นักกีฬา 115 ทีมจำนวนเกือบ 1,000 คน แห่ร่วมโชว์ลีลาศิลปะมวยไทย ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 20 ช่วงวันที่ 28 มิ.ย.- 2 ก.ค.นี้ ณ ห้างเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต ชิงเงินรางวัลกว่า 2 ล้านบาท เพื่อเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์ศิลปะประจำชาติให้สืบทอดต่อไป พร้อมสองนโยบายรัฐบาลให้คนไทยหันมาสนใจการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น
น.ส.ดารณี ลิขิตวรศักดิ์ รองอธิบดีกรมพลศึกษา รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพลศึกษา เป็นประธานแถลงข่าวมหกรรมการประกวดศิลปะมวยไทย ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 20 ประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมแมนดาริน โดยการแข่งขันดังกล่าวจะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 28 มิ.ย.จนถึงวันที่ 2 ก.ค.นี้ ณ ห้องเวสต์เกตฮอลล์ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต แบ่งออกเป็นการประกวดศิลปะมวยไทย 2 ประเภท คือ 1.ประกวดไหว้ครูและทักษะมวยไทย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ชายคู่ หรือ หญิงคู่ จำนวน 10 ทีม, รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ชายคู่ จำนวน 15 ทีม, รุ่นอายุทั่วไป ชายคู่ จำนวน 20 ทีม และ รุ่นอายุทั่วไป หญิงคู่ จำนวน 15 ทีม และ 2. ประกวดคีตะมวยไทย (แอโรบิคมวยไทย) แยกออกเป็น 3 รุ่น คือ รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี จำนวน 15 ทีม, รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี จำนวน 15 ทีม และ รุ่นอายุทั่วไป จำนวน 25 ทีม รวมจำนวนทีมทั้งสิ้น 115 ทีม นักกีฬาทั้งหมด 849 คนจากสถาบันการศึกษาต่างๆทั่วประเทศ และเมื่อถ้ารวมกับเจ้าหน้าตลอดจนผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่า 1,000 คน ถือว่า มากที่สุดตั้งแต่กรมพลศึกษาจัดการแข่งขันมา เพราะเมื่อปีที่แล้วมีทีมเข้าร่วมแค่ 96 ทีมเท่านั้น นับว่า มีการพัฒนาดีขึ้นเป็นอย่างดี
สำหรับวัตถุประสงค์หลักของการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปะมวยไทยไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศและเป็นมรดกของโลกสืบทอดต่อไป อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สนใจศิลปะมวยไทยได้พัฒนาทักษะสู่ความเป็นเลิศในกีฬามวยไทย นอกจากนี้ยังเป็นการปลูกจิตสำนึกให้เด็กนักเรียน, นักศึกษา, เยาวชน และประชาชนทั่วไป ได้ตระหนักถึงความสำคัญของศิลปะมวยไทย และองค์ความรู้ในกีฬามวยไทย เพื่อต่อยอดก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายหลักทั้ง นักเรียน, นักศึกษา และ ประชาชนทั่วไป ที่สนใจสามารถเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ได้แบบไม่ต้องเสียเงิน แถมยังมีเงินรางวัลให้กับทีมชนะเลิศกลับบ้านไปอีกด้วย ได้แก่ ทีมชนะเลิศ การประกวดไหว้ครูและทักษะมวยไทย 25,000 บาท อันดับ 2 20,000 บาท และ อันดับ 3 10,000 บาท รางวัลชมเชย 2 รางวัลทีมละ 7,000 บาท ส่วน ทีมชนะเลิศ คีตะมวยไทย (แอโรบิคมวยไทย) 40,000 บาท อันดับ 2 25,000 บาท และ อันดับ 3 20,000 บาท รางวัลชมเชย 2 รางวัล ทีมละ 12,000 บาท รวมเงินรางวัลทั้งหมด 2,300,000 บาท
น.ส.ดารณี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพลศึกษา ได้กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามทุกวันนี้กีฬามวยไทยในบ้านเรามีทิศทางและการพัฒนาดีมากขึ้น เห็นได้จากความสนใจของประชาชนชาวไทยในเรื่องของการรักษาสุขภาพดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกาย อีกทั้งทางภาครัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญและสนใจในเรื่องนี้มาก ดังนั้นทางกรมพลศึกษาเองในฐานะที่กำกับดูแลกีฬาของชาติ จึงได้สนองนโยบายด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆให้กับเด็กและเยาวชนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อต้องการให้ทุกคนห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บ โดยเฉพาะการประกวดศิลปะมวยไทยครั้งนี้เป็นปีที่ 20 แล้ว ได้รับความสนใจและการตอบสนองเป็นอย่างดี คาดว่า ช่วงระหว่างการแข่งขันทั้ง 5 วัน จะมีจำนวนผู้ชมและกองเชียร์จากสถานบันต่างๆตลอดจนผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นหมื่นคน ทั้งนี้ยังจะเป็นการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยไปในตัวอีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน