เมื่อ 24 ก.ค. ที่สนามไดร์ฟกอล์ฟ เกียรติธาดา “บิ๊กรัง”รังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทยฯ ประธานแถลงข่าวความพร้อมทีมกอล์ฟทีมชาติไทย ชุดสู้ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่าง 19-30 ส.ค. โดยมีนักกอล์ฟชาย 4 คนประกอบด้วย “ซูม”วิชยานนท์ โชติหิรัญรุ่งเรือง, “เพชร”สดมภ์ แก้วกาญจนา, “จิ๋ว”กัมลาศ นาเมืองรักษ์ และ “เกะ”โคสุเกะ ฮามาโมโต้ นักกอล์ฟหญิง 3 คน “จีน”อาฒยา ฐิติกุล, “อ๋อม”ฐิตาภา ภักดีเศรษฐกุล และ “มีน”มนัสยา ซีมากร ชิง 4 เหรียญทอง คือบุคคลชาย-หญิง และประเภททีมชาย-หญิง

สำหรับกอล์ฟในซีเกมส์ครั้งนี้เจ้าภาพมาเลเซีย ปรับกฎการแข่งขันโดยประเภทบุคคลทั้งชายและหญิงจะเล่นแบบสโตรกเพลย์ผู้ที่ทำคะแนนดีที่สุดคว้าเหรียญทอง จากนั้นจะใช้คะแนนจากประเภทบุคคลในการประกบคู่เล่นประเภททีมซึ่งจะแข่งแบบแมตช์เพลย์ โดยทีมชายตัดเอา 3 คนที่ดีที่สุด ส่วนทีมหญิงเลือก 2 คนที่ดีที่สุด

 

“บิ๊กรัง” กล่าวว่า ซีเกมส์ครั้งนี้นักกีฬาไทยมีความพร้อมเป็นอย่างมากและผลงานตลอดปีที่ส่งเข้าร่วมแข่งขันเด็กไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ดังนั้นครั้งนี้จึงมีเป้าหมายเดียวนั่นคือการคว้าทั้ง 4 เหรียญทอง แม้กีฬาจะเป็นเรื่องของการแข่งขันและมีแพ้-ชนะ แต่ครั้งนี้จะไม่แพ้และป้องกันแชมป์เอาไว้ได้อย่างแน่นอน ส่วนเรื่องกำลังใจนั้นมีให้อย่างแน่นอนแต่บอกไม่ได้ว่าเท่าไหร่แต่รับรองได้ว่าเยอะ

 

นอกจากนี้นายกสมาคมกีฬากอล์ฟฯ ยังกล่าวอีกว่าตอนนี้นักกีฬากอล์ฟไทยถือเป็นอันดับหนึ่งของอาเซียนหากเพียงซีเกมส์ยังทำไม่ได้คงไม่ต้องทำอย่างอื่น ดังนั้นเป้าหมายหลักของสมาคมคือการยกระดับนักกีฬาให้สูงขึ้นสู่ระดับชั้นนำของเอเชียเพราะตอนนี้มีเพียงนักกีฬาจากญี่ปุ่น และเกาหลีใต้เท่านั้นที่ดีกว่าไทย

 

ด้าน กัมลาศ นาเมืองรักษ์ กล่าวว่า สำหรับทีมชายทั้ง 4 คนเป็นการติดทีมชาติครั้งแรก ไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากนักเนื่องจากคู่แข่งได้เห็นฟอร์มมาหมดแล้วที่น่าจะพอสูสีคงเป็นนักกีฬาจากสิงคโปร์ ส่วนการที่มาเลเซียเปลี่ยนกฎในประเภททีมมาเล่นแบบแมตช์เพลย์นั้นถือว่าเป็นเรื่องดีเพราะเป็นการแข่งที่คุ้นเคยของนักกีฬาไทยส่วนใหญ่อยู่แล้ว ดังนั้นคงไม่มีปัญหาอะไรในการป้องกันเหรียญทอง ขณะที่เรื่องความพร้อมตอนนี้ราว 80 เปอร์เซ็นต์และเหลือเวลาอีกเกือบเดือนก่อนเริ่มแข่งเชื่อว่าเมื่อถึงตอนนั้นคงพร้อมเต็มร้อย โดยในสัปดาห์หน้าทีมชายจะเดินทางไปดูสนามซ้อมเนื่องจากยังไม่เคยไปสนามซ้อมมาก่อน

 

ด้าน “น้องจีน” กล่าวว่า ในการแข่งขันซีเกมส์หนแรกของตนเองแม้จะถูกวางเป็นตัวเต็งแต่ไม่ได้กดดัน กลับรู้สึกภาคภูมิใจมากกว่า โดยสนามแข่งขันที่ เดอะ มาย รีสอร์ต เคยไปแข่งขันมาแล้วเป็นสนามที่ค่อนข้างยาก เพราะแฟร์เวย์แคบ ถ้าตีหลุดจะแก้ยากเพราะด้านข้างเป็นป่าลึก และแน่นอนว่าอยากได้เหรียญทองในหนแรกที่ไปแข่งขัน

 

“ส่วนเรื่องเทิร์นโปรนั้นแม้จะสามารถเทิร์นโปรได้แล้ว แต่ยังขอเล่นทีมชาติเก็บเกี่ยวประสบการณ์อีกสักระยะ เนื่องจากการทีออฟ และการตีไดร์ฟต่างๆยังสู้ระดับมืออาชีพไม่ได้ ร่วมถึงสภาพร่างกายที่ยังไม่พร้อม และน่าจะเทิร์นโปรตอนอายุราวๆ 16-17 ปีซึ่งร่างกายน่าจะพร้อมกว่านี้”

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน