เมื่อ 26 ก.ย.ที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ รัชดา นักฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่เดินทางมารายงานตัวเพื่อเตรียมเดินทางไปแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นัดที่ 3 และ 4 กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) ที่ยูเออี และกับอิรัก ที่สนามกลางประเทศอิหร่าน โดยมี”บิ๊กเจี๊ยบ”พล.ต.ท. พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ, ขจร เจียรวนนท์ ผู้จัดการทีม และ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอน รอต้อนรับ
บิ๊กเจี๊ยบกล่าวว่า ในส่วนของสมาคมได้เตรียมความพร้อมให้กับทีมงานไว้แล้วด้วยการส่งฝ่ายต่างประเทศเดินทางไปยูเออีล่วงหน้า 2 วันก่อนการแข่งขัน เพื่อประสานเรื่องที่พัก รถรับ-ส่ง รวมทั้งสนามฝึกซ้อมของทีมชาติไทยให้พร้อมที่สุด ดังนั้นครั้งนี้นักเตะและทีมงานจะได้รับความสะดวกสบายกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมาแน่นอน
ด้านนายขจร กล่าวว่า ประสบการณ์จากเกมแรกที่ไทยออกไปเยือนซาอุดีอาระเบีย มีเรื่องต้องปรับปรุงหลายอย่างเพื่อให้นักเตะพร้อมมากที่สุด ซึ่งครั้งนี้ได้เตรียมยาที่ช่วยให้นักเตะหลับง่ายและหลับนานขึ้น เพราะนัดแรกหลายคนนอนไม่เต็มที่ ตื่นตั้งแต่ตีสี่ บางคนหลับไม่สนิท ครั้งนี้น่าจะเปลี่ยนไปเพื่อให้ทุกคนมีความที่สุด เช่นเดียวกับการเดินจากสนามซ้อมกลับที่พักจะใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง พร้อมทั้งเตรียมโปรตีนให้นักกีฬากินเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
ขณะที่”ซิโก้”กล่าวกับนักเตะลูกทีมว่า “เราออกสตาร์ตด้วยการแพ้สองเกม บางคนอาจจะรู้สึกเสียใจกับสองเกมที่ผ่านมา หลายคนอาจจะกังวลว่าเราล้มเหลวไหม ที่ผ่านมาพี่ก็ทำงานกับทุกสโมสร ขอความอนุเคราะห์ เราอยากเห็นทีมชาติเดินหน้า ทางสโมสรก็ไม่ได้ปิดกั้น สโมสรยินดีที่จะปล่อยตัวพวกเรามา คิดว่านักเตะที่เลือกมาคือนักเตะที่ดีที่สุด ใน 23 คน ผมต้องการใจเป็นอย่างแรก เราจะมีแท็คติกที่ดี แต่ถ้าไม่มีใจอยากจะเล่น มันคงไปไม่ได้”
“เราทุกคนเหนื่อย เราติดตามทุกคนตลอดเวลา แปดเกมที่เหลือเรายังคิดว่าจะเอากี่แต้ม แต่เราต้องลืมมันไป เพราะเคยบอกแล้วว่า จุดแข็งของทีมชาติไทยคือการเล่นโดยไม่มีความกดดัน เราต้องถามตัวเองว่า เราล้มเหลวไหม เรามาไกลแล้ว ไม่มีใครที่เดินทางไกลและอยากล้มเหลว ถึงวันนี้เรากำลังไประดับเอเชีย ล้มเหลวคือการเริ่มที่ 1 ใหม่ แต่วันนี้เราไม่ได้เริ่มต้นใหม่ ตอนนี้เรามาเริ่มที่ 6 แล้วเราไม่ได้ล้มเหลว ถ้าเราไปแบบไม่มีใจ เล่นให้จบ ผมไม่อยากให้คิดอย่างนั้น เราต้องทำให้แฟนบอลเห็น ทำให้ทุกคนที่สนับสนุนเรา ไม่ว่าจะเป็นสมาคมฯ ที่ช่วยเหลือเรื่องการเดินทาง เราเห็นแล้วว่าเราสบายตัวขึ้น แต่ผลมันยังไม่ดี เมื่อผลยังไม่ดีเราต้องช่วยกันทำ”
“แน่นอนว่าเป้าหมายของเราคือการได้ 4 คะแนนกลับออกมาจากสองนัดนี้ แม้ว่าจะเป็นงานยากเพราะทีมอย่างยูเออีเคยบุกไปเอาชนะญี่ปุ่น รวมทั้งอิรักเองตอนนี้รู้จักทีมชาติไทยมากขึ้น เขาจะไม่ประมาทเราเหมือนการเจอกันที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีเมื่อมีโอกาสแล้วเราย่อมต้องตั้งความหวัง ส่วนเรื่องผู้ตัดสินในสนาม ผมยอมรับว่าการเล่นเป็นทีมเยือน เราเสียเปรียบแน่นอน แต่ผมไม่อยากให้ทุกคนมองไปที่จุดนั้น เราต้องมองตัวเองก่อนว่าเตรียมพร้อมได้ดีมากน้อยเพียงใด เราจะทำหน้าที่ของเราในสนามให้ดีที่สุด การตัดสินของกรรมการในสนาม เราไม่สามารถทำอะไรได้”
“หลังจากเดินทางเดินทางถึงยูเออีช่วงกลางดึกคืนนี้รุ่งเช้าเราจะเริ่มทำการฝึกซ้อมทันที โดยคาดว่าจะมีเกมอุ่นเครื่องกับสโมสรอาชีพของยูเออีสักแมตช์ แต่ทั้งนี้ต้องดูความฟิตของนักเตะเราด้วยเพราะทุกคนเพิ่งผ่านเกมหนักมาจากสโมสร ดังนั้นเรื่องความสมบูรณ์ของผู้เล่นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากนักเตะเราพร้อมอาจมีเกมอุ่นเครื่อง หากผู้เล่นยังอ่อนล้าเราอาจยกเลิก เนื่องจากทุกคนมีแมตช์กับสโมสรมาตลอดอยู่แล้ว”
“ส่วนเรื่องสภาพอากาศตอนนี้เท่าที่ผมและทีมงานได้ศึกษามาไม่ถือว่าร้อนมากอยู่ราวๆ 22 องศาเซลเซียส และอาจลดต่ำลงไปถึง 17-18 องศา ถือว่าดีกว่าเมื่อครั้งไปเล่นที่ซาอุดีอาระเบีย แต่ทั้งนี้ได้กำชับน้องๆ นักเตะทุกคนว่ารักษาความอบอุ่นของร่างกายให้ดี ห้ามไม่ให้ป่วยจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเด็ดขาด เพราะสองเกมนี้สำคัญอย่างมากต่อโอกาสของไทยในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก” นายใหญ่ช้างศึกกล่าว
ทั้งนี้ทีมชาติไทยจะเดินทางไปประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 26 ก.ย. เวลา 18.20 น. มีกำหนดถึงที่หมายราวๆเวลา 23.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นวันรุ่งขึ้นจะทำการฝึกซ้อมทันที
