ปกติแล้วแฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตที่ติดตามการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบในรายการต่างๆ มักคุ้นชินกับการแข่งขันรูปแบบปกติที่เฟ้นหาแชมป์ประจำสนามด้วยการพารถเข้าเส้นชัยให้ได้เป็นคันแรก ทว่าไม่ใช่กับการแข่งขันรายการ “ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง” ที่ญี่ปุ่น ซึ่งนอกจากใช้ความเร็วในการแข่งขันกับคู่ต่อสู้ในสนามแล้ว ยังต้องอาศัยความอึดทั้งร่างกาย จิตใจและเครื่องยนต์ ที่เหนือกว่าคนอื่นเพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งโพเดียมอันน่าภาคภูมิใจ

สำหรับการแข่งขัน ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง ปีนี้จัดขึ้นที่สนาม ซูซูกะ เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 29 กรกฏาคม 2560 ซึ่งมีทีมแข่งชั้นนำส่งทีมเข้าร่วมชิงชัยมากมาย รวมถึงทีมแข่งสัญชาติไทย 100 เปอร์เซ็นต์ทีมแรกอย่าง เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ นำทัพโดยสองนักบิดมือหลัก “เอ้” วรพงศ์ มาลาหวล, “ดรีม” สิทธิศักดิ์ อ่อนเฉวียง และมี “มุกข์” มุกข์ลดา สารพืช นักบิดสาวแกร่งหนึ่งเดียวของไทยเป็นกำลังสนับสนุน ควบคุมและวางแผนโดย “ฟิล์ม” รัฐภาคย์ วิไลโรจน์ เฮดโค้ช อดีตนักบิดขวัญใจชาวไทยที่มีประสบการณ์บิดในเวทีระดับโลกมาอย่างโชกโชน

การแข่งขันรถจักรยานยนต์มาราธอนรายการ “ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง” คือหนึ่งในรายการมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกแห่งวงการสองล้อ ที่นักบิดทั่วโลกล้วนใฝ่ฝันเพราะถือเป็นรายการที่ท้าทายความสามารถ แตกต่างจากรายการแชมเปียนชิพปกติทั่วไปที่อาศัยความเร็วและตัดสินตำแหน่งแชมป์ด้วยการพารถเข้าเส้นชัยคันแรก แต่รายการ “ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง” นั้นแตกต่างออกไปเพราะนอกเหนือจากรถที่สมรรถนะสุดยอด ฝีมือการขับที่ยอดเยี่ยม พลังกายและพลังใจของนักบิด คือสิ่งสำคัญสำหรับรายการนี้

กติกาแข่งขัน “ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง” นักบิดทุกคนที่ลงสนามจะต้องใช้เวลาตลอด 4 ชั่วโมงที่มีอยู่ของรายการนี้ ขับขี่ให้ได้จำนวนรอบมากที่สุด เพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นแชมป์ประจำรายการนี้ โดย 1 ทีมที่ส่งเข้าแข่งขันจะประกอบด้วยนักบิดมือหลัก 2 คน และมือสำรอง 1 คน ซึ่งแต่ละทีมจะต้องวางแผน กลยุทธ์ กันให้ดีว่าจะให้ใครออกไปแข่งก่อน โดยนักแข่งสามารถสลับสับเปลี่ยนกันได้ระหว่างแข่งขันเมื่อนำรถเข้าพิต หากเกิดกรณีใครคนใดคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ ก็จะเป็นโอกาสของมือสำรองที่ได้ลงแข่งขันแทน

ด้านของรถแข่งที่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานในครั้งนี้ ต้องเป็นรถแข่งที่มีกระบอกสูบที่ 600 ซีซี ซึ่งครั้งนี้ทาง เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เลือกใช้รถ Honda CBR600RR เป็นอาวุธหลัก และผู้จัดอนุญาตให้แต่ละทีมใช้ได้เพียง 1 คันเท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยนรถหรือเปลี่ยนยางระหว่างแข่ง อนุญาตเพียงให้นำรถมาซ่อมได้หากเกิดปัญหาระหว่างแข่ง เมื่อแก้ไขเสร็จก็ค่อยออกไปขับขี่ต่อไป และนอกจากการซ่อมรถ ผู้จัดการแข่งขันยังอนุญาตให้มีการเติมน้ำมันได้ แต่ต้องดับเครื่องและลงจากรถเสียก่อน เมื่อเต็มถังก็ค่อยขึ้นรถและสตาร์ทเครื่องออกไปลุยต่อ

ความสนุกของรายการนี้เริ่มต้นตั้งแต่การออกสตาร์ท เพราะนักแข่งทุกคนที่ผ่านการแข่งขันรอบควอลิฟายมาแล้ว เมื่อถึงวันจริงนักแข่งทุกคนจะต้องวิ่งจากฝั่งตรงข้ามไปที่รถของตัวเองแล้วสตาร์ทรถออกตัวไป โดยห้ามมีการสตาร์ทรถทิ้งเอาไว้ก่อนกำหนด เพื่อไม่ให้มีการได้เปรียบเสียเปรียบกัน แบบที่เรียกกันว่า Le Mans Starts จากนั้นก็เป็นหน้าที่ของนักแข่งและทีมงานทุกคนที่จะต้องช่วยกันพารถคันเดียวที่มีอยู่ วิ่งเข้าเส้นชัยให้ได้มากกว่าทุกทีมเพื่อตัดสินผลแพ้ชนะเมื่อเวลาสิ้นสุดลง 4 ชั่วโมง ดังนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของแต่ละทีม หากหวังชัยชนะก็ต้องวางแผนให้ดีไม่ให้ผิดพลาด

สำหรับการแข่งขันรถจักรยานยนต์รายการใหญ่ระดับโลก “ซูซูกะ เอ็นดูรานซ์ 4 ชั่วโมง” จะทำการชิงชัยกันในวันที่ 29 กรกฏาคม นี้ ณ สนาม ซูซูกะ เซอร์กิต ประเทศญี่ปุ่น โดยแฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทย สามารถติดตามข่าวสารและร่วมส่งแรงใจเชียร์ทีมซิ่งสัญชาติไทย 100 เปอร์เซนต์ของ “เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์” ลงแข่งขันเวทีระดับโลกได้ทางเว็บไซต์ www.aphondaracingthailand.com

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน