ความเคลื่อนไหวทีม รักบี้ ชุดเตรียมเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่อินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 18 ส.ค. – 2 ก.ย. นี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ยังซ้อมเข้มอยู่ที่ สนามหลังโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย โดยมี “สารวัตรต้น” พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ นายกสมาคมกีฬารักบี้ฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เข้าชมการฝึกซ้อมของทีมรักบี้เอเชี่ยนเกมส์ประเภท 7 คนทั้งทีมชายและทีมหญิง และชุดเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ที่เตรียมแข่งศึกชิงแชมป์เอเชีย
ขณะเดียวกันเมื่อช่วงบ่ายได้มีการประชุมบอร์ดบริหารสมาคมรักบี้โดยมี พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ เป็นประธาน ซึ่งการประชุมว่าด้วยเรื่องการพัฒนาวงการรักบี้ 7 คนทีมชาติไทย เพื่อให้เป็นไปในทิศทางตามนโยบายที่กำหนดไว้ และเป็นการพัฒนาศักยภาพนักรักบี้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดไปสู่ระดับสากล
พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ เปิดเผยว่า สมาคมฯได้เตรียมทีมรักบี้ 7 คน ชุดคือ ชุดเตรียมเอเชี่ยนเกมส์ 2018 และทีมรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ซึ่งในเอเชี่ยนเกมส์นั้นทุกคนก็พร้อมอย่างเต็มที่และก็น่าจะพร้อมกันก่อนที่ตนจะรับตำแหน่งนายกสมาคม ในส่วนทีมชายถ้าเป็นระดับอาเซียนก็สามารถสู้ได้แต่พอขยับมาเป็นระดับเอเชียก็อาจจะต้องลุ้นกันยาวๆ อย่างน้อยๆก็ควรจะเอาชนะทีมที่อ่อนชั้นกว่าให้ได้ ส่วนทีมหญิงนั้นเราตั้งเป้าไว้ว่าก็ต้องติดเหรียญเพราะในระดับเอเชียทีมสาวรักบี้ไทยสามารถสู้ได้ทุกทีม
“ได้มีการจัดตั้งบอร์ดพัฒนาขึ้นมาโดยมีตนเป็นประธานเพื่อที่จะหาแนวทางร่วมกันในการพัฒนาวงการรักบี้ไทยให้ไปสู่ระดับสากล และยังมีการกำหนดการเข้าแคมป์ฝึกซ้อมของทีมชาติทั้งชุดเล็กและชุดใหญ่เดือนละ 2 ครั้ง เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการฝึกซ้อมของทีมชาติอีกทั้งยังได้วางแผนร่วมกันวางระบบรักบี้ลีกขึ้นมา และหากรักบี้ลีกถือกำเนิดขึ้นก็จะทำให้นักรักบี้ไทยพัฒนาขึ้นได้อย่างแน่นอน”
ด้าน นายประวิทย์ มนต์เสรีนุสรรณ์ ผู้จัดการทีมชาย เปิดเผยว่า นักกีฬาทุกคนมีความพร้อมสมบูรณ์เต็มที่ หลังฝึกซ้อมมาอย่างหนักโดยตลอด นักปล้ำลูกหนำเลี้ยบชุดนี้ฝึกซ้อมร่วมกันมาไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีแล้ว จึงทำให้ความสัมพันธ์ภายในทีมและความเข้าใจต่างๆไม่น่าเป็นห่วง แน่นอนว่า สายที่เราอยู่จะมีหนักแค่ 2 ชาติคือ ญี่ปุ่น กับ จีน เท่านั้น ส่วนตัวหวังว่า เราจะสามารถเอาชนะ จีน เพื่อผ่านเข้าไปสู่รอบลึกๆและคว้าอันดับติด 1 ใน 5 กลับมาได้
ขณะที่ นายสมรักษ์ มหพรประทาน ผู้จัดการทีมรักบี้ฟุตบอลทีมหญิง เผยว่า นักกีฬามีความตั้งใจเต็มที่ เราเตรียมตัวหนักมาด้วยกันอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาทุกคนได้รับประสบการณ์และทัวร์นาเม้นส์สำคัญต่างๆมาพอสมควร ดังนั้นการเดินทางไปครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่เข้าร่วม ส่วนตัวแอบหวังลึกๆว่า จะคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่งกลับมาได้ ทั้งนี้ทีมของเราอยู่ร่วมสายกับ ญี่ปุ่น, คาซัคสถาน และ อินโดนีเซีย จากการปรึกษากับ นายชวิอรรถ คล่องตรวจโรค หนึ่งในสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย มีความเชื่อมั่นว่า เราจะพยายามเข้าเป็นที่ 2 ของสายด้วยการเอาชนะ คาซัคสถาน ให้ได้ เพื่อตามอันดับ 1 คือ ญี่ปุ่น เพื่อเข้าไปพบกับอันดับ 3 ของอีกสายน่าจะเป็น ฮ่องกง หรือไม่ก็ สิงคโปร์ จากนั้นก็ต้องมาวัดกันในรอบต่อไปว่า นักกีฬายังรักษามาตรฐานได้ดีหรือไม่ หากชนะมาได้อีกก็มีโอกาสที่จะคว้าเหรียญรางวัลกลับมา เพื่อสร้างเป็นประวัติศาสตร์ครั้งที่สองให้กับสมาคมฯ
