เมื่อ 14 มิ.ย. ที่ห้องประชุมสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ “บิ๊กอ๊อด”พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พร้อมด้วย มิโลวาน ราเยวัช และทีมงานสต๊าฟโค้ชร่วมประชุมหารือเพื่อรายงานภาพรวมการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่มบี นัดที่ 8 เมื่อ 13 มิ.ย. ซึ่งทีมชาติไทย เปิดบ้านเสมอกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1-1

 

“บิ๊กอ๊อด” กล่าวว่า “เมื่อเช้านี้โค้ชและทีมงานได้เข้ามารายงานผลการแข่งขันถึงบทสรุปต่างๆ และผมได้ถามโค้ชว่าจากการทำงานกับนักเตะมีโอกาสหรือไม่ที่ไทยจะพัฒนามากกว่านี้ ซึ่งโค้ชบอกว่าแทบไม่อยากเชื่อว่านักเตะไทยจะทำผลงานได้ขนาดนี้ ถ้ามีการเตรียมทีมวางแผนที่ดีเชื่อว่าทีมเราจะยกระดับตัวเองให้สูงขึ้นไปได้อีก”

 

“จากผลงานที่ออกมาต้องยอมรับว่าเรามีเวลาให้โค้ชค่อนข้างน้อยนอกจากนี้นักเตะของเราหลายคนเพิ่งเข้าร่วมทีมกัน ถ้าเรามีเวลาให้เขามากกว่านี้ในการเตรียมทีมน่าจะทำให้มีผลการแข่งขันมากกว่านี้ นอกจากนี้โค้ชยังบอกด้วยว่าสิ่งที่ต้องทำควบคู่กันไปด้วยนั่นคือการหานักเตะหน้าใหม่เข้ามาเพิ่มเติมด้วยเพื่อเป็นตัวแทนนักเตะตัวหลักที่ได้รับบาดเจ็บหรือไม่สามารถช่วยทีมได้”

 

“จากนี้ไทยมีโปรแกรมที่สำคัญนั่นคือฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 ในช่วงเดือนก.ค. ซึ่งตอนนี้เราได้พยายามติดต่อทีมมาแข่งด้วยหลายทีม และเราต้องการได้ทีมที่มีคุณภาพมาร่วมเพื่อให้แฟนบอลได้ชมเกมที่ดี และให้สมกับที่เป็นถ้วยพระราชทาน แต่เนื่องจากเวลาที่เราจัดแข่งไม่ตรงกับฟีฟ่าเดย์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่ทีมใหญ่จะตอบรับ วันนี้ตอบรับ อีกวันบอกยกเลิก เพราะทีมเหล่านี้ไม่สามารถเรียกผู้เล่นตัวหลักมาร่วมทีมได้”

 

“ทีมที่เรามีการติดต่อและเชื่อมั่นว่าจะได้มามีทีมสำคัญๆ อย่างทีมชาติฝรั่งเศส ที่ตอนแรกตอบรับมา แต่สุดท้ายแจ้งปฏิเสธ รวมถึงอุรุกวัย ที่บอกจะมาแต่เพิ่งแจ้งขอยกเลิกมา ล่าสุดทีมชาติเช็กเพิ่งตอบปฏิเสธเมื่อกลางดึกวันอังคารที่ผ่านมา ดังนั้นเราขอเวลาอีกหน่อยในการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าทีมใดจะตอบตกลงมาบ้างจึงยังไม่อยากบอกอะไรตอนนี้มากนักเกรงว่าจะเกิดปัญหา แต่เชื่อว่าภายในวันศุกร์นี้ทกอย่างน่าจะชัดเจน”

 

ด้าน ราเยวัช กล่าวว่า “อย่างที่ทราบว่าเรามีเวลาในการเก็บตัวค่อนข้างน้อยทั้งในการอุ่นเครื่องกับอุซเบกิสถาน รวมถึงการฝึกซ้อมก่อนเจอกับยูเออี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่มีนักเตะตัวหลักหลายคนได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวออกไป แต่ต้องขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องในการเก็บตัวครั้งนี้ซึ่งภาพรวมถือว่าเป็นการเตรียมทีมอย่างเต็มที่แล้ว”

 

“ส่วนเกมกับยูเออีจะเห็นว่าเกมโต้กลับของไทยยังดูไม่เฉียบคมมากนัก ส่วนหนึ่งเพราะเราต้องการให้นักเตะเล่นเกมรับอย่างมีวินัย เพราะจากเกมที่ผ่านมาเรามีแต้มเดียวและมีผลต่างประตูได้เสียติดลบอยู่ถึง 16 ประตู ดังนั้นเราต้องวางแผนการเล่นเพื่อแก้เกมรับเป็นหลัก เพราะทีมระดับโลกจะต้องมีเกมรับที่ดีก่อนจึงจะสามารถสร้างเกมรุกที่เฉียบคมต่อไป”

 

“อย่างไรก็ดีถือว่าการออกสตาร์ตที่ดีในการเริ่มต้นด้วยกันและเชื่อว่าจากนี้เราจะพัฒนาขึ้นได้อีกผมอยากให้แฟนบอลมาร่วมให้กำลังใจนักเตะเพราะเรายังมีโปรแกรมให้เล่นในบ้านอีกสองอย่างนั่นคือฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ และฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย พบกับอิรัก”

 

“ตอนนี้ไทยอยู่อันดับ 19 ของทวีปเอเชีย แต่ตลอดเวลาร่วมสองเดือนที่ได้มาทำงานที่ไทยและได้ติดตามดูฟอร์มนักเตะในลีกไทยมาตลอดนั้น นักเตะไทยมีศักยภาพและความทุ่มเทอย่างมากที่จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อทีม ดังนั้นการทำงานที่ดีและมีศักยภาพจะทำให้ไทยพัฒนามากขึ้นไปอีกในอนาคต ถ้าเรามีการพัฒนาร่วมกันที่ดีมากขึ้นเชื่อว่ามีโอกาสที่ไทยจะขึ้นไปถึงท็อป 10 ของเอเชียได้เช่นกัน”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน