บิ๊กตู่ลงตรวจสถานการณ์น้ำ หลุดจามช่วงแถลงระวังโควิด แจงแค่แพ้อากาศ ตรวจโรคมาแล้ว ชี้ดูแลเรื่องน้ำเต็มที่ ขอให้ทุกคนกล้าคิดกล้าทำเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย

วันที่ 15 ก.ย.2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเดินทางไปตรวจสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา ที่จ.ชัยนาท พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

โดยระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่า ขอฝากความห่วงใยถึงประชาชนทุกคน วันนี้ยังไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิด เพราะเรื่องสถานการณ์โควิด -19 จึงต้องระมัดระวัง เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดวันนี้คือโควิด โควิด และโควิด จึงต้องDMHTT สวมหน้ากาก ล้างมือ”

ทั้งนี้พอถึงท่อนนี้ทางพล.อ.ประยุทธ์ก็ได้หลุดจามออกมา ก่อนที่จะรีบบอกว่า “เห็นไหมจามแล้ว แต่ผมไม่ได้เป็นอะไร ตรวจโรคมาแล้ว แค่แพ้อากาศ อากาศชื้น นายกฯแพ้อากาศบ่อย” โดยระหว่างแถลงข่าวพล.อ.ประยุทธ์ได้จามอีกครั้งด้วย

วันนี้ตนมาเยี่ยมเยียนชาวชัยนาททุกคน ซึ่งทั้งนายกฯ รัฐบาลและครม. ห่วงใยชาวชัยนาทและพื้นที่ใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบร่วมกัน โดยได้มารับฟังคำชี้แจงจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ที่บริหารภาพรวมทั้งประเทศ

รวมถึงยังได้ฟังคำชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับฟังความคิดเห็นต่างๆ จากบรรดาส.ส. ได้พื้นที่ให้รับทราบว่ารัฐบาลมีความห่วงใยอย่างไร เพราะทุกคนเป็นตัวแทนของประชาชนทั้งสิ้นโดยไม่มีการแบ่งแยก ใครทั้งสิ้นเพราะเราเป็นรัฐบาลที่ต้องบริหารและดูแลคนทั้งประเทศอยู่แล้ว

ทั้งนี้จะต้องพิจารณาลำดับความเร่งด่วนในการทำงาน และส่วนใหญ่ผู้ว่าราชการจังหวัดจะดำเนินการในเรื่องเหล่านี้ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบทุกประการ โดยต้องไม่มีการทุจริตต้องโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อให้ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริงซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาล

อย่างไรก็ตามเท่าที่รับทราบตนก็มีความพอใจ ที่ฝ่ายบริหารได้ชี้แจงตนมาทั้งหมดวันนี้ ทั้งในส่วนน้ำตอนเหนือตอนบน เหนือตอนกลางและเหนือตอนล่างที่ต้องมีการตัดยอดน้ำออกไปข้างๆ ทางตะวันตกและตะวันออกก่อนมวลน้ำจะไหลมาที่นี่ โดยทราบว่าการระบายน้ำที่นี่ลดลงไปมากพอสมควร

ขณะเดียวกันได้สั่งเน้นย้ำในการกำจัดวัชพืช ที่ขวางทางน้ำซึ่งกำลังดำเนินการอยู่และเป็นปัญหาทุกปี จึงต้องมีการกำจัดเป็นระยะๆ

ส่วนการเตรียมแผนเผชิญเหตุ โดยเตรียมการรองรับในช่วงหน้าฝนและหน้าแล้งไปด้วย เพราะทุกคนมีบทเรียนมาแล้วในเรื่องการระบายน้ำในปี 2554 ส่วนในปี 2563 นั้นอีกเรื่องหนึ่งเพราะเกิดจากพายุเข้าจำนวนมาก พื้นที่ที่มีความเสี่ยงก็คือพื้นที่ลุ่มต่ำจึงต้องดูพื้นที่เหล่านี้ที่จะไปท่วมทางฝั่งซ้าย ได้แก่จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าอ่าวไทย พร้อมการเตรียมพื้นที่สำรองกักเก็บน้ำตามธรรมชาติ

“ได้กำชับให้ไปตรวจตราเรื่องของทำนบดินและอ่างเก็บน้ำต่างๆ ที่ปริมาณน้ำสูงขึ้นในขณะนี้ว่าต้องรับน้ำให้ได้ อีกทั้งต้องเตรียมแผนในกรณีที่มีการชำรุด จึงได้มอบหมายให้กระทรวงกลาโหมในการใช้เฮลิคอปเตอร์ที่เคยทำเรื่องทิ้งตะกร้าลงมากั้นน้ำชั่วคราวและการซ่อมแซม”

นอกจากนี้เรื่องของการเกษตรจะปรับพื้นที่การเกษตรของเราอย่างไรให้สอดคล้องกับความต้องการ ซึ่งตนก็เป็นห่วง ดังนั้นทุกคนต้องปรับตัวเองด้วย รัฐบาล พยายามคิดใหม่ทำใหม่ แต่ทุกคนต้องกล้าคิดกล้าทำและกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง เราถึงจะพลิกโฉมประเทศไทยได้ และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน

“สู้ๆนะ” จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะจึงได้เดินทางกลับกรุงเทพฯ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน