เมื่อวันที่ 12 ก.พ. ที่ศาลาว่าการกทม. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมรับโอนภารกิจด้านงานจราจรจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า การรับโอนภารกิจด้านการจราจรทั้งหมดจำเป็นต้องใช้เวลาในการโอน 5 ปีกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ แต่เบื้องต้นกทม.จะรับโอนในส่วนที่สามารถรับโอนได้ก่อน ซึ่งยังไม่เกี่ยวข้องกับการโอนย้ายอัตรากำลัง คือ ภารกิจงานขีดสี ตีเส้นจราจร การดูแลพื้นที่ห้ามจอดรถ และการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่ฝ่าฝืนจอดรถในที่ห้ามจอด เป็นต้น

“ส่วนการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนเครื่องหมายจราจรนั้น กทม.จำเป็นจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการให้อำนาจเจ้าหน้าที่เทศกิจสามารถบังคับใช้กฎหมายจับและเปรียบเทียบปรับผู้กระทำความผิดได้เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งคณะทำงานที่พิจารณาเรื่องดังกล่าวจะนำเรื่องนี้เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และคาดว่าจะได้ความชัดเจนภายในเดือนมี.ค.นี้ หากมีความชัดเจนในส่วนของ กทม.จะปรับแก้กฎหมายซึ่งทำได้ไม่ยาก จึงไม่น่าจะมีปัญหา อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้กทม.จะจัดอบรมให้ความรู้เจ้าหน้าที่เทศกิจเกี่ยวกับงานจราจร โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรมาเป็นวิทยากร เพื่อเตรียมพร้อมกับการดูงานจราจรในพื้นที่กรุงเทพฯ”

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า นอกจากหากมีการพิจารณาโอนย้ายภารกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อให้องค์กรท้องถิ่นบริหารจัดการเมืองเองได้ดีขึ้นทั้งงานด้านจราจรและการบริการด้านระบบขนส่งสาธารณะอย่าง องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯหรือ ขสมก.มาอยู่ภายใต้สังกัดกทม.นั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ดีและน่าจะรวมกันได้เหมือนการบริหารเมืองใหญ่ๆในต่างประเทศ ที่ทั้งสองภารกิจดังกล่าวหน่วยงานที่บริหารเมืองจะเป็นผู้ดูแล บริหารจัดการทั้งหมด ซึ่งกทม.มีความพร้อมรับโอน และเชื่อว่าจะทำให้การบริหารเมืองสะดวกและดียิ่งขึ้น ส่วนภาระหนี้สิ้นที่เกิดขึ้นสะสมอยู่ตอนนี้ รัฐบาลจะต้องช่วยดูแลและแก้ปัญหา เนื่องจากที่ผ่านมามีปัญหาในส่วนของภาระหนี้สินที่ทำให้ กทม.ไม่สามารถรับผิดชอบงานด้านขนส่งมวลชนอย่าง ขสมก.ได้ หากรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือสะสางปัญหาแล้วมอบหมายภารกิจให้ กทม.ดำเนินการต่อก็ยินดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน