แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือทีมชาติอังกฤษ ออกมาประกาศว่าขุนพล“สิงโตคำราม” จะลงเล่นในเกมฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2020 รอบคัดเลือกกับมอนเตเนโกร ในวันที่ 14 พ.ย. นี้ โดยไม่มีชื่อของ ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกตัวเก่งจากแมนฯ ซิตี้ หลังจากที่เจ้าตัวก่อเหตุวุ่นวายในแคมป์ซ้อมที่เซนต์ จอร์จ ปาร์ก ซึ่งมีการเปิดเผยว่า เกิดจากการมีปากเสียงกับเพื่อนร่วมทีม แต่ไม่ได้มีการลงรายละเอียดมากกว่านี้
อย่างไรก็ตามหลายฝ่ายคาดกันว่าเป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องมาจากจังหวะที่ ราฮีม มีปากเสียงกับ โจ โกเมซ กองหลังของลิเวอร์พูล ในเกมพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่หงส์แดง เปิดบ้านชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-1 เมื่อ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา และทั้งคู่ต้องมาเข้าแคมป์เก็บตัวทีมชาติอังกฤษร่วมกันต่อในขณะนี้
โดยเซาธ์เกต พูดถึงการตัดชื่อสเตอร์ลิง ในเกมดังกล่าว ว่า “โชคไม่ดีที่อารมณ์ในเกมเมื่อวันอาทิตย์ยังไม่จบลง หนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่และความแข็งแกร่งของเรา คือ การที่เราต้องแยกความเป็นอริของสโมสรออกจากทีมชาติ เราตัดสินใจที่จะไม่พิจารณาราฮีมสำหรับโอกาสในการลงเล่นในเกมกับมอนเตเนโกรในวันพฤหัสบดี ผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องกับทีมแล้ว สำหรับสิ่งที่เราตัดสินใจครั้งนี้ ตอนนี้การตัดสินใจออกมาจากความเห็นพ้องกันของทั้งทีม มันเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องสนับสนุนนักเตะและมีสมาธิกับเกมคืนวันพฤสบดีนี้”
ทางด้านราฮีม สเตอร์ลิง ออกมาเปิดใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว ว่า “ทั้ง โจ และ ผม ได้พูดคุยกันแล้ว และจะก้าวข้าวเรื่องนี้ไป เราอยู่ในกีฬาที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์ค่อนข้างสูง ผมเป็นลูกผู้ชายพอที่จะยอมรับในเรื่องที่เกิดขึ้น นี่คือเหตุผลที่เราเล่นกีฬาชนิดนี้ มันเป็นเพราะความรักที่เรามีให้กับมัน ผมและ โจ โกเมซ อยู่ในจุดที่ดีแล้ว เราต่างเข้าใจกัน มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเพียง 5 หรือ 10 วินาที และมันจบแล้ว เราจะก้าวต่อไปและไม่ทำให้เรื่องมันใหญ่ไปกว่านี้ เรามามุ่งมั่นไปกับเกมในวันพฤหัสบดีนี้ดีกว่า”
ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่กำลังจะลงเตะเกมนานาชาตินัดที่ 1,000 ของพวกเขาด้วยการพบกับมอนเตเนโกร ที่สนามเวมบ์ลีย์ ซึ่งหากพวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้ในแมตช์นี้ก็จะได้รับการการันตีคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลยูโร 2020 รอบสุดท้ายทันที แม้ว่าจะเหลือเกมอีกนัด
ทั้งนี้หากพวกเขาทำได้แค่เสมอในเกมดังกล่าวก็อาจทำให้พวกเขาตีตั๋วเข้ารอบสุดท้ายเลยได้เช่นกัน หากเกมการแข่งขันคู่ระหว่างเช็กกับโคโซโวออกมาเป็นผลเสมอ โดยเกมสุดท้ายของอังกฤษจะต้องบุกไปเยือนโคโซโว ในวันที่ 17 พ.ย. นี้
