เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อเฟซบุ๊ก Karinyapat Lerdakkarajinda เล่าถึงเหตุการณ์ที่ไปกินอาหารภายในร้านปิ้งย่างแห่งหนึ่ง ในตลาดนัดเลียบด่วน รามอินทรา หลังแอบคิดเงินเพิ่มอีก 30 บาทโดยไม่ติดป้ายบอก เมื่อสอบถามทราบว่าเป็นค่าที่มานั่งกินอาหารในร้านคนเดียว
โดยระบุว่า เคยเดินผ่านบ่อยๆคิดไว้ว่าจะลองกินดูซักวัน พอวันนี้ก็แวะมาใช้บริการ ได้เรื่องเลยจ้า… ไม่พูดถึงเรื่องรสชาติอาหารนะ พอกินได้ตามประสาร้านปิ้งย่างทั่วไป มาสะดุดตรงป้ายตัวใหญ่เบ้อเริ่ม “บุฟเฟ่ 239 บาท/หัว” พอดีวันนี้มาคนเดียว ก็นั่งลงแล้วก็สั่งอาหารตามปกติ (ไม่อั้น) ถามพนักงานว่าราคานี้รวมเครื่องดื่มด้วยไหม? พนักงานตอบมาว่า “เครื่องดื่ม + อีก 20 บาท ไม่อั้นเช่นกัน” (ราคา 239 + 20 = 259) เราก็โอเคอาหาร+เครื่องดื่มไม่อั้น นั่งกินมาเรื่อยๆจนจะกลับเลยเช็คบิล พนักงานก็เดินถือบิลค่าอาหารมา “ทั้งหมด 289.- บาทครับ”
เราก็นึกว่าฟังผิด “หืม… เท่าไหร่นะครับ ?” คำตอบคือ 289 จริงๆ เลยถามไปว่า แล้วอีก 30 มันค่าอะไร พนักงานคนแรกเป็นคนพม่า งงๆ เราเลยให้ไปเรียกอีกคนมาคุย ปรากฏว่าคำตอบที่ได้คือ “ถ้ามาคนเดียวต้องจ่ายเพิ่มอีก 30 บาท (ค่าเตา)” เราก็… อ้าว เฮ้ย มีงี้ด้วยหรอ ถามกลับไป
“แล้วได้มีตรงไหนที่เขียนบอกลูกค้าไว้ไหมครับ” ตามคลิปเลย ตอบกลับมานิ่งๆ “ไม่มีครับ” โอเคได้… เรียกคนดูแลร้านมาคุยเพราะจะไม่ยอมจ่ายราคานี้แน่นอน ไม่ใช่เพราะไม่มีเงินนะครับ แต่การทำแบบนี้มันไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า และจริงๆเงิน 30 บาทสำหรับบางคนที่เขายากจนไม่มีอันจะกิน มันเยอะครับ ยืนอยู่ตรงนั้นซักพัก ไม่หนี ไม่จ่าย จนในที่สุดคนดูแลร้านดึงบิลคืนไปตีราคาให้ใหม่เป็น 259.- ตามราคาจริง เราจ่ายเงินแล้วก็เดินออกมา
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับจำนวนเงิน แต่เกี่ยวกับความซื่อสัตย์ที่ควรมีต่อลูกค้าให้มากกว่านี้ มื้อละเป็นพันบนตึกใบหยกก็กินมาแล้ว ร้านนี้ต่อให้ติดราคาไว้หัวละ 500 ถ้าพอใจจะกินก็จะกิน ราคาจะถูก – จะแพงไม่ว่าแต่ต้องชัดเจน ทำแบบนี้ไม่ถูกต้อง
