รำลึก 2 ตำนานทีมชาติไทย “ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน” สร้างเกียรติประวัติ ติดทีมยอดเยี่ยมเคลีก อีก 33 ปีต่อมา “ชนาธิป สรงกระสินธ์” ต่อยอดความยิ่งใหญ่ ติดทีมยอดเยี่ยมเจลีกอย่างกระหึ่มกึกก้อง

ย้อนอดีตความยิ่งใหญ่ของ“เดอะตุ๊ก”ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนาน“เพชฌฆาตหน้าหยก”สุดยอดดาวยิงตลอดกาลของทีมชาติไทย

เมื่อครั้งค้าแข้งในลีกสูงสุดของเกาหลีใต้ กวาดรางวัลมากมาย แชมป์ลีกสูงสุด, ดาวซัลโว, ทีมยอดเยี่ยมของฤดูกาล และนักเตะผู้ผ่านบอลยอดเยี่ยม

ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานดาวยิงทีมชาติไทย เจ้าของฉายา “เพชฌฆาตหน้าหยก” ถือเป็นผู้เล่นตำแหน่งศูนย์หน้าพรสวรรค์สูงที่ดีที่สุดเท่าที่เมืองไทยเคยมีมา

นอกจากทำประตูมากมายให้กับกองทัพอากาศ สโมสรต้นสังกัดที่สร้างชื่อขึ้นมา และทีมชาติไทยที่ลงสนามรับใช้ชาตินานกว่าสิบปีอย่างชนิดถล่มทลายแล้ว

ปิยะพงษ์ ยังสร้างตำนานยิ่งใหญ่ เป็นนักฟุตบอลไทยคนแรกที่ได้ไปค้าแข้งในลีกสูงสุดของเกาหลีใต้ โดยสโมสรลักกี้โกลด์สตาร์ (ปัจจุบันคือเอฟซีโซล) ของ เค-ลีก เกาหลีใต้ ทาบทามไปร่วมทีมระหว่างปี 1984-1986

ปิยะพงษ์โชว์ความเป็นเพชฌฆาตหน้าหยก โดยเฉพาะฤดูกาล 1985 ถือเป็นปีทองของแข้งดังจากนครปฐม นอกจากมีส่วนช่วยลักกี้โกลด์สตาร์ คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของเกาหลีใต้ ยังติดทีมยอดเยี่ยมของฤดูกาล รวมทั้งคว้ารางวัลดาวซัลโวและผู้ผ่านบอลยอดเยี่ยมมาครอง ด้วยผลงาน 12 ประตู 6 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 21 นัด

ปัจจุบัน ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน อายุ 59 ปี ยังคงอยู่ในวงการฟุตบอล ทั้งในฐานะทูตกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้บรรยาย ฯลฯ

“เจ”ชนาธิป สรงกระสินธ์ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักฟุตบอลไทยคนแรกที่ติดทีมยอดเยี่ยมลีกสูงสุดของญี่ปุ่น หรือเจลีก ประจำฤดูกาล 2018

ต่อยอดตำนานนักเตะไทยเกรียงไกรในต่างแดน ต่อจาก“เดอะตุ๊ก”ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานดาวยิงตลอดกาลทีมชาติไทย ที่เคยคว้ารางวัลมากมายสมัยค้าแข้งกับลักกี้-โกลด์สตาร์ (ปัจจุบันคือเอฟซีโซล) ในลีกสูดสุดของเกาหลีใต้ เมื่อ 33 ปีก่อน ตั้งแต่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเกาหลี, รางวัลดาวซัลโว, ติดทีมยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล และรางวัลผู้ผ่านบอลยอดเยี่ยม

ประวัติ เจ-ชนาธิป นักเตะเล็กพริกขี้หนูชาวนครปฐม วัย 25 ปี เริ่มมีชื่อเสียงจากการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่วินเฟรด เชเฟอร์ กุนซือเยอรมัน เรียกติดทีมชาติไทยชุดเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012

ปีนั้นทีมชาติไทยได้รองแชมป์ สองปีต่อมาต่อเนื่องถึงปี 2016 ทีมชาติไทยครองแชมป์ 2 สมัยติดต่อกัน ชนาธิปได้รางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมทั้งสองครั้ง

ชนาธิปเป็นกำลังสำคัญคว้าเหรียญทองซีเกมส์ 2013 ที่พม่า และซีเกมส์ 2015 ที่สิงคโปร์ รวมถึงอันดับ 4 เอเชียนเกมส์ 2014 ที่เกาหลีใต้

ชนาธิปโชว์ฝีเท้าในสังเวียนลูกหนังเมืองไทยจนเข้าตาคอนซาโดเล ซัปโปโร ทีมในเจลีก วันที่ 20 มิ.ย.2559 ได้ไปเล่นในลีกสูงสุดของญี่ปุ่น คอนซาโดเล ซัปโปโรทำสัญญายืมตัวจากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ก่อนจะซื้อตัวถาวรในฤดูกาลต่อมา

ปีแรกในญี่ปุ่น ชนาธิปต้องต่อสู้อย่างหนักกับการใช้ชีวิตและค้าแข้งในต่างแดน แต่ด้วยความมานะพยายามไม่มีท้อแท้ ชนาธิปแสดงฝีเท้าโชว์ความเก่งกาจนัดแล้วนัดเล่า จนเพื่อนร่วมทีมโหวตให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของสโมสร ประจำฤดูกาล 2018

ยิ่งไปกว่านั้น ชนาธิปยังช่วยทีผงาดคว้าอันดับ 4 ซึ่งเป็นอันดับดีที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ทั้งๆที่ปีที่แล้วยังต้องดิ้นรนหนีตกชั้น จึงได้รับการยกย่องจากนักเตะทั่วทั้งญี่ปุ่น โหวตให้ติดทำเนียบทีมยอดเยี่ยมของเจลีก ฤดูกาล 2018 อย่างยิ่งใหญ่

ถือเป็นนักฟุตบอลไทยคนแรกที่สร้างความสำเร็จบนสังเวียนลูกหนังประเทศญี่ปุ่น กรุยทางให้นักเตะรุ่นหลังได้มีแรงบันดาลใจออกมาท้าทายในต่างแดน

ชนาธิปลงเตะให้คอนซาโดเล 27 เกม รวม 2,369 นาที ยิงไปทั้งสิ้น 7 ประตู จากโอกาส 40 ครั้ง หากนับเฉพาะผลงานในบ้าน ลงเตะ 10 นัด รวม 869 นาที ยิง 3 ประตู

ด้วยฝีเท้าอันโดดเด่น และความสำเร็จที่หลั่งไหลเข้ามา ปัจจุบันถ้ามีการย้ายทีมคาดว่าค่าตัวของชนาธิปจะมากกว่า 200 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน