ริม กฤษณะ ฟรอนท์แมนซิลลี่ฟูล ยันเตรียมออกอัลบั้มแน่ เผย “หรั่ง” เป็นนิ้วล็อก เชื่อเจ้าตัวมีความสุขมากกว่าทุกข์ หลังอโหสิ “โต”

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. “ริม กฤษณะ ปานดอนลาน” ฟรอนท์แมน Silly Fools วัย 35 ปี เปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ถึงก้าวต่อไปของวงร็อคเลื่องชื่อ หลังปล่อยซิงเกิ้ลใหม่ “แพ้ความอ่อนแอ” ได้เพียงเกือบสัปดาห์ ทำยอดวิวแตะ 4 ล้าน ว่า เราย่ำมาหลายก้าวมากๆ ดีบ้าง ปานกลางบ้างมาตลอด แต่เพลงนี้พวกเราใช้คำว่าประสบความสำเร็จได้ค่อนข้างสูงเลย ความจริงแล้วแฟนเพลงเรา เป็นขุมกำลังใหญ่อย่างหนึ่งที่ทำให้พวกเราเดินได้ กำลังใจของทุกคนเป็นแรงผลักดันให้เราทำงานต่อได้ ยอมรับว่ามีเรื่องหนักใจ ทั้งการทำงาน และสื่อต่างๆ จะเล็กน้อยก็มีอยู่แล้ว การจัดการคือเราจะมองแง่บวก เอามาพัฒนาตัวเราให้ดีขึ้นๆ สิ่งที่ทำให้มีความสุขได้คือมอบความสุขให้กับเค้า(แฟนเพลง) เขาก็มอบให้กับเรา วนลูปกันไป

“ผมก็เป็นแฟนของซิลลี่ฟูลคนหนึ่งเหมือนกัน วงนี้ไม่ค่อยย่ำอยู่กับที่เท่าไหร่ หมายความว่า ไม่ว่าพาร์ทดนตรีและพาร์ทต่างๆ ที่ซิลลี่ฟูลทำออกมา สังเกตดูตั้งแต่ยุคแรกถึงยุคนี้ ตั้งแต่อัลบั้มไอคิว 180 หรืออีพีอื่นจนถึงตอนนี้ ไม่เคยซ้ำกันเลย แรกๆ อาจจะมาว้าก อัลบั้มสองเริ่มว้ากน้อยลง อัลบั้มสามเป็นป็อปขึ้นเรื่อยๆ สลับไปมา เขาไม่เคยทำซ้ำเลย จะเปลี่ยนเจนไปเรื่อยๆ เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ณ เวลานี้เขาอยากจะสื่อคนฟังแบบนี้ พี่ต้นคิดไวมาก เก่งมากๆ สร้างผลงานได้ออกมาเรื่อย”

ริม บอกอีกว่า ตนชอบเจร็อก แต่ชอบไลฟ์สไตล์การแต่งตัวของฝั่งญี่ปุ่นมากกว่า ทั้งโลกยอมรับแฟชั่นของเขา ไม่ได้หมายความว่าจะเอาเจร็อกมายัดในนี้มากกว่า สำหรับโปรเจ็กต่อไป พี่ๆ ต้องมีดนตรีมาก่อน ตนให้เกียรติพี่ๆ ไม่อยากสร้างอะไรมาก่อน เขาต้องทำพาร์ทดนตรีมาก่อนแล้วเนื้อจะตามมาทีหลัง สำหรับเพลงออเรนจ์ ที่มีท่อนร้องเหมียวเหมียว เป็นโปรเจคช่วงโควิดแรกๆ เพลงต่อไปไม่มีโฮ่งโฮ่งแน่นอน แต่มันคือเรื่องจริงสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ที่มีช่วงเคว้งคว้างไม่รู้จะปรึกษาใคร ก็มีเจ้าเหมียวนี่แหละ

“ประเด็นพี่หรั่ง เป็นนิ้วล็อก(ทำท่าร็อก) เป็นอาการที่นักดนตรีหลายๆ คนเป็น บางคนเล่นกลอง เล่นกีต้าร์ไม่ได้ มันจะส่งผลข้างใดข้างหนึ่งไม่ซ้ายก็ขวา อย่างไรก็ตาม สำหรับพี่หรั่งมันราบเรียบไปหมด จะเล่นถนัดหรือไม่ถนัดก็ไม่ทราบ แต่เท่าที่เล่นดนตรีและทำงานด้วยกันไม่มีปัญหาเลย” นายกฤษณะ กล่าว

ถามถึงประเด็นดราม่าในอดีตของวงระหว่างพี่โตกับพี่หรั่ง หลังแยกทางกัน ริม บอกว่า มันเป็นเรื่องที่ผมไม่รู้ พี่ๆ ไม่ค่อยคุยกันเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ทำงานออกไปทัวร์ก็จะคุยเรื่องงานสนุกสนาน จังหวัดนี้มีอะไรให้กินมั้ยมากกว่า

“ประเด็นเรื่องอะไหล่ที่ขาดหายไปตามที่เคยบอกตั้งแต่ตอนแรก ทุกวันนี้มันยังทำงานอยู่ ยังครบองค์ประกอบเหมือนเดิม ไม่ไปไหนยังอยู่เหมือนเดิม อะไหล่ชิ้นนี้ค่อนข้างจะสำคัญด้วย ยังคงต้องทำอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ สิ่งแรกที่อยากพูดถึงแฟนเพลง ต้องขอขอบคุณแฟนคลับตั้งแต่ยุคแรกๆ ถึงปัจจุบัน คำขอบคุณสำหรับผมอาจจะน้อยไปด้วยซ้ำ ไม่สามารถให้ได้หมดทุกคน แต่มันแทนคำขอบคุณไม่ได้ อยากเปลี่ยนมาเป็นพวกเรามาสร้างผลงานดีๆ ให้ทุกคนดีกว่า

พวกเรามีกำลังใจมาก ทุกคนให้การตอบรับได้มากขนาดนี้ ทำงานตรงนี้ยาวนานไปเรื่อยๆ พี่ต้นมีเซ้นส์บอกตั้งแต่แรกว่าเพลงนี้ขึ้นหิ้งอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องมาแน่ พวกเราก็มีหวังกันทุกคนแต่ไม่ถึงกับว่า 100% แน่ๆ พวกเราก็ทำใจไว้เผื่อ แต่เผิญว่ามันไปในทิศทางที่ดี พวกเราก็ดีใจ สำหรับพี่หรั่ง พูดกับตนคำเดียวว่า ขอบคุณมากๆ แล้วก็เข้ามากอด แกเป็นคนไม่ค่อยพูดเยอะ”

ริม กฤษณะ เผยอีกว่า ประเด็นเรื่องไลฟ์แล้วพี่หรั่งพูดเรื่องอโหสิให้พี่โต ตอนนั้นเชิญไปขอบคุณแฟนเพลง ไม่รู้เรื่องมาก่อน ตอนแรกก็พูดสนุกสนาน จนตอนท้ายพี่หรั่งก็พูดขึ้นมาเลย ผมว่าพี่หรั่งน่าจะมีความสุขมากกว่าความทุกข์แล้วแหละ คงมีความสุขมากกว่าจะเอาเรื่องเครียดมาเก็บไว้ และพี่หรั่งบอกว่าเพลงนี้ เนื้อเพลงตรงกับเขาเลย เหมือนมีความในใจมาตลอด ขนาดคนในวงยังรู้สึกเรื่องในใจอยากจะปล่อยออกไป ไม่รู้ทำไมทำไม่ได้

“ถามว่านับตั้งแต่แยกทางกับพี่โต พี่หรั่งไม่เคยพูดถึงเลย คำว่าสุนัขไม่มีหัว ผมว่าเขาเลยจุดนั้นมาไกลมาก กิจกรรมแกมากเกินจะมานั่งคิด ไม่ว่าจะอ็อกเหล็กต่อเรือ แต่วันนั้นคงเป็นคำพูดสั้นๆ เล็กๆ ไม่ยาวนาน แล้วจบ ทุกคนก็มีชีวิตต่อไปตามปกติ”

ฟรอนท์แมนซิลลี่ฟูล กล่าวอีกว่า ตอนนี้มีโปรเจกใหม่ที่พี่หรั่งคิด เดี๋ยวจะเชิญพี่ต่อ พี่เบน กลับมาเล่นดนตรีอะคูสติกแคมป์ เป็นอารมณ์ครอบครัวที่เคยร่วมงานกันภายในเร็วๆ นี้เลย นอกจากนี้ยังมีแฟนเพลงเรียกร้องอยากได้อัลบั้มไว้ครอบครอง เร็วๆ นี้ มีเรคคอร์ด จะอัลบั้มในรุ่นของผมให้ทุกคนได้อุดหนุนเก็บสะสมแน่นอนไม่ต้องห่วง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน