บิ๊กอ๊อด ยกทีมชนะเลือกตั้งนายกสมาคมบอล ชี้ได้เวลาเดินหน้าสานงานบริหารและพัฒนาลูกหนังไทยอย่างยั่งยืนตามแผนพัฒนาฟุตบอลไทย 20 ปี

บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมคนปัจจุบัน และ “บิ๊กอู๊ด”ดร.ภิญโญ นิโรจน์ ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในวันที่ 12 ก.พ. ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ลาดพร้าว โดยระหว่างการโหวตลงคะแนน แม้ว่าการนับคะแนนทั้งตำแหน่งนายกสมาคม, อุปนายก และคณะกรรมการกลางจะยังไม่แล้วเสร็จ แต่ ดร.ภิญโญ ได้เดินออกจากห้องประชุมเดินทางกลับทันที

 

ทั้งนี้แม้การนับคะแนนในส่วนต่างๆ จะยังไม่เสร็จสิ้น แต่มีรายงานว่า “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ เป็นฝ่ายชนะ ดร.ภิญโญ ด้วยคะแนน 51-17 จากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงทั้งหมด 69 เสียง ได้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อีก 1 สมัย ระยะเวลา 4 ปี

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า “ผมต้องขอขอบคุณสโมสรสมาชิกทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจเลือกผมและทีมงานทั้งหมดให้ทำหน้าที่บริหารสมาคมอีกครั้ง ขอบคุณตัวแทนฟีฟ่า เอเอฟซี และการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ได้เข้าร่วมในการเลือกตั้งครั้ง”

 

“พวกเรามีความุ่งมั่นที่จะพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวหน้าอย่างเป็นระบบแบบแผน เชื่อว่าด้วยศักยภาพของแต่ละคนจะช่วยกันบริหารสมาคมให้ก้าวหน้า ก้าวไกล ตามแผนพัฒนาฟุตบอลไทย 20 ปี แม้ว่างานในวันข้างหน้าจะเป็นเรื่องยาก แต่จากกำลังใจจากทั้งสโมสร แฟนบอลจะช่วยให้เราทำงานได้อย่างที่หวังไว้ ส่วนเรื่องที่จะมีการฟ้องร้องนั้น หากข้องใจเรื่องอะไร เป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่ทุกคนจะทำได้ และไปรอฟังคำชี้แจงในศาล ขณะที่การเลือกตั้งแบบลับเป็นไปตามระเบียบฟีฟ่า และสมาคม การทำงาน 4 ปีที่ผ่านมา มีความยากลำบาก เหมือนซื้อร้านเก่าที่ผุพัง เพื่อซ่อมจนอยู่ได้ ตอนนี้ 4 ปีผ่านไป เราพร้อมจะเดินไปข้างหน้า”

 

หลังการเลือกตั้ง “บังยี”วรวีร์ มะกูดี อดีตนายกสมาคมและผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง แต่โดนสำนักเลขาธิการสมาคมฟุตบอล ตัดสิทธิ์เนื่องจากขาดคุณสมบัติ กล่าวว่า “การเลือกตั้งนายกสมาคมครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่วุ่นที่สุดเท่าที่ผมเคยมีส่วนร่วม หลังจากนี้จะดำเนินการฟ้องร้องทั้งในและต่างประเทศ เรื่องกระบวนการเลือกตั้งที่ไม่ถูกต้อง โดยผมพยายามชี้แจงเรื่องนี้ให้กับทั้งฟีฟ่าและเอเอฟซีแล้ว แต่ทั้งสองหน่วยงานยังให้ความเชื่อมั่นกระบวนการตรวจสอบของสมาคม ซึ่งผมทำอะไรไม่ได้ต้องปล่อยให้การเลือกตั้งดำเนินต่อไป”

 

ด้าน “ทนายอ๊อด”ภีมเดช อมรสุคนธ์ ผู้สมัครตำแหน่งกรรมการกลาง กล่าวว่า “จะฟ้องต่อศาลแพ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตร 100 ว่า การประชุมครั้งใด ถ้าได้มีการนัดประชุมหรือมีการลงมติโดยไม่ปฏิบัติหรือฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคมหรือบทบัญญัติในส่วนนี้ สมาชิกหรือพนักงานอัยการอาจร้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนมติในการประชุมนั้นได้ แต่ต้องร้องขอต่อศาลภายในหนึ่งเดือน นับตั้งแต่วันที่มีการประชุมลงมติ เนื่องจากการเลือกตั้งไม่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับ ผู้แทนสโมสรสมาชิกจะต้องมีหนังสือแต่งตั้งเป็นตัวแทนที่ถูกต้อง ไม่ใช่เพียงหนังสือมอบอำนาจเหมือนการเลือกตั้งนายกสมาคมครั้งนี้ ดังนั้นถ้าไม่มีหนังสือแต่งตั้งจะไม่สามารถออกเสียงเลือกตั้งในวันนั้นได้”

 

สรุปผู้ได้รับเลือกตั้ง ตำแหน่งต่างๆ ซึ่งทีมของ พล.ต.อ.สมยศ ได้รับเลือกยกทีม ทั้ง 19 คน มีดังนี้ นายกสมาคม – พล.ต.อ.สมยศ, อุปนายก – นายอรรณพ สิงห์โตทอง, นายศุภสิน ลีลาฤทธิ์, นางลัขณานันท์ ลักษมีธนานันต์, น.ส.ศิริมา พานิชชีวะ, นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ

 

กรรมการกลาง – นายยุทธนา หยิมการุณ, พล.ร.ต.นิกูล อินทรสุวรรณ, นายธวัช อุยสุย, นายมิตติ ติยะไพรัช, นายทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์, นายสมเกียรติ กิตติธรกุล, รศ.ดร.วิชิต คนึงสุขเกษม, นายธนวัชร์ นิติกาญจนา, น.ส.นันทนี วงศ์อำนิษฐกุล, นายณัฐ ชยุติมันต์, นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ, นายพาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ และนายบริพัฒน์ สมมี

 

โดยใน 19 คนนี้ มีสภากรรมการเดิม 11 คน คือ พล.ต.อ.สมยศ, นายศุภสิน, นางลัขณานันท์, นายธวัช, นายทรงเกียรติ, นายสมเกียรติ, รศ.ดร.วิชิต, นายธนวัชร์, น.ส.นันทนี, นายณัฐ, นายอนุสรณ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน