ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากจบการแข่งเอเชียนเกมส์ ที่ทีมเทควันโดไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้ามาได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญทองแดง และทางสมาคมได้ปล่อยให้นักกีฬาได้พักผ่อนประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะเรียกตัวมาฝึกซ้อมต่อเพื่อเตรียมทีมสู้ศึกใหญ่อีกหลายรายการ ซึ่งในเดือนนี้มีรายการสำคัญอีก 1 รายการคือ เทควันโด เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ที่เมืองเถาหยวน ประเทศไต้หวัน ระหว่างวันที่ 16-22 กันยายน
โดยสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย เตรียมส่ง 5 นักเทควันโด ประเภทต่อสู้ ร่วมชิงชัย ประกอบด้วย ”เทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ เจ้าของเหรียญทองเอเชียนเกมส์คนล่าสุด รุ่น 49 กก.หญิง กับ “มิ้นท์” นภาพร จรณวัต “จูเนียร์” รามณรงค์ เสวกวิหารี กับ “เทม’” เทวินทร์ หาญปราบ รุ่น 58 กก.ชาย และ ”นก” พรรณภา หาญสุจินต์ รุ่น 57 กก.หญิง ซึ่งมี เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเกาหลีใต้ กับ ”เล็ก” ชนาธิป ซ้อนขำ สตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย ควบคุมทีมไปแข่งขัน
”การแข่งขันเทควันโด รายการ ”เถาหยวน 2018 เวิลด์ เทควันโด กรังด์ปรีซ์” ถือเป็นรายการเก็บคะแนนสะสมจัดอันดับโลก รายการที่ 3 ของปีนี้ ซึ่งมีผลต่อการจัดอันดับโลกเพื่อคว้าโควตาไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยทุกรุ่นจะคัดเอาอันดับ 1-6 ของโลกไปแข่งโอลิมปิก โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องไปคัดเลือกตามโซนทวีปต่างๆ ซึ่งตอนนี้ มีเพียง พาณิภัค คนเดียวที่มีคะแนนเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยมีนักเทควันโดจากเกาหลีมีคะแนนจ่อก้นเราอยู่ ทำให้ เทนนิส ต้องทำผลงานให้ดีในรายการนี้ ส่วน นภาพร อยู่อันดับ 25 ของโลก ขณะที่ รามณรงค์ มีคะแนนอยู่อันดับ 10 ของโลก ถ้ารายการนี้ติด 1 ใน 3 อันดับจะพุ่งขึ้นทันที ส่วน เทวินทร์ อันดับอยู่ที่ 12 มีโอกาสติด 1 ใน 6 เช่นกัน และ พรรณภา อยู่อันดับ 31 ของโลก คงต้องไปแข่งขันเพื่อทำอันดับให้ดีขึ้น เพราะยังมีเวลาอีก 2 ปีก่อนถึงโอลิมปิกเกมส์” พิมล กล่าว
”บิ๊กเอ” นายกเทควันโดไทย ยังกล่าวต่ออีกว่า การเตรียมทีมไปแข่งขัน เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ รายการนี้ นักกีฬาทุกคนอาจไม่สมบูรณ์เต็ม 100 เพราะทุกคนเหน็ดเหนื่อยมาจากการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ แต่ตนก็ยังเชื่อว่า จอมเตะชุดนี้ จะต้องสร้างผลงานที่ดีกลับมาได้อย่างแน่นอน โดยสมาคมตั้งเป้า 1 เหรียญทอง ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่า ศักยภาพนักกีฬาทุกคนสามารถนำความสำเร็จมาฝากคนไทยได้อย่างแน่นอน
