ปิดตำนานโคตรเซียน “ตึ๊ก โคราช” วัย 86 ปี จารึกผลงานแชมป์เหรียญทองแรกในประวัติศาสตร์ทัพสอยคิวไทยในเอเชี่ยนเกมส์ ด้วยวัยมากที่สุดของนักกีฬาไทย

“ตึ๊ก โคราช” มงคล (ชื่อเดิม เรวัต) กั้นฝากลาง หรือ “เซียนตึ๊ก” หรือ “เซียนติ๊ก หน้าดำ” นักสอยคิวรุ่นบุกเบิก เจ้าของเหรียญทองเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 14 ปี พ.ศ.2545 หรือ ค.ศ.2002 ที่ประเทศเกาหลีใต้ เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน พ.ศ.2559 ที่ผ่านมา ด้วยวัย 86 ปี แต่ในบัตรประชาชนระบุไว้ว่าอายุ 80 ปี

โดย “ปู่ตึ๊ก” ได้ลื่นล้มเมื่อ 3 เดือนก่อน ก็เลยลุกไม่ได้ และมีแผลที่ขา ทำให้แผลติดเชื้อ ก่อนจะเสียชีวิตลง ซึ่งก่อนหน้านี้เจ็บป่วยหลายอย่าง อาทิ ถุงลมโป่งพอง, ความดัน โลหิต รวมไปถึงที่ขาเป็นเส้นเลือดขอดทั้งสองข้าง ทั้งนี้ตั้งศพสวดพระอภิธรรมที่วัดพิชัย แยกนิด้า ศาลา 1

สำหรับผลงานของ “ปู่ตึ๊ก” ที่โด่งดังก็คือ เป็นแชมป์ประเทศไทย 1 สมัย และคว้าเหรียญทองบิลเลียด ประเภทคู่ กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 14 โดยเล่นกับ “รมย์ สุรินทร์” ประพฤติ ชัยธนสกุล ด้วยการคว่ำ กิ๊ท เสทฐี กับ อล็อก กุมาร ของอินเดีย ในนัดชิงที่บูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ปี 2002 นับเป็นเหรียญทองเหรียญแรกที่ทีมบิลเลียดสปอร์ตไทย ทำได้ในการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ และ “ปู่ตึ๊ก”ทำสถิติอายุมากที่สุดที่ได้เหรียญด้วยวัย 72 ปี อีกด้วย และดังระดับประเทศเมื่อแต่งงานกับหญิงสาวชาวพม่าคราวลูกวัย 18 ปี ทำให้ทีวีและสื่อต่าง ๆ ทำข่าวกันอย่างมากมายในยุคนั้น รวมถึง ปู่ตึ๊ก ยังเคยเป็นโค้ชทีมชาติไทยหลายสมัย

โดยในยุคการเป็นนักกีฬาของปู่ตึ๊ก ถือว่าเป็นยุคบุกเบิกของวงการนั่นคือการเดินสาย และถือเป็นยุคสุดท้ายของการใช้คำว่า “เซียน” นำหน้าชื่อ ยุคนั้นมีเซียนดังมากมาย อาทิ เซียนกิ๊ด นครสวรรค์, เซียตา ลพบุรี, เซียนเง็ก อ่างทอง, เซียนเก๊า ฟันดำ, เซียนดำ ศรีราชา, เซียนเอ็ง บ้านใหม่, เซียนฮุย ประตูน้ำ

นอกจากนี้ “ปู่ตึ๊ก” มีลูกศิษย์มากมาย และที่โด่งดังที่สุดคือ “หนู เรือนไทย” หรือ “หนู ดาวดึงส์” นพดล นภจร ซึ่ง เซียนตึ๊ก ได้นำศิษย์เอกมาปะทะคิวกับ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” รัชพล ภู่โอบอ้อม ซึ่งเป็นศิษย์เซียนกิ๊ด นครสวรรค์ จนโด่งดังเมื่อปี พ.ศ.2526 ที่เป็นหนแรกที่จัดแข่ง ณ ลานจอดรถราชตฤณมัยสมาคม มีนำเต็นท์มาขึงเป็นวงกลมและเช่าแอร์คอนดิชั่นมาเปิดในห้องแข่งขันมีคนเข้าชมอย่างมากมาย ซึ่งตอนนั้น ต๋อง อายุ 13 ส่วน หนู อายุ 15 ปี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน