‘ชุมพร’สุดเฉียบกวาดเหรียญทองวิ่ง 100 เมตร ทั้งชาย และหญิง ขณะที่ “โอ๊ต” ภาสพงษ์ อ่ำสำอางค์ เจ้าของเหรียญทองแดงกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ค้ำทุบสถิติประเทศไทย “เจียงฮายเกมส์”
การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่46 “เจียงฮายเกมส์” ที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 21 พ.ย.61 วันที่ 3 ของการชิงชัยอย่างเป็นทางการ
กรีฑา แข่งขันวันแรก ที่สนามกีฬากลาง ชิง 12 ทอง ไฮไลท์อยู่ที่ชิงเจ้าลมกรด ประเภทวิ่ง 100 เมตร ปรากฏว่า นักวิ่งจากชุมพร ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม กวาดทั้ง 2 เหรียญทอง ชาย และหญิง เริ่มจาก 100 ชาย ซึ่งแชมป์เก่า 3 สมัย “มิ้ว” จิระพงศ์ มีนาพระ ไม่ได้ลงแข่งเนื่องจากติดโทษแบน กลายเป็นโอกาสของ “ทาย” กฤษฎา นามสุวรรณ จากชุมพร เจ้าของเหรียญทอง ผลัด 4×100 เมตร ซีเกมส์ 2017 วิ่งเข้าเส้นชัยคนแรก ด้วยเวลา 10.52 วินาที และเป็นการกลับมาคว้าแชมป์ในรอบ 4 ปี ตามมาด้วย บัณฑิต ช่วงไชย จากปราจีนบุรี สถิติ 10.67 วินาที แเหรียญทองแดง ชยุตม์ คงประสิทธิ์ จากนนทบุรี สถิติ 10.68 วินาที
ขณะที่เจ้าลมกรดสาว วิ่ง 100 เมตรหญิง “ลูกกบ” สุภาวรรณ ธิปัตย์ จากชุมพร แชมป์เก่าสงขลาเกมส์ วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 11.99 วินาที ป้องกันแชมป์ไว้ได้เป็นสมัยที่ 2 สเหรียญเงิน อลิสา (ทัศพร) วรรณกิจ จากบุรีรัมย์ สถิติ 12.08 วินาที เหรียญทองแดง อรอุมา เชษฐา จากชัยภูมิ สถิติ 12.10 วินาที
กฤษฎา เจ้าลมกรดคนใหม่ เปิดใจว่า ครั้งนี้สถิติยังถือว่าไม่ดี เนื่องจากออกมาซ่้อมเอง ไม่ได้ซ้อมอยู่กับสมาคม เพราะต้องดูแลภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามดีใจที่สามารถคว้าเหรียญทองได้สำเร็ว เหรียญทองเหรียญนี้จะมอบให้ลูกชายที่กำลังจะคลอดในเดือนหน้า ทั้งนี้การไม่มีรุ่นพี่ๆทีมชาติที่ถูกแบนไปอย่างพี่มิ้ว(จิระพงศ์ มีนาพระ) แชมป์เก่า 3 สมัย และคนอื่นๆ ทำให้การแข่งขันเข้มข้นน้อยลงไป ซึ่งถ้าพวกเขากลับมากันครบก็น่าจะสนุกกว่านี้แน่นอน”
ด้าน สุภาวรรณ เปิดใจว่า ก่อนแข่งตั้งสถิติไว้ 12 วินาที แต่เวลาที่ออกมาถือว่าดีกว่า พอใจมากที่สามารถคว้าเหรียญทองได้เป็นสมัยที่ 2 อย่างไรก็ตาม ปีนี้ยังเหลืออีก 3 รายการ คือ 200 เมตร, 4×100 เมตร และ 4×400 เมตร ตั้งเป้าคว้าเหรียญทองให้ได้ อีก 2 ทองเป็นอย่างน้อย ส่วน 4 x400 เมตรคงต้องลุ้นอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ในการแข่งขันครั้งหน้าจะกลับไปเล่นให้สุราษฎร์ธานี บ้านเกิด เนื่องจากเรียนจบแล้ว
ขณะที่ กระโดดค้ำ ชาย “โอ๊ต” ภาสพงศ์ อ่ำสำอาง เจ้าของเหรียญทองแดงกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ยังรักษาฟอร์มอันร้อนแรง ทำสถิติได้ 5.55 เมตร ทุบสถิติทั้งประเทศไทย 5.50 เมตร ของตัวเองที่ทำไว้ที่เอเชี่ยนเกมส์ และกีฬาแห่งชาติ 5.24 เมตร ของกรีฑา สินธวาชีวะ ที่ทำไว้เมื่อปี พ.ศ.2555 ที่เชียงใหม่ คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จ ส่วนเหรียญเงิน ปรณต ภู่ระหงษ์ จากกทม. สถิติ 5.20 เมตร และเหรียญทองแดง กรีฑา สินธวาชีวะ จากมุกดาหาร สถิติ 5.20 เมตร
หลังแข่งขัน ภาสพงษ์ กล่าวว่า สถิติที่ทำวันนี้เป็นไปตามที่ตั้งใจเอาไว้ว่าอยากทำสถิติใหม่ประเทศไทย ซึ่งก็ทำได้ตามที่ซ้อมมา อยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่ากีฬานี้สนุกและน่าเล่น อยากให้คนมาเล่นกันมากขึ้น ส่วนในปีหน้าก็จะมีทั้งรายการชิงแชมป์เอเชีย และซีเกมส์ สถิติตอนนี้ยังไม่ถึงเหรียญทองแต่จะพยายามทำขึ้นไปให้ได้
ส่วนผลประเภทอื่นๆ (เฉพาะทอง) วิ่ง 10,000 ม. หญิง ลินดา จันทะชิด (หนองคาย) 38.39.50 นาที, วิ่ง 10,000 ม. ชาย ณัฐวุฒิ อินนุ่ม (ชลบุรี) 31.23.79 นาที, ขว้างจักร ชาย ณรงค์ เบ็ญจรูณ (กาฬสินธุ์) 47.70 ม., ขว้างจักร สุเบญรัตน์ อินแสง (สุราษฎร์ธานี) 55.33 ม., กระโดดไกล ชาย ชัยยา สุขขา ( ตรัง) 7.39 ม., วิ่ง 400 เมตร หญิง ศุภานิช พูลเกิด (กทม.) 56.61 วินาที, วิ่ง 400 ม.ชาย ณัฐพงษ์ คงกระพัน (กทม.) 46.74 ม., วิ่งผลัด 3×800 ม. หญิง สุราษฎ์ธานี (ภัทราวรรณ จันพลโท, จุฑามาศ โขนขำ, ดวงฤดี จันรอด), วิ่งผลัด 3 x 800 เมตร ชาย นนทบุรี ( จิรายุ ปลีนารัมย์, จุลจักร ดิษฐบรรจง, นนทวัฒน์ บัวสำอางค์)
