หนุ่มป่วยโรคหายาก “จมูกบอด” ไม่เคยได้กลิ่นตั้งแต่เกิด ตัดสินใจรักษา อึ้ง วินาทีได้สัมผัสกลิ่นแรก พร้อมเผยกลิ่นที่ชอบที่สุด ทำเอาโซเชียลอ้าปากค้าง
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 การได้กลิ่นหอมหวลของขนมปังอบใหม่ หรือกลิ่นสดชื่นจากดอกไม้ อาจทำให้วันนั้นของคุณสดใสขึ้นได้ แต่กลับไม่เคยเกิดขึ้นกับชายรายนี้ ซึ่งป่วยเป็นโรคหายาก “จมูกบอด” ไม่เคยได้กลิ่นอะไรเลยตั้งแต่จำความได้
นี่คือเรื่องราวของ เจมส์ ออดเจอร์ส (James Odgers) หรือที่รู้จักกันดีในโลกออนไลน์กับชื่อ ชิวโบนิก (chewbonic) ในวัย 22 ปี ออกมาเล่าประสบการณ์ผ่าน YouTube : James Chewbonic ว่าเขาเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองป่วยเป็นโรค “จมูกบอด” หลังจากเขาไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านหู คอ จมูก ซึ่งเป็นภาวะที่เรียกกันว่า “ภาวะสูญเสียการได้กลิ่น” (Anosmia)
โดย เจมส์ เล่าว่า ตั้งแต่จำความได้ เขาไม่เคยได้กลิ่นเลย

ภาพประกอบ
กระทั่งในเวลาต่อมา เจมส์ ตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัด เพื่อรักษาภาวะสูญเสียการได้กลิ่น และหวังว่าตนเองจะได้สัมผัสความรู้สึกแบบคนทั่วไป
เจ้าหน้าที่แจ้งเขาว่า มีโอกาสเพียง 15 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่เขาจะได้ประสาทสัมผัสกลิ่นกลับคืนมา
เจมส์ ยอมรับว่า สำหรับเขา โอกาสมันน้อยมากจริง ๆ แต่เขาก็มองโลกในแง่ดี และเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการรักษา

ภาพประกอบ
หลังจากการผ่าตัด ในวันแรกเขาเล่าว่า “แค่หายใจยังยาก ไม่ต้องพูดถึงการได้กลิ่นเลย”
ในวันถัดมา เขาสามารถหายใจได้ตามปกติ แต่ก็ยังไม่ได้กลิ่นใด ๆ และเมื่อผ่านไป 9 วันนับตั้งแต่เขาผ่าตัด ก็ยังไม่มีอาการใด ๆ เกิดขึ้น
หมอบอกว่า ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์ ก็คงต้องยอมแพ้
ตอนนั้น เจมส์ คิดว่า อย่างไรเขาก็คงไม่สามารถได้กลิ่นเหมือนคนอื่นแน่ ๆ แต่ในวันที่ 13 เจมส์เริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงบางอย่างหลังจากตื่นขึ้นมาพร้อมกับรสชาติ “ค่อนข้างแย่” ในปาก ซึ่งเขาอธิบายเพิ่มว่า เขามี “ความรู้สึก” แปลก ๆ ในจมูก

ภาพประกอบ
เพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้คิดไปเอง เจมส์ ได้ฉีดน้ำหอมที่ข้อมือของเขา และก็เกิดสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ คือ เจมส์สามารถตรวจจับกลิ่นนั้นได้
หลังจากนั้น เขาก็ได้ทำยูทูบแสดงการทดลองประสิทธิภาพการดมกลิ่นมากมาย ซึ่งผลการทดลองก็ทำเอาโซเชียลฮือฮา
ตัวอย่างเช่น เขาบอกว่าน้ำยาปรับผ้านุ่มมีกลิ่นคล้ายกับเยลลี่หมี ในขณะที่ แท่งช็อกโกแลต มีกลิ่นเหมือนรอยทางจักรยาน และที่แปลกประหลาดที่สุดก็ คือ เจมส์บอกว่า ยากันยุง “เหมือนของหวาน”
เจมส์ เล่าอีกว่า “มีหลายกลิ่นที่ผมคิดว่าจะชอบ แต่กลับเกลียด และมีหลายกลิ่นที่ผมคิดว่าจะเกลียดแต่กลับชอบ” เช่น อาหารจานโปรดบลูชีส พอได้กลิ่น เขายอมรับ แม้ว่ามันจะเป็นอาหารจานโปรด แต่กลิ่นมันแย่มาก

ภาพประกอบ
ทั้งนี้ เจมส์ ได้ไปทดลองดมกลิ่นจากสระว่ายน้ำ เขาบอกว่า “กลิ่นนี้ไม่เหมือนกับกลิ่นอื่น ๆ ที่เคยดม คือ กลิ่นมันหอมดี มีกลิ่นอุ่น ๆ เหมือนเค็ม แต่ก็เค็มกำลังดี”
เจมส์พูดเสริมอย่างขบขันว่า “ผมเพิ่งค้นพบตอนตัดต่อว่ากลิ่นคลอรีนนั้นเกิดจากปัสสาวะและเหงื่อของมนุษย์ ดังนั้น กลิ่นที่ผมชอบที่สุดก็คือปัสสาวะ โอ้ นี่มันน่าขยะแขยงจริงๆ”
หลังจากผ่าตัดครบ 1 ปี ถึงแม้การได้กลิ่นจะไม่ได้ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่มันก็ “ทำให้ชีวิตสนุกขึ้นมาก”