การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 16 พ.ค. ทีม “เรือใบสีฟ้า” แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านรับ ทีม “แบ็กกี้ส์” เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน

เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ ต้องการ 3 คะแนน เพื่อลุ้นตั๋วไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า ขณะที่ เวสต์บรอมวิช ไม่มีลุ้นอะไรแล้ว

เริ่มครึ่งแรกเจ้าถิ่นเริ่มต้นได้ดีกว่า และขึ้นนำ 1-0 เควิน เดอ บรอยน์ หลุดเข้าไปทางเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลาง และเป็น กาเบรียล เฮซุส ที่วิ่งมายิงเข้าประตูไป ในนาที 27

จากนั้นอีก 2 นาทีต่อมา เดอ บรอยน์ จะได้สับไกจากหน้าเขตโทษ ส่งบอลตุงตาข่าย ให้แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ 2-0 ในนาที 29

ช่วงที่เหลือไม่มีทีมไหนยิงเพิ่มได้จบครึ่งแรก แมนฯ ซิตี้ ขึ้นนำ เวสต์บรอมวิช 2-0

ครึ่งหลัง ทีม “เรือใบสีฟ้า” ยังเล่นได้ยอดเยี่ยม ก่อนมาได้ประตูเพิ่มอีก จากจังหวะที่ ยาย่า ตูเร่ ทำชิ่งกับเพื่อน ก่อนหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ ให้แมนฯ ซิตี้ นำห่าง 3-0 ในนาที 57

จากนั้น นาที 62 แมนฯ ซิตี้ เปลี่ยนตัว ดาบิด ซิลบา ออก และส่ง ปาโบล ซาบาเลต้า แบ็กขวาตัวเก๋าของทีมลงสนาม โดยเกมนี้ถือเป็นการเล่นในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม นัดสุดท้ายของ ซาบาเลต้า หลังจากที่เจ้าตัวจะหมดสัญญากับทีมเมื่อจบฤดูกาลนี้

ช่วงท้ายเกม เวสต์บรอมวิช มาได้ประตูตีไข่แตก จาก ฮัล ร็อบสัน-คานู ในนาที 87

อย่างไรก็ตามช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมไหนยิงเพิ่มได้ จบเกม แมนฯ ซิตี้ เปิดบ้านถล่ม เวสต์บรอมวิช 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 75 คะแนน จาก 37 นัด รั้งอันดับ 3 โดยมีแต้มห่างจาก ลิเวอร์พูล อันดับ 4 อยู่ 2 แต้ม และ ห่างจาก อาร์เซนอล อันดับ 5 อยู่ 3 แต้ม ส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ ต้องการอีกแค่ 1 แต้ม ในเกมสุดท้ายของฤดูกาลที่จะบุกเยือนวัตฟอร์ด วันที่ 21 พ.ค. นี้ เพื่อคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน