การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เนชั่นส์ลีก 2018 สนามแรกนัดที่สอง เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ที่สนามพาเลซ ออฟ สปอร์ต เมืองเยคาเตรินเบิร์ก ประเทศรัสเซีย ทีมสาวไทย ทีมอันดับ 16 ของโลก ลงสนามพบ เจ้าถิ่น รัสเซีย ทีมอันดับ 5

โดยเกมนี้ “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมตบสาวไทย ส่งผู้เล่น 6 คนแรก ประกอบด้วย ปลื้มจิตร์ ถินขาว, อรอุมา สิทธิรักษ์, พรพรรณ เกิดปราชญ์, พิมพ์พิชชา ก๊กรัมย์, ปิยะนุช แป้นน้อย, หัตถยา บำรุงสุข

เริ่มเซ็ตแรก สาวไทยเริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม ได้แต่มจากลูกตบหัวเสาของ อรอุมา หลายแต้ม ก่อนจะทำคะแนนออกนำไปก่อน 11-6 จากนั้นเป้นเจ้าถิ่นที่อาศัยความสูงใหญ่ตบทำ 4 คะแนนรวด ไล่ขึ้นมา ตามหลังเพียงแต้มเดียวที่ 11-10 ไทยแก้เกมด้วยการส่ง ชัชชุอร ทำให้เกมบุกของสาวไทยหลากหลายยิ่งขึ้น ได้แต้มจากลูกตบแถวสองหลายคะแนน ทำคะแนนหนีไป 16-11 สาวรัสเซียไม่ยอมง่ายๆ มานูเบส เสิร์ฟได้อย่างดุดัน พาทีมพลิกขึ้นมานำที่ 18-17 กระทั่งโค้ช“โค้ชด่วน” ต้องขอเวลานอกเพื่อแบรกเกม แต่ยังหยุดไม่อยู่ เจ้าถิ่นกลับลงมาตบปิดเซ็ตไปก่อน 25-23

เซ็ตที่สอง สาวไทยออกสตาร์ทได้ดี ได้ลูกเสิร์ฟของ หัตถยา ช่วยทีมทำคะแนนออกนำไปก่อน 7-1 จากนั้นสาวดาวรุ่งไทยทั้ง อัจฉราพร, ชัชชุอร และหัตถยา ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผสมกับบอลเร็วของ ปลื้มจิตร์ ช่วยกันทำแต้มทิ้งห่าง 20-8 รัสเซียพยายามขอดูชาเลน เพื่อเบรคเกมไทย แต่ไม่เป็นผล ไทยออกมาตบเก็บแต้มปิดเซ็ตไปในที่สุด 25-13 กลับมาเสมอที่ 1-1 เซ็ต

เซ็ตที่สาม สาวรัสเซีย กลับมาทำได้ดีอีกครั้ง ทั้งแถวสองและหัวเสา ทำคะแนนนำไปก่อน 9-4 ไทยพยายามแก้เกม ด้วยการบุกที่หลากหลายยิ่งขึ้น ทั้งแถวสอง, ไหลหลัง และหัวเสา แต่ทว่ารัสเซีย ก็ยังคงรับได้อย่างเหนียวแน่น ทำคะแนนหนีไป 17-11 ก่อนจะออกมาปิดเซ็ตนี้ไปด้วยสกอร์ 25-18 รัสเซีย ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 เซ็ต รัสเซียต้องการอีกเซ็ตเดียวเพื่อปิดเกม

เซ็ตที่สี สาวไทยออกมาเล่นได้เหนียวแน่น ทำคะแนนออกนำไปก่อน 9-4 สาวไทยยิ่งเล่นยิ่งมั่ยใจ บอลเร็วของ หัตถยา เริ่มได้ผลทำแต้มขึ้นมา 16-14 จากนั้นเกมบุกของสาวรัสเซีย ช็อตลงไปดื้อๆ ตบไปติดบล็อคของสาวไทยซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ไทยขยับขึ้นไปเป็น 24-22 แต่ทว่าสาวไทยกลับไปพลาดง่ายๆ 2 คะแนนทำให้สาวเจ้าถิ่นได้คะแนนขึ้นมาเท่ากันที่ 24-24 คะแนน ก่อนจะพลิกปิดเกมไปในที่สุด 30-28 เก็บชัยชนะไปได้สำเร็จ

สรุปผลการแข่งขัน ทีมชาติไทย พ่าย ทีมชาติรัสเซีย 1-3 เซ็ต 23-25, 25-13, 18-25, 28-30

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน