ความเคลื่อนไหวทีม “ช้างศึก” ฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งเตรียมลงสนามเกมสุดท้ายของรอบแรก กลุ่มบี พบกับ อุซเบกิสถาน เจ้าของแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ทีมล่าสุด ที่ปากันซารี สเตเดียม ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 19 สิงหาคม เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางเวิร์คพอยท์ทีวี ช่อง 23

โดยทีมชาติไทย รั้งอันดับ 2 มี 2 คะแนน ขณะที่อุซเบกิสถาน เก็บชัยชนะ 2 นัดรวดเก็บ 6 คะแนนเต็ม ผ่านเข้าสู่รอบสองเป็นแชมป์กลุ่มแน่นอนแล้ว ส่วนกาตาร์ และ บังคลาเทศ มีทีมละ 1 คะแนนเท่ากัน แต่ประตูได้-เสีย บังกลาเทศดีกว่า

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย นำลูกทีมลงฝึกซ้อมที่ปาดจาจาราน สเตเดียม ในเมืองโบกอร์ โดยเน้นฟื้นฟูสภาพร่างกายนักเตะ หลังจากที่ต้องลงเล่นวันเว้นวันมาใน 2 เกมที่ผ่านมา ก่อนจะทบทวนแท็กติกเล็กน้อยที่จะใช้กับอุซเบกิสถาน

ภายหลังฝึกซ้อม โค้ชโย่ง กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องยอมรับว่าความกดดันในการลงเล่นนั้นมีอยู่ทุกนัด เพราะเป้าหมายคือการเก็บ 3 คะแนนให้ได้ทุกเกม แต่ก็ต้องบอกว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งสิ้น จริงอยู่ที่การเล่นในแต่ละเกมก็จะมีแท็กติกที่ต่างกันออกไป แต่สิ่งที่ต้องการในเกมนี้คือ 3 คะแนน และยังหวังจะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปได้อยู่

“สำหรับทีมอุซเบกิสถานนั้น สไตล์การเล่นจะคล้ายๆ ทีมในยุโรป เป็นพวกที่เสียบอลยาก ดังนั้นเกมนี้จะสามารถออกได้ 3 หน้าแน่นอน อย่างไรก็ตามเป้าหมายของทีมไทยคือต้องการเอาชนะให้ได้ เพื่อที่จะผ่านเข้าสู่รอบสองให้ได้ ดังนั้นเกมนี้จะเดินหน้าอย่างเดียวเท่านั้น” วรวุธ กล่าวปิดท้าย

สำหรับ 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม ผู้รักษาประตู นนท์ ม่วงงาม / กองหลัง (ขวาไปซ้าย) รัตนากร ใหม่คามิ, ชินภัทร์ ลีเอาะ, ศฤงคาร พรมสุภะ, ชัยวัฒน์ บุราณ / กองกลาง นพพล ผลคำ, สรรเสริฐ ลิ้มวัฒนะ, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ / กองหน้า สุภโชค สารชาติ, เจนรบ สำเภาดี, ธนาสิทธิ์ ศิริผลา

ส่วนสถิติที่ผ่านมาระหว่างทีมชาติไทยกับอุซเบกิสถานในเอเชี่ยนเกมส์ เคยเจอกันมาครั้งเดียวคือปี 1994 ที่ฮิโรชิม่า ในรอบแบ่งกลุ่ม ไทย แพ้ อุซเบกิสถาน 4-5 เกมนั้นไทยได้ประตูจาก สมฤทธิ์ อ่อนสมจิตร 2 ประตู, สุชิน พันธ์ประภาส และธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ซึ่งปี 1994 เป็นครั้งสุดท้ายที่ไทยตกรอบแบ่งกลุ่ม

สำหรับกฎการเข้ารอบ 2 ของฟุตบอลชายเอเชี่ยนเกมส์ นั้น ทีมที่ได้อันดับ 1-2 ของกลุ่ม จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไปทันที ขณะที่ทีมอันดับที่ 3 ที่ดีที่สุดจากอีก 4 กลุ่มจะได้ผ่านเข้ารอบเช่นกัน โดยถ้าหากว่ามีทีมที่ได้คะแนนเท่ากัน จะวัดกันที่เฮดทูเฮดก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนจะวัดที่ประตูได้เสีย, ประตูได้

ส่วนการวัดอันดับ 3 ที่ดีที่สุด สำหรับกลุ่มที่มี 5 ทีมนั้น จะตัดผลการแข่งขันกับทีมอันดับสุดท้ายของกลุ่มออก ก่อนจะมานับคะแนนอีกครั้ง และถ้าหากคะแนนเท่ากัน จะวัดที่ประตูได้เสีย, ประตูได้, คะแนนแฟร์เพลย์ ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน