เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย “บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติ แถลงเปิดตัว โฮเซ่ มาเรีย ปาซอส เมนเดส หรือ “ปูลปิส” กุนซือชื่อดังชาวสเปน เข้ารับหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตซอลทีมชาติไทย ด้วยสัญญายาว 3 ปี จนถึงปี ค.ศ. 2020


“บิ๊กป๋อม” อดิศักดิ์ เผยว่า เราบรรลุเป้าหมาย สัญญา 3 ปี ในการคว้าตัว ปูลปิส กลับมาทำหน้าที่กุนซือทีมชาติไทยอีกครั้ง เหตุผลที่ต้องเซ็นสัญญาถึงปี 2020 เนื่องจากจะเป็นปีที่มีการแข่งขันฟุตซอลโลก ซึ่งเราต้องการให้ ปูลปิส ทำงานอย่างต่อเนื่อง ตนมั่นใจในความช่ำชองและคลุกคลีในวงการฟุตซอลเอเชียมากว่า 10 ปีของปูลปิส เชื่อว่าการต่อยอดครั้งนี้ จะไม่ต้องปรับตัวมากนัก เพราะปูลปิสรู้จักฟุตซอลไทยเป็นอย่างดี สามารถต่อยอดความสำเร็จเดิมที่ มิเกล โรดริโก้ ทำไว้ได้ อาจมีเรื่องราวแตกต่างบ้าง แต่ทั้งสองคนก็มีหลายๆอย่างคล้ายกัน มั่นใจว่า ปูลปิส คือคนที่เหมาะสมที่สุด

 
“ตอนที่ปูลปิส คุมทีมชาติไทยเมื่อปี 2008 เขาได้เข้ามาสร้างรูปแบบใหม่ให้ทีมชาติไทยมากมาย ทั้งยังเป็นโค้ชชาวสเปนคนแรกที่เข้ามาทำงานในเอเชีย ซึ่งช่วงระยะเวลาไม่นานเขาพาทีมชาติไทย คว้ารองแชมป์เอเชียครั้งแรกได้ในตอนนั้น แต่เมื่อผมหมดภาระหน้าที่กับสมาคมฟุตบอลฯ จึงทำให้ปูลปิส ต้องแยกทางกับทีมชาติไทยด้วย วันนี้ผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้ว จึงเหมือนปูลปิสเข้ามาตามความฝันอีกครั้งคือพาทีมชาติไทยเป็นแชมป์เอเชียให้ได้ ซึ่งเราไว้วางใจ ปูลปิส เนื่องจากรู้จักกันมานาน รู้ว่าเขาจริงจัง และทำงานหนักแค่ไหน เชื่อว่าปูลปิสจะทำเป้าหมายได้สำเร็จ”

 
“บิ๊กป๋อม” เผยอีกว่า ในปีนี้ทีมชาติไทยมีโปรแกรมแข่งขัน ซีเกมส์ ที่ประเทศมาเลเซีย เดือน ส.ค. รวมถึงเอเชียน อินดอร์ มาร์เชียล อาร์ต เกมส์ ครั้งที่ 5 ที่เติร์กเมนิสถาน เดือน ก.ย. ซึ่งในส่วนของซีเกมส์ นั้นเราไม่เคยพลาดแชมป์เลย และยังมั่นใจครั้งนี้จะคว้าแชมป์ได้เหมือนเดิม อย่างไรก็ตามเราคงไม่ส่งชุดใหญ่ลงเล่น เนื่องจากต้องการเปิดโอกาสให้ผู้เล่นใหม่ๆ ผสมผสานกัน และคงไม่ประมาททีมอื่นๆไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย เจ้าภาพ อินโดนีเซีย และเวียดนาม


ส่วน ปูลปิส เผยว่า ตนคุ้นเคยกับประเทศไทยมา 6 ปี โดยเป็นการทำงานกับทีมชาติไทย 4 ปี และทำสโมสร 2 ปี ดีใจที่ได้กลับมาบ้านหลังนี้อีกครั้ง ใน 3 ปีนี้เป้าหมายคือการล้มอิหร่าน และคว้าแชมป์เอเชีย มาครองให้ได้ ด้วยผู้เล่นใหม่ที่มี ผสมกับนักเตะเก่าอย่าง ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง, กฤษดา วงษ์แก้ว, จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ฯลฯ อย่างไรก็ตามเราจะมองไปข้างหน้า หรือย่ำอยู่กับที่ไม่ได้ เพราะยังมีทีมอื่นๆไล่หลังมาอย่าง เวียดนาม คอยก้าวข้ามเราอยู่

 
ปูลปิส เผยีอกว่า สิ่งที่ตนจะเข้ามาทำหน้าที่ครั้งนี้คือพัฒนาทีมอายุไม่เกิน 18 ปี อายุไม่เกิน 20 ปี และทีมชาติชุดใหญ่ไปด้วยกัน ซึ่งช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาที่ตนไม่ได้ทำงานในประเทศไทย มีนักเตะใหม่ๆแจ้งเกิดหลายคน ตนต้องพยายามเรียนรู้ และรู้จักนักเตะเหล่านี้ให้มากขึ้น ซึ่งจะพยายามให้ดีที่สุด และคว้าแชมป์ทุกรายการที่ทีมชาติไทยลงแข่งขันให้ได้

 
สำหรับ ปูลปิส ที่เพิ่งแยกทางกับทีมชาติอุซเบกิสถาน เคยเป็นกุนซือทีมชาติไทย มาแล้วเมื่อช่วงปี 2007-2011 ทำผลงานพาทีมชาติไทยคว้ารองแชมป์เอเชีย ปี 2008 และพาโต๊ะเล็กไทยไปลุยฟุตซอลโลก ที่บราซิล ปี 2008

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน