้ โดยโรงพยาบาลแจ้งว่ามีค่าอุปกรณ์การแพทย์กว่า 20,000 บาท และมีค่าบริการอื่น ๆ อีก 45,000 บาท เป็นค่าชุดพีพีอี ที่ใส่เข้าไปดูแลเด็กแรกเกิด

นายจ้าง กล่าวต่อว่า ตนจึงขอความกรุณาให้ทางโรงพยาบาลลดค่าใช้จ่าย เพราะทางพ่อเด็กไม่มีเงิน แต่ทางโรงพยาบาลก็ได้ติดต่อไปทางพ่อเด็กว่า ให้มาชำระก่อนเท่าที่มี ส่วนที่เหลือให้มาเช็นรับทราบการผ่อนจ่าย ซึ่งพ่อเด็กมีเงินเพียง 20,000 บาท ตนจึงสมทบให้อีก 20,000 บาท เป็น 40,000 บาท ก็ยังไม่พอ

 

ตนพยายามเจรจาต่อไปแต่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าเป็นค่าใช้จ่ายภายในโรงพยาบาล ถ้ามารักษาที่นี่ ก็ต้องรับค่าใช้จ่ายตามนี้ เพราะเป็นการคลอดที่ไม่ปกติ ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้ไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมให้ทางลูกจ้าง เพราะอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ อยากให้โรงพยาบาลเองพิจารณาค่าใช้จ่ายดูอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ด้วยกันในสถานการณ์ โควิด ในขณะนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน