ราเยวัชยันหากมีเวลาเตรียมพอทีมไทยไม่กลัวชาติใด ความเคลื่อนไหวทัพ “ช้างศึก”ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ซึ่งกำลังลงแข่งขันป้องกันแชมป์ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018” หลังจากที่ประเดิมสนามสุดหรูด้วยการเปิดราชมังคลากีฬาสถาน ถล่มเอาชนะติมอร์ เลสเตไปแบบขาดลอย 7-0 ในเกมดังกล่าวเป็นการทำสถิติใหม่ในวงการลูกหนังไทยของ

“กอล์ฟ”อดิศักดิ์ ไกรษร ดาวยิงทีมชาติไทย ที่ซัดดับเบิลแฮตทริก ยิงคนเดียว 6 ประตู ขึ้นแท่นเป็นนักเตะไทยที่ยิงประตูต่อ 1 เกมได้มากที่สุด ทุบสถิติเดิมที่มีคนทำได้ต่อ 1 นัด มากที่สุดคือ 4 ประตู ได้แก่ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, รณชัย สยมชัย, รุ่งเพชร เจริญวงศ์, พัฒนพงษ์ ศรีปราโมช และเกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ส่วนอีกหนึ่งประตูในเกมนี้ได้มาจาก “อาร์ม” ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าดาวรุ่งที่ลงมาเป็นตัวสำรอง ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 พ.ย. มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้นำลูกทีมลงฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน สุวรรณภูมิ โดยเป็นการฟื้นฟูสภาพร่างกายของนักเตะที่เพิ่งลงสนามไป และทบทวนแท็กติกกับผู้เล่นสำรองเล็กน้อย ก่อนจะปล่อยให้ทีมพักไม่มีการฝึกซ้อมในวันที่ 11 พ.ย.

ราเยวัชเปิดเผยว่า ผลงานในเกมกับติมอร์ เลสเต คือการยืนยันในสิ่งที่เคยบอกมาเสมอว่าการเตรียมทีมชาติไทยต้องใช้เวลา ถ้าหากว่ามีเวลาในการเตรียมทีมมากๆ จะไม่ต้องกังวลอะไร สามารถพัฒนาทีมชาติไทยและสร้างรูปแบบการเล่นที่หลากหลายในแบบที่ตัวเองต้องการได้ ไม่ว่า 11 คนที่ลงสนามจะเป็นใคร เชื่อว่าจะทำผลงานออกมาได้ดีอย่างแน่นอน “หลังจากวันนี้ก็จะต้องเตรียมตัวสำหรับการลงเล่นนัดต่อไปกับอินโดนีเซีย เพราะเกมที่สำคัญที่สุดสำหรับตัวเองคือเกมต่อไป ตอนนี้ต้องโฟกัสในการเจอกับอินโดนีเซีย วางแผนอย่างระมัดระวังและทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด”

ด้านอดิศักดิ์ ฮีโร่ของทีมในเกมแรก กล่าวว่า ดีใจกับชัยชนะของทีมตามที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ และเซอร์ไพรส์เหมือนกันที่ทำได้ถึง 6 ประตู เพราะจริงๆ ตั้งเป้าแค่มีส่วนร่วมกับเกมให้มากที่สุด หลังจากก่อนหน้านี้บาดเจ็บไป 8-9 เดือนด้วยกัน มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกลับมาได้ ต้องขอบคุณโค้ชที่ไว้วางใจ และทุกๆ กำลังใจที่มีให้กัน “การลงเล่นเกมกับติมอร์ เลสเต คิดว่าเหมือนเป็นการเริ่มต้นก้าวแรก ก้าวใหม่ของตัวเอง พยายามตั้งใจเล่นอย่างเต็มที่และทุกคนก็ช่วยกันจนทำให้มีประตูมากมาย หลังจากนี้ก็จะมองไปข้างหน้า พยายามทำประตูให้ได้ต่อเนื่อง”

อดิศักดิ์กล่าวอีกว่า ตัวเองไม่ได้คิดถึงเรื่องของการทำสถิติใดๆ พยายามโฟกัสไปยังเกมต่อไปแล้ว รับมือกับแรงกดดันที่จะมากขึ้น เพราะทุกคนจะคาดหวังประตูจากตนแน่นอน แต่ก็จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือชัยชนะของทีม โดยสรุปตารางคะแนนในกลุ่มบี ทีมไทยนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มมี 3 คะแนน เท่ากับสิงคโปร์ แต่ประตูได้เสียดีกว่า นัดต่อไปของทีมชาติไทยจะเปิดราชมังคลากีฬาสถานรับการมาเยือนของอินโดนีเซีย ในวันที่ 17 พ.ย. เวลา 18.30 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน