สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ(ไอดับเบิ้ลยูเอฟ) พิจารณาเพิ่มรุ่นน้ำหนักในการแข่งขันยกน้ำหนักฝ่ายหญิงจาก 7 เป็น 8 รุ่นสูงสุดที่พิกัดมากกว่า 90 ก.ก.หญิง ในการประชุมสหพันธ์ ที่ปักกิ่ง เมื่อเร็วๆนี้ โดยแต่เดิมยกน้ำหนักหญิงมีพิกัดสูงสุดที่มากกว่า 75 ก.ก.หญิง แต่จากการพิจารณาล่าสุดมีมติเพิ่มเป็น 8 รุ่นเทียบเท่าฝ่ายชาย โดยจะแข่งขันในรุ่นต่ำกว่า 48 ก.ก., 53ก.ก., 58 ก.ก., 63 ก.ก., 69 ก.ก., 75 ก.ก., 90 ก.ก. และ มากกว่า 90 ก.ก. หลังคณะกรรมการฝ่ายยกน้ำหนักหญิงพยายามผลักดันเรื่องนี้โดยทำงานร่วมกับฝ่ายแพทย์ และทีมวิจัยมาเป็นเวลานาน โดยจะเริ่มใช้อย่างเป็นทางการในปี 1 ม.ค. 2017 ส่วนยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 3 ที่บูโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่าในปี 2018 จะแข่งขันเพียง 6 รุ่นน้ำหนัก(ชาย 6 หญิง6)
“เสธ.ยอด” พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ และรองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ เผยว่า ถามว่ามีผลต่อจอมพลังทีมชาติไทยในรายการนานาชาติมากน้อยอย่างไร ก็ต้องบอกว่าเรามีนักกีฬาในรุ่นน้ำหนักนี้อยู่ส่วนหนึ่ง ซึ่งก็มีฝีมืออยู่หลายคน แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อโอกาสให้เปิดกว้างกว่าเดิม ที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงกรณีที่เมื่อจอมพลังยกน้ำหนักเหล็กได้เท่ากัน แต่เดิมจะให้นักกีฬาที่น้ำหนักตัวน้อยกว่า ได้อันดับดีกว่า ทว่าจากนี้หากยกได้เท่ากัน อาจให้อันดับเท่ากันไปเลย เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้นักกีฬามากขึ้น อาจจะครอบคลุมในส่วนของเหรียญเงิน และเหรียญทองแดง เท่านั้น อาจจะยกเว้นแค่เหรียญทองที่อาจต้องใช้น้ำหนักตัววันกัน กรณีที่ยกได้เท่ากัน เหมือนเช่นกีฬาชนิดอื่น อย่าง กระโดดสูง หรือ ค้ำถ่อ ในกรีฑาประเภทลาน ซึ่งก็จะได้มีการศึกษาถึงความเป็นไปได้อีกครั้ง” พล.ต.อินทรัตน์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน