ทนายรัชพล เผยทนายตั้ม บอกมีหลักฐานชัด รับเคยสงสัยรวยจากอะไร ยันไม่ซ้ำเติม ลั่นถ้าศาลยังไม่ตัดสิน ถือว่าบริสุทธิ์อยู่ เชื่อทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 8 พ.ย. 2567 นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ เดินทางมาที่อาคารกองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอเข้าเยี่ยมนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม
นายรัชพล เปิดเผยว่า ตนตั้งใจจะมาเยี่ยมตั้งแต่เมื่อวาน แต่ฉุกละหุก เลยมาวันนี้ จากการประสานงานพบว่ายังไม่สะดวกที่จะเข้าเยี่ยม โดยตำรวจยังไม่อนุญาต ส่วนทนายตั้มเองคงยังไม่พร้อม เลยยังไม่ได้พูดคุย
นายรัชพล กล่าวต่อว่า สำหรับความสัมพันธ์ส่วนตัว ตนกับทนายตั้มเป็นเพื่อนกัน ความเป็นเพื่อนตัดกันไม่ได้ สนิทกันมานาน แต่ใครจะทำอะไร ก็เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ถ้าทำอะไรไม่ดีก็คงได้รับผลกรรมเอง ยืนยันตนไม่เคยซ้ำเติม ไม่ได้กระโดดออกจากวง ไลน์กลุ่มก็ยังอยู่ และตราบใดที่ศาลยังไม่ได้ตัดสิน ก็ถือว่ายังบริสุทธิ์อยู่
นายรัชพล กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องอาชีพทนายความ ทุกวงการมีทั้งคนดีและไม่ดีอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวว่าเป็นทนายความจะต้องเป็นคนไม่ดี ตอนนี้มีคนด่าอาชีพทนายความเยอะมาก ก็อยากฝากบอกว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล
นายรัชพล กล่าวต่อว่า ตนได้พูดคุยกับทนายตั้มครั้งสุดท้ายตอนทนายตั้มอยู่ที่ จ.นครพนม ทนายตั้มโทรมาหา ก็ได้พูดคุยเรื่องส่วนตัว และมีคุยเรื่องคดีนิดหน่อย แต่ไม่ได้ลงลึกรายละเอียด เพราะทนายตั้มมีทนายความส่วนตัวอยู่แล้ว ตนคงไม่ไปยุ่ง แต่ทนายตั้มยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจน
นายรัชพล กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นทนายตั้มก็บอกว่าเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ จึงไม่ได้ติดต่อกันอีก ส่วนเรื่องความรวยที่ตนเคยสงสัยนั้น ตนก็สงสัยว่าเขารวยมาจากอะไร แต่คงไม่ไปเสียมารยาทถาม และทนายตั้มคงไม่มานั่งบอกว่าไปทำอะไรมา ตนแค่ตั้งข้อสงสัยเท่านั้น
นายรัชพล กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าความเคลื่อนไหวในกลุ่มทนายความที่เป็นกลุ่มไลน์และมี 8 คน ตนเข้ามาทีหลัง และจนถึงตอนนี้ก็ยังเคลื่อนไหวกันอยู่ ยังส่งข่าวสารต่างๆ แต่ทนายตั้มคงไม่ได้ตอบอะไร เพราะทราบว่าเปลี่ยนไลน์ชั่วคราว ทำให้ทนายตั้มไม่ได้เข้ามาตอบ
เมื่อถามว่า หากทนายตั้มถูกส่งเข้าเรือนจำจะไปเยี่ยมหรือไม่นั้น นายรัชพล บอกว่า ถ้ามีโอกาสก็คงจะไปเยี่ยมในเรือนจำ แต่ถ้าเขาไม่อยากคุยด้วย และไม่สะดวกก็เข้าใจ เพราะอาจจะไม่อยากให้เห็นสภาพของเขา ตนเองก็คงไม่เข้าไปยุ่ง