“เมสซีเจ”ชนาธิป สรงกระสินธ์ นักเตะทีมชาติไทย และสโมสร “กิเลนผยอง”เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด เตรียมตัวย้ายไปร่วมทีมคอนซาโดเล ซัปโปโร ทีมน้องใหม่ศึกเจ-ลีก ประเทศญี่ปุ่น ที่รั้งอันดับ 15 ของตารางในตอนนี้ ซึ่งเลก 2 เตะช่วงเดือนก.ค. ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปีครึ่ง โดยชนาธิปจะเดินทางไปในช่วงกลางเดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ ชนาธิป กล่าวถึงฟุตบอลญี่ปุ่นว่า มีการเปลี่ยนถ่ายบอลอย่างรวดเร็ว ผู้เล่นทุกตำแหน่งสามารถสร้างสรรค์เกมขึ้นมาด้วยตัวเองได้ บางครั้งเกมรุกขึ้นมาตั้งแต่ผู้รักษาประตูกับเซ็นเตอร์แบ๊ก และที่ตนเคยซ้อมร่วมกับทีมชิมิซึ เอสพัลส์ เห็นชัดเลยว่ามีความเป็นมืออาชีพอย่างมาก ซ้อมอย่างเต็มที่ ไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ ยอมรับว่าตอนนี้ฟุตบอลในประเทศไทยยังห่างกับประเทศญี่ปุ่นมาก
“ผมอยากจะออกไปหาความท้าทายใหม่ๆ แล้ว ผมรู้ตัวดีว่ายังไม่เก่งมากขนาดนั้น แต่อยากจะไปแสดงฝีเท้าให้ต่างประเทศได้รู้จักคนไทยบ้าง เมื่อไปถึงจะพยายามแสดงความสามารถออกมาให้มากที่สุด และพาทีมขยับอันดับขึ้นไปถึงเลขตัวเดียวให้ได้” ชนาธิป กล่าว
เมสซี่เจ ยังกล่าวถึงเรื่องของการเตรียมตัวว่าได้พยายามศึกษาภาษาญี่ปุ่น แต่ด้วยโปรแกรมการแข่งและซ้อมที่แน่น ทำให้ไม่มีโอกาสลงเรียนอย่างจริงจัง ได้แต่ศึกษาด้วยตัวเอง มีให้ นาโอกิ อาโอยามะ เพื่อนร่วมทีมชาวญี่ปุ่นช่วยสอนอยู่บ้าง ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่ยาก ช่วงแรก ทางเอสซีจี เมืองทองฯ จะมีล่ามตามไปด้วย นอกจากนี้ตนได้ทักทายเพื่อนร่วมทีมใหม่ ทางโลกโซเชียลบ้าง
ด้าน “โค้ชเฮง”นายวิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งเคยเดินทางไปค้าแข้งกับทีมยันมาร์ ดีเซล หรือ เซเรโซ โอซากา ในปัจจุบัน กับเป็นโค้ชให้ทีมกัมบะ โอซากา กล่าวว่า ฟุตบอลลีกญี่ปุ่นเพรสซิ่งรวดเร็ว รวมทั้งการเคลื่อนที่ต่างๆ สิ่งที่ชนาธิป จะต้องไปเรียนรู้อย่างหนึ่งคือการเล่นเกมรับ และการทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายจากโค้ช ขณะเดียวกันเมื่อไม่มีคนดูแลเหมือนในไทย ต้องบริหารเวลาตัวเองให้ดี และรักษาวินัยเอาไว้ให้ได้ทั้งในและนอกสนาม ทำความเข้าใจกับระบบการเล่นของทีมให้รวดเร็ว
“สิ่งที่ห่วงสำหรับ เจ คือเรื่องภาษา เพราะภาษาญี่ปุ่นนั้นยาก อยากให้ชนาธิป ปรับตัวได้ และได้เล่นในเจลีกอย่างน้อยไปสัก 2-3 ปี” โค้ชเฮงกล่าว
